- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 16 September 2014 23:13
- Hits: 3507
แรงกดดันด้านต้นทุนและเวลา ได้ขับเคลื่อนให้เกิดนวัตกรรมใหม่ทางการบริหารจัดการโครงการในภูมิภาคเอเชีย
· โรงไฟฟ้าสองแห่งในประเทศไทย ซึ่งแต่ละโรงอยู่ห่างกันถึง 800 กิโลเมตร ได้ถูกสร้างให้เสร็จสมบูรณ์พร้อมกัน โดยทีมงานเดียวกัน 1.5 ล้านครัวเรือนจะได้รับประโยชน์จาก พลังงานที่เพิ่มขึ้น 1,530 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นพลังงานที่มีความจำเป็นในครัวเรือนเป็นอย่างมาก
แรงกดดันด้านต้นทุนและการแข่งขันเพื่อที่จะเชื่อมต่อช่องว่างความต้องการของการใช้ไฟฟ้าทั่วภูมิถาคทั้งเอเชียได้กระตุ้นให้ EPC หรือ ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการ (ดำเนินการออกแบบ, จัดซื้อ และควบคุมการก่อสร้าง) ได้นำแนวทางการบริหารจัดการโครงการแบบทางเลือกมาใช้ เพื่อที่จะสามารถนำพลังงานออกสู่ตลาดได้มากขึ้น และ รวดเร็วยิ่งขึ้นอย่างน่าเชื่อถือ รวมทั้งสามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ความสำเร็จของโครงการ จะนะ บล๊อค 2 และวังน้อย บล๊อค 4 ในประเทศไทย นับเป็นตัวอย่างของแนวคิดใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่องค์ประกอบหลักที่สำคัญต่างๆ ของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั้งสอง ได้รับการจัดการและดำเนินการไปพร้อมๆกันจากทีมงานเดียวกัน
แบล็ค แอนด์ วิชช์ ดำเนินโครงการ จะนะ 2 และวังน้อย 4 ภายใต้การว่าจ้างของมารุเบนิ คอร์ปอเรชั่น นับตั้งแต่ปี 2554 ด้วยตารางงานที่คล้ายคลึงกันเกือบทั้งหมด รวมทั้งยังมีการบริหารจัดการโครงการและงานออกแบบหลักโดยทีมวิศวกรเดียวกัน ถึงแม้ว่าทั้งสองโครงการจะมีลักษณะ และพื้นทีหน้างานที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงก็ตาม และอีกทั้งยังตั้งอยู่ห่างกันถึง 800 กิโลเมตร
“อัตราการเติบโตของภูมิภาคเอเชียส่วนมากขึ้นอยู่กับว่าจะมีโครงสร้างพื้นฐานถูกพัฒนาขึ้นมากน้อยแค่ไหนในช่วงเวลาไปไม่กี่ปีนี้ เราเห็นได้ว่านักพัฒนาพลังงานได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการ เพื่อที่จะสามารถนำเสนอวิธีแก้ปัญหาพลังงานสู่ตลาดได้เร็วยิ่งขึ้น” คุณจอห์น กัสท์กี รองประธานอาวุโสของ แบล็ค แอนด์ วิชช์ ในกลุ่มธุรกิจพลังงานประจำกรุงเทพมหานครกล่าว"โครงการจะนะและวังน้อยได้ตั้งมาตรฐานแนวทางใหม่ล่าสุดสำหรับวิธีการในการจัดการบริหารโครงการทางด้านพลังงานที่สามารถนำไปใช้กับโครงการอื่นๆได้ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย วิธีการนี้เป็นส่วนผสมที่จำเพาะ แต่การที่เราสามารถบรรลุเป้าหมายตามกำหนดการที่ปฏิบัติได้จริง และสามารถรวมทีมที่เหมาะสมที่สุดในเวลาที่เหมาะสม ได้ช่วยนำไปสู่การใช้ต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และวิธีการบริหารโครงการที่น่าเชื่อถือ”.
ขอบข่ายงานของ แบล็ค แอนด์ วิชช์ ประกอบด้วยวิศวกรรมการออกแบบ และการจัดซื้อเครื่องมือที่ใช้ในงานควบคุมระบบสมดุลของโรงไฟฟ้า (balance of plant) และงานบริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งความช่วยเหลือทางด้านเทคนิค และการจัดหาเครื่องกำเนิดไอน้ำแบบกู้คืนความร้อน (heat recovery steam generators) รวมไปถึงงานคอมมิชชั่นนิ่งอุปกรณ์ในขอบข่ายของ แบล็ค แอนด์ วิชช์
วิชาล บาลิกา ผู้จัดการโครงการของแบล็ค แอนด์ วิชช์ ได้กล่าวถึงโครงการนี้ว่า “เราได้ใช้ทีมงานหลัก ทีมเดียวกันในส่วนงานวิศวกรรมที่สำคัญเพื่อเพิ่มประสิทธิผล สำหรับส่วนงานที่แต่ละโครงการมีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน เราค่อยจัดสรรทรัพยากรจำเพาะ เพื่อให้แน่ใจว่าการประสานงานเป็นไปอย่างสอดคล้อง และเหมาะสมกับรายละเอียดเฉพาะของเต่ละโครงการทรัพยากรเพิ่มเติมอื่นๆที่จำเป็นก็จะถูกระดมไปยังโครงการทั้งสองเพื่อให้มั่นใจว่างานสามารถดำเนินไปได้ตามกำหนด ในขณะเดียวกันก็ยังคงสามารถรักษามาตรฐานความปลอดภัยไว้ได้อีกด้วย”
“แบล็ค แอนด์ วิชช์ ทำได้ตามความคาดหวังที่เราตั้งไว้ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มดำเนินการ พร้อมทั้งส่งทีมงานที่มีความคล่องตัว และทุ่มเทให้เข้ามาจัดการด้านตารางเวลา และคุณภาพตามมาตรฐานที่เราต้องการอย่างต่อเนื่อง สมาชิกทุกคนในทีมงาน และผู้ร่วมงานนั้นมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์และจุดมุ่งหมายเดียวกัน รวมไปถึงความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่ทำให้ประสบการณ์ของโครงการเป็นที่น่าจดจำ” ทาคาฮิโร คาวาชิ ผู้อำนวยการของโครงการจะนะ 2 และวังน้อย 4 มารุเบนิ คอร์ปอเรชั่นกล่าว
โครงการวังน้อย 4 และจะนะ 2 สร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อเดือนเมษายน และมิถุนายน 2557 และได้เริ่มต้นการผลิตพลังงานไฟฟ้า 769 เมกะวัตต์และ 782 เมกะวัตต์ตามลำดับ
คำอธิบายเพิ่มเติมสำหรับบรรณาธิการ:
· โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมโดยมีก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงแห่งใหม่ (gas-fired combined cycle power block) ของโครงการจะนะ 2 และวังน้อย 4 จะมีกำลังการผลิต 782 เมกะวัตต์และ 769 เมกะวัตต์ตามลำดับเมื่อดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ เมื่อเทียบกับกำลังการผลิตก่อนหน้านี้ของโครงการจะนะ 1 ซึ่งมีกำลังการผลิต 700 เมกะวัตต์ และโครงการวังน้อย 1, 2 และ 3 ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมกัน 2,027 เมกะวัตต์
· แบล็ค แอนด์ วิชช์ ให้บริการด้านโครงการเกี่ยวกับพลังงานด้วยนวัตกรรมการออกแบบทางวิศวกรรม โดยได้ดำเนินงานในประเทศไทยมาเป็นเวลาเกือบ 50 ปี บริษัทได้มีส่วนช่วยในการออกแบบและทดสอบการเดินระบบการจ่ายพลังงานไฟฟ้ามากกว่า 5,000 เมกะวัตต์ของกำลังผลิตทั้งหมดของประเทศ
· โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมและไอน้ำเฟส 5 ของ บมจ โกลว์ พลังงาน (Glow Phase 5 project) เป็นโครงการหนึ่งที่ได้รับรางวัล ซึ่งโครงการนี้ส่งมอบโดย แบล็ค แอนด์ วิชช์ ประเทศไทย และมารุเบนิ คอร์ปอเรชั่น ประเทศไทย ส่วนโครงการสำคัญอื่นๆ ได้แก่ โครงการลพบุรี โซล่าฟาร์ม ซึ่งมีกำลังการผลิต 55 เมกะวัตต์ (Lopburi 55 Megawatt Solar Farm) ที่แบล็ค แอนด์ วิชช์ รับผิดชอบการดำเนินโครงการในฐานะวิศวกรที่ปรึกษาโครงการของเจ้าของโครงการ (Owner’s Engineer).
· พนักงานกว่า 200 ชีวิตในสำนักงานกรุงเทพฯ เป็นกำลังสำคัญในการช่วยให้ประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียสามารถตอบสนองความต้องการพื้นฐานด้านพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ด้วยผู้เชี่ยวชาญกว่าอีก 1,500 คน ทำงานให้แก่แบล็ค แอนด์ วิชช์ ที่สำนักงานต่างๆ ทั่วภูมิภาคเอเชีย ซึ่งแบล็ค แอนด์ วิชช์ ก็ได้มีการให้บริการในประเทศต่างๆอีกด้วย นอกเหนือจากประเทศไทยแล้ว ในการรับมือกับความท้าทายด้านพลังงานที่สำคัญผ่านการวางแผนและการส่งมอบโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่หลายแห่ง แบล็ค แอนด์ วิชช์ ยังได้ช่วยพัฒนาและดำเนินโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติให้โครงการสำคัญๆ ในประเทศจีน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้อีกด้วย
· ท่านสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานและการเป็นส่วนหนึ่งของ บริษัทชั้นนำระดับโลกในการร่วมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานทั่วโลกได้ที่ www.BV.com.
· สามารถชมภาพถ่ายความละเอียดสูงของโครงการโรงไฟฟ้าจะนะ2 ได้ที่ https://www.flickr.com/photos/black_veatch/15204590501/
Cost and Schedule Pressures Drive Project Management Innovation in Asia
· Two Thai power plants located 800 kilometers apart completed at the same time, by one team
· 1.5 million homes to benefit from 1,530 megawatts of much-needed additional power
Cost pressures and the race to bridge electricity gaps across Asia are prompting engineering, procurement and construction (EPC) providers to consider and adopt alternative project management approaches to ensure more energy is brought to market in a quicker, reliable and more cost effective manner.
The successful completion of Chana 2 and Wang Noi 4 in Thailand is an example of such new thinking. For the first time in Thailand, many critical elements of two large power plants were managed and executed by the same team in parallel.
Commissioned by Marubeni Corporation in 2011, Black & Veatch worked on Chana 2 and Wang Noi 4 with almost identical schedules as well as with the same project management and core design team. This is despite the fact that the two plants are of different configurations and site conditions, and located approximately 800 kilometers apart.
“Asia’s growth rate hinges largely on how much infrastructure can be delivered in the coming years. We are increasingly seeing power developers recalibrate their approaches to increase speed in which they deliver power solutions to the market,” said John Gustke, Senior Vice President of Black & Veatch’s energy business based in Bangkok. “Chana and Wang Noi have now set the latest standard for new ways to manage power projects that could be applied to other locations in Asia. It’s a delicate mix, but being able to achieve a realistic schedule and integrate the most appropriate team at the right time helps deliver a cost effective and reliable solution.”
Black & Veatch’s scope of work included design engineering and procurement for balance-of-plant equipment and other services including technical field assistance, supply of heat recovery steam generators and commissioning of other Black & Veatch furnished plant equipment.
According to Vishal Baliga, Project Manager, Black & Veatch, “We pooled resources in key areas to increase efficiencies and where each project differed, dedicated resources were put in place to ensure proper coordination and attention to detail. Additional resources were also mobilized at both sites to ensure that both the projects remained on track while still maintaining safety standards.”
“From day one, Black & Veatch has lived up to expectations and continued to deliver a flexible and dedicated team of resources to manage the schedule and quality that we required. All project team members and partners were focused and aligned on the same outcomes and it’s this seamless integration across all parties that made the project experience memorable,” said Takahiro Kawachi Project Director of Chana 2 and Wang Noi 4, Marubeni Corporation.
Completed in April and June 2014, Wang Noi 4 and Chana 2 have started producing 769 megawatts and 782 megawatts, respectively.
Editor’s Notes:
·The new gas-fired combined cycle power blocks at Chana 2 and Wang Noi 4 will produce 782 megawatts and 769 megawatts, respectively at full operation. The previous capacity at Chana 1 and Wang Noi 1, 2 and 3 is 700 megawatts and 2,027 megawatts, respectively.
Black & Veatch has been delivering innovative power solutions in Thailand for nearly 50 years. The company has helped design and commission more than 5,000 megawatts (MW) of the country’s power generation fleet.
· The Glow Phase 5 project is an award winning project delivered by Black & Veatch and Marubeni Corporation in Thailand. Other noteworthy projects include the Lopburi 55 Megawatt Solar Farm where Black & Veatch provided owner’s engineer leadership.
· The company’s 200-strong office in Bangkok plays an important role in helping Thailand and Asia meet its rising power infrastructure demands. More than 1,500 professionals work for Black & Veatch in Asia. Throughout Asia, Black & Veatch is helping countries address critical energy challenges through the planning and delivery of a number of large-scale complex power facilities. Outside of Thailand, the company is also helping to develop and implement major coal- and- gas-fired plants in China, Indonesia, Malaysia, the Philippines and South Korea.
· For more information on career opportunities and to see how you can be part of a global company helping to meet infrastructure needs worldwide, visit www.bv.com.
· High res image of Chana 2 is available here.
About Black & Veatch
Black & Veatch is an employee-owned, global leader in building Critical Human Infrastructure™ in Energy, Water, Telecommunications and Government Services. Since 1915, we have helped our clients improve the lives of people in over 100 countries through consulting, engineering, construction, operations and program management. Our revenues in 2013 were US$3.6 billion. Follow us on www.bv.com and in social media.
About Marubeni Corporation
Marubeni Corporation was founded in 1858 and incorporated in 1949 with its principal office located in Tokyo, Japan. It manages business across a wide range of industrial sectors throughout the world, and is a publicly traded company quoted on two stock exchanges in Japan: Tokyo and Nagoya. Marubeni first established its power industry presence through the EPC business, with more than 98.9 GW supplied/constructed all over the world in various fuel and technology types. Marubeni expanded its business into the IPP arena in the early 1990’s, and now owns 10,227 MW of net generating capacity (34,313 MW gross capacity). For more information, please visit www.marubeni.com.
Media Contact Information:
KEITH MORRISON | +65 6761-3510 p | +65 9666-5214 m | [email protected]
24-HOUR MEDIA HOTLINE | +1 866 496 9149
Maetavarin Maneekulpan | TQPR Thailand p | 02 260 5820 m | [email protected]
เกี่ยวกับ แบล็ค แอนด์ วิชช์
แบล็ค แอนด์ วิชช์ เป็นบริษัทที่พนักงานร่วมเป็นเจ้าของ และเป็นผู้นำระดับโลกในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญสำหรับความต้องการของมนุษย์ทั้งทางด้านพลังงาน ทรัพยากรน้ำ โทรคมนาคม และการบริการของภาครัฐ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2458 แบล็ค แอนด์ วิชช์ ได้ให้บริการแก่ลูกค้าของบริษัทในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในกว่า 100 ประเทศ โดยให้คำปรึกษา การออกแบบทางวิศวกรรม การดำเนินการก่อสร้าง และการบริหารโครงการ ในปี 2556 บริษัทมีรายได้รวมในการดำเนินงาน เท่ากับ 3,600 ล้าน เหรียญสหรัฐฯ
สามารถติดตามเราได้ที่ www.bv.com และใน social media
เกี่ยวกับมารุเบนิ คอร์ปอเรชั่น
มารุเบนิ คอร์ปอเรชั่นก่อตั้งขึ้นในปี 2401 และจัดตั้งเป็นบริษัทนิติบุคคลในปี 2492 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีการบริหารธุรกิจที่หลากหลายในภาคอุตสาหกรรมต่างๆทั่วโลก และเป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งสองแห่งของญี่ปุ่น (คือที่โตเกียวและนาโกย่า) มารุเบนิ เริ่มต้นจากอุตสาหกรรมทางด้านพลังงาน โดยรับงานประเภท EPC ซึ่งได้มีการสร้างและส่งมอบโครงการ รวมกำลังการผลิตมากกว่า 98.9 จิกะวัตต์ ทั่วทุกมุมโลกในโครงการที่ใช้เชื่อเพลิงและเทคโนโลยีประเภทต่างๆ มารุเบนิขยายธุรกิจไปสู่เวที IPP หรือผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ ในช่วงต้นทศวรรษ 2533 และในปัจจุบันมีโรงไฟฟ้ากำลังผลิตไฟฟ้าสุทธิ รวมกว่า 10,227 เมกะวัตต์ (กำลังการผลิตรวม 34,313 เมกะวัตต์) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.marubeni.com