- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 12 September 2014 23:48
- Hits: 2924
น้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังโอบามาสั่งเตรียมขยายปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอเอสเพิ่มเติมจากอิรักไปซีเรีย
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางมีแนวโน้มที่จะขยายตัวในวงกว้างมากขึ้น หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามาเตรียมที่จะอนุมัติปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ด้วยการขยายขอบเขตของปฏิบัติการจากอิรักไปยังพื้นที่บางส่วนในซีเรีย หลังเครื่องบินของสหรัฐได้ทิ้งระเบิดถล่มกลุ่มดังกล่าวในอิรักนับตั้งแต่เดือน ส.ค. เพื่อปิดโอกาสไม่ให้กลุ่มไอเอสขยายอิทธิพลออกไปได้ นอกจากนี้ยังเพิ่มความช่วยเหลือในด้านการเงินและอาวุธให้กับกลุ่มกบฏในซีเรียที่ต่อต้านทั้งรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดและกลุ่มไอเอส
+/- สหภาพยุโรป (อียู) ประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันนี้ (12 ก.ย.) โดยระบุว่ากลุ่มประเทศสมาชิกอียูและบริษัทเอกชนในอียูจะไม่ปล่อยเงินกู้ให้กับธนาคารของรัฐบาลรัสเซีย 5 แห่ง และจำกัดการทำธุรกิจน้ำมันและการทหารระหว่างอียูและรัสเซีย โดยจำกัดการเข้าถึงตลาดการเงินยุโรปของบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัสเซียอย่าง 'รอสเนฟต์', 'ทรานส์เนฟต์' และ 'แกซพรอม' การคว่ำบาตรครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อกดดันรัสเซีย จากกรณีวิกฤติในยูเครน อย่างไรก็ตาม อียูระบุว่าอาจมีการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร หรือยกเลิก หากข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัฐบาลยูเครนและฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักฝ่ายรัสเซียสามารถดำเนินต่อไปได้
- สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับลดปริมาณความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเพียง 900,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งลดลง 65,000 บาร์เรลต่อวันเมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้ว นอกจากนี้ยังปรับลดการคาดการณ์ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปี 2558 ลงเหลือ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์เมื่อเดือนก่อนประมาณ 165,000 บาร์เรลต่อวัน หลังจากคาดการณ์ว่าในปีหน้าเศรษฐกิจของจีนและยุโรปจะอ่อนแรงลง นอกจากนี้ IEA ยังรายงานถึงอุปทานจากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปค ที่จะขยายตัว 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ ในขณะที่กำลังการผลิตของกลุ่มโอเปคลดลงจากซาอุดิอาระเบียและอิรักเนื่องจากอุปสงค์ในยุโรปและจีนน้อยลง
- ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตจีนประจำเดือน ส.ค. 57 ปรับลดลงอยู่ที่ -1.2% ซึ่งต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่ -0.9% และต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคจีนประจำเดือน ส.ค. 57 ปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้าเช่นเดียวกัน แตะที่ระดับ 2.0% จากเดิมที่ 2.3% เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังอ่อนแอลง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีอุปสงค์ในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอุปสงค์จากอินโดนีเซียและเวียดนามที่กลับมา นอกจากนี้การส่งออกน้ำมันเบนซินจากเอเชียไปยังออสเตรเลียยังช่วยสนับสนุนราคาน้ำมันเบนซินในภูมิภาคอีกด้วย
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในเอเชียและตะวันออกกลางที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับอุปสงค์ที่ไม่ได้ปรับตัวดีขึ้นมากนัก นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังมีการส่งออกน้ำมันดีเซลสูงขึ้นอีกด้วย
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 90-96 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 96-102 เหรียญฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตามองกลุ่ม OPEC ว่าจะมีมาตรการอย่างไรในการจัดการกับอุปทานน้ำมันดิบที่มีอยู่จำนวนมากในตลาด ขณะที่ลิเบียสามารถผลิตน้ำมันดิบได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะยังมีเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศก็ตาม ล่าสุดปรับเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่า 800,000 บาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา และคาดว่าจะผลิตได้ถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ต.ค.นี้
นอกจากนี้แหล่งน้ำมันดิบ Buzzard บริเวณทะเลเหนือ ซึ่งมีกำลังการผลิต 200,000 บาร์เรลต่อวัน ได้กลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง หลังจากปิดซ่อมบำรุงเมื่อปลายเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา
จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 16-17 ก.ย. นี้ ซึ่งตลาดมองว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มที่จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง และนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด อาจมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนดในปีหน้า หนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในตลาดปริวรรตเงินตรามากขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวลดลง
จับตาผลของการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งหลายฝ่ายมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของอีซีบียังไม่แข็งแกร่งพอที่จะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวเศรษฐกิจของ ยูโรโซนได้