- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 04 June 2018 06:36
- Hits: 1930
FC จัดโครงสร้างผู้บริหารตั้ง ‘เอ สัจเดว์’ ขึ้นแท่น CEO ขับเคลื่อนช่วงรอยต่อจากธุรกิจอาหารเข้าสู่พลังงานทดแทน
FC จัดทัพผู้บริหารหลังปรับโครงสร้างทุนและธุรกิจ บอร์ดมีมติแต่งตั้ง ‘เอ สัจเดว์’ ขึ้นแท่น CEO ในช่วงเปลี่ยนถ่ายจากธุรกิจอาหารเข้าสู่ธุรกิจพลังงาน มุ่งเป้าพลิกผลประกอบการเป็นบวกใน Q3/61 รับรู้รายได้และกำไรจากการขายไฟฟ้าหลังกระบวนการโอนหุ้นและธุรกิจสำเร็จ จากยอด COD ในมือ 132 MW จาก 17 โครงการ ไม่ปิดกั้นโอกาสทางธุรกิจเดินหน้ามองหาการลงทุนพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ
บริษัท ฟู้ด แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ FC จัดประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยมีมติแต่งตั้งนายเอ สัจเดว์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป
นายเอ สัจเดว์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุน ภายใต้บริษัท ฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มบริษัท FC มีประสบการณ์ทำงานด้านการลงทุน ในธุรกิจโรงแรม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
รวมถึงเคยทำงานร่วมกับสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศมากกว่า 15 ปี ในฐานะวาณิชธนากร ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทำให้มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดทุนเป็นอย่างดี มีความเหมาะสมเข้ารับตำแหน่ง CEO ในช่วงรอยต่อของ FC ระหว่างการเปลี่ยนถ่ายจากธุรกิจอาหารเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน เพื่อทำความเข้าใจกับ Stakeholder ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุนทั่วไป คู่ค้าหรือแม้แต่หน่วยงานกำกับตลาดทุน
ประการสำคัญนายเอ ได้รับความไว้วางใจจากทั้งผู้ถือหุ้นเดิมกลุ่มศรีชวาลา และกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่บริษัทไพร์ม โรด แคปปิตอล จำกัด ให้เข้ามาบริหารบริษัทในช่วงรอยต่อดังกล่าว เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของFC เป็นไปด้วยความราบรื่น
นายเอ กล่าวว่า มีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการผลักดันองค์กรให้เดินหน้าต่อไป เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีคืนให้กับผู้ถือหุ้นในรูปของผลตอบแทนจากเงินปันผลโดยเร็ว เพราะกระบวนการในการโอนหุ้นและเปลี่ยนถ่ายธุรกิจคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/61 ทำให้ FC ก้าวเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนเต็มตัว และสามารถรับรู้รายได้และกำไรจากการขายไฟฟ้าได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/61 เป็นต้นไป ทำให้ผลประกอบการพลิกมีกำไรทันที จากยอดขายไฟในมือ(COD) ที่มีจำนวน 132 MW จาก 17 โครงการ และอยู่ระหว่างขอใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้า(PPA) อีก 7 โครงการ รวมประมาณ 68 MW
บริษัทฯยังคงมองหาโอกาสในการเข้าลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อผลักดันการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน