- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 09 September 2014 19:06
- Hits: 2546
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลด จากอุปทานที่ล้นตลาดและอุปสงค์ที่อ่อนตัวโดยเฉพาะจากจีน
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลงแตะระดับต่ำกว่า 100 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 16 เดือน ก่อนจะปรับเพิ่มมาปิดที่ 100.20 เหรียญต่อบาร์เรล เนื่องจากอุปทานที่ล้นตลาดและอุปสงค์การใช้น้ำมันของโลกที่เติบโตน้อยกว่าที่คาดการณ์ อย่างไรก็ดีกลุ่มโอเปคคาดการณ์ว่าการปรับลดลงอย่างน่าตกใจนี้เป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ เนื่องจากอุปสงค์ในช่วงหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึงจะช่วยสนับสนุนไม่ให้ราคาตกลงไปมากนัก
- ปริมาณการนำเข้าน้ำมันของจีนปรับลดลงกว่าที่คาดการณ์เป็นเวลาสองเดือนติดต่อกันนับตั้งแต่ ก.ค. หลังอุปสงค์ในประเทศอ่อนตัว ซึ่งนับว่าต่ำกว่าปี 56 ราว 2.4% สวนทางกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตที่ระดับ 1.7% อย่างไรก็ตามการส่งออกน้ำมันของจีนปรับเพิ่มขึ้น 9.4% เทียบกับปีที่ผ่านมาตามอุปสงค์ที่เพิ่มมากขึ้นของโลก
- การเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ และแนวโน้มการส่งออกน้ำมันที่ปรับตัวดีขึ้นของประเทศสมาชิกกลุ่มโอเปคอย่างลิเบียและอิหร่านส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับลด ประกอบกับอุปสงค์การใช้น้ำมันของประเทศต่างๆ ที่อ่อนตัวลงหลังการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินสหรัฐฯ
-/+ นักลงทุนยังคงจับตามองเรื่องประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างยุโรปและรัสเซีย อันมีผลกระทบโดยตรงต่ออุปสงค์การใช้น้ำมันในยุโรป ตลอดจนความไม่สงบในตะวันออกกลาง แม้การต่อสู้กันในประเทศอิรักจะมีผลต่อการผลิตน้ำมันภายในประเทศไม่มากนัก ประกอบกับการส่งออกน้ำมันของลิเบียที่เพิ่มขึ้นตลอดช่วงสามเดือนที่ผ่านมาจะช่วยคลายความกังวลลงมาได้บ้าง
+ สำนักงานศุลกากรของทางการจีน รายงานว่า จีนได้ดุลการค้าเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 77.8% อยู่ที่ระดับ 49,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือน ส.ค. มี่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากการส่งออกปีต่อปีเพิ่มขึ้น 9.4% คิดเป็น 208,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 2.4% อยู่ที่ ระดับ 158,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดกังวลว่า สหรัฐฯ จะมีอุปสงค์การใช้น้ำมันเบนซินสำหรับช่วงหน้าหนาวที่น้อยลง แม้ว่าจะยังคงมีแรงหนุนจากอุปสงค์ที่ดีภายในภูมิภาคโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอินโดนีเซียก็ตาม
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานที่มีมากกว่าอุปสงค์ในภูมิภาค เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันในจีนหลายแห่งกลับมาเพิ่มปริมาณการส่งออกอีกครั้ง อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดีเซลยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของฟิลิปปินส์ที่กลับเข้ามา
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 92-98 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 100 - 105 เหรียญฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาสถานการณ์ระหว่างยูเครนและรัสเซีย ว่าข้อตกลงหยุดยิงจะประสบผลสำเร็จจริงหรือไม่ แม้ผู้นำทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงถาวรร่วมกันแล้วก็ตาม แต่ฝ่ายรัสเซียยีงคงออกมาค้านว่ารัสเซียไม่สามารถทำข้อตกลงหยุดยิงอย่างเป็นรูปธรรมได้ เพราะรัสเซียไม่ได้เป็นฝ่ายที่มีส่วนในความขัดแย้งครั้งนี้
ติดตามเศรษฐกิจฝั่งยูโรโซน ภายหลังอีซีบีออกมาตรการเพิ่มเติมในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว มาตรการนี้จะทำให้เศรษฐกิจยุโรปเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพหรือไม่ และอุปสงค์การใช้น้ำมันในภูมิภาคจะกลับมามากเพียงใด
ติดตามรายงานสถานการณ์น้ำมันประจำเดือน ก.ย. ของสำนักสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (9 ก.ย.) โอเปก (10 ก.ย.) และสำนักงานพลังงานสากล (11 ก.ย.) ที่คาดว่าอาจมีการปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกปีนี้ลง หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศผู้บริโภคน้ำมันหลายประเทศ
จับตากลุ่ม OPEC ว่าจะมีมาตรการอย่างไรในการจัดการกับอุปทานที่ล้นตลาดขณะนี้ หลังล่าสุดลิเบียผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ราว725,000 บาร์เรลต่อวันแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าจะยังมีเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศก็ตาม