- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 14 May 2018 20:04
- Hits: 3960
ก.พลังงานเตรียมหารือพาณิชย์คุมราคาก๊าซ - เล็งดึงผู้ประกอบการรถบรรทุกปรับใช้น้ำมัน B20 ลดต้นทุน
ก.พลังงานชี้น้ำมัน-แอลพีจีโลกขาขึ้น เตรียมจับตาใกล้ชิด 1 สัปดาห์ก่อนหารือพาณิชย์คุมราคาก๊าซหุงต้มไม่เกินราคาแนะนำ พร้อมหารือกลุ่มขนส่งปรับปรุงเครื่องยนต์รองรับน้ำมัน B20 ตั้งเป้าสิ้นปี มีรถบรรทุกเข้าโครงการ 50% จากทั้งหมด 8.8 แสนคัน
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงอยู่ระหว่างติดตามแนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันและก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ภายใน 1 สัปดาห์นับจากนี้ เพื่อเตรียมหารือกับกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับแนวทางการบริหารราคาขายก๊าซหุงต้มในท้องตลาดให้เหมาะสม ท่ามกลางราคาน้ำมันและก๊าซหุงต้มในตลาดโลกเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 สัปดาห์ โดยราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 74.58 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และราคา LPG Cargo เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 523 เหรียญสหรัฐต่อตัน เนื่องจากปัจจัยการเมืองระหว่างประเทศและความหวั่นเกรงว่าเหตุการณ์ในตะวันออกกลางอาจบานปลาย
“กระทรวงพลังงานเตรียมหารือกระทรวงพาณิชย์เพื่อห้ามไม่ให้มีการจำหน่ายก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนเกินราคาจำหน่ายปลีกที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศกำหนดราคาแนะนำ” นายศิริ กล่าว
นอกจากนี้ มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานหารือกับผู้ค้ามาตรา 7 กรมสรรพสามิต รวมถึงผู้ประกอบการรถบรรทุก รถขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ เพื่อหาแนวทางการปรับปรุงเครื่องยนต์รองรับน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ หรือ B20 ในระยะนำร่องช่วงปลายเดือนมิ.ย.หรือต้นเดือนก.ค.นี้ 10% ของรถบรรทุกที่มีประมาณ 8.8 แสนคัน จากผู้ประกอบการรถบรรทุกกว่า 30 ราย และตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนรถบรรทุก 50% ภายในสิ้นปีนี้
“เพื่อทำให้เกิดการแข่งขัน กระทรวงพลังงานจึงสนับสนุนให้เกิดการแข่งขัน จึงมอบนโยบายให้มีการนำน้ำมันปาล์มดิบมาใช้ผลิตน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษให้สามารถขายได้ในราคาถูกกว่าราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล 3 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันราคาขายปลีกอยู่ที่ 28.09-28.29 บาท/ลิตร ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาค่าขนส่งต่างๆ และไม่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าที่ส่งผ่านไปยังผู้บริโภค” นายศิริกล่าวเสริม
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
สนพ. จับตาราคาน้ำมันและ LPG ตลาดโลกอยู่ในช่วงขาขึ้น พร้อมติดตามอย่างใกล้ชิด
ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันและ LPG ในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 สัปดาห์ เนื่องจากปัจจัยทางการเมืองระหว่างประเทศและความหวั่นเกรงว่าเหตุการณ์ในตะวันออกกลางอาจบานปลายได้ ทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบเพิ่มขึ้นเป็น 74.58 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และราคา LPG Cargo เพิ่มขึ้นเป็น 523 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่งผลให้ต้นทุนก๊าซ LPG เพิ่มขึ้น และราคาจำหน่ายปลีกมีแนวโน้มที่จะเกินกว่าราคาแนะนำก๊าซปิโตรเลียมเหลวบรรจุถัง (ก๊าซหุงต้ม) ขนาด 15 กิโลกรัม ที่กรมการค้าภายในประกาศควบคุมอยู่ที่ราคาถังละ 353 บาท ดังนั้น เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของต้นทุนก๊าซ LPG กระทรวงพลังงานจะติดตามสถานการณ์อีก 1 สัปดาห์ เพื่อเตรียมการประสานงานกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อบริหารราคาจำหน่ายก๊าซหุงต้มให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป และห้ามมิให้มีการจำหน่ายก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนเกินราคาจำหน่ายปลีกที่กรมการค้าภายในประกาศกำหนด (ราคาแนะนำ)
นอกจากนี้ เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีทางเลือกที่จะซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงจากสถานีบริการที่มีต้นทุนและราคาหน้าสถานีที่ต่ำ สนพ. จึงได้ขอความร่วมมือผู้ค้าทุกรายไม่ให้มีพฤติกรรมการชี้นำตลาดที่อาจนำมาสู่การจำกัดหรือลดการแข่งขัน ซึ่งภาครัฐจะได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และคาดว่ากลไกการแข่งขันด้านราคาในธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน จะสะท้อนการแข่งขันด้านราคาโดยตรงที่โปร่งใสและเป็นธรรมมากขึ้น
สนพ. จับตาราคาน้ำมันและ LPG ตลาดโลกอยู่ในช่วงขาขึ้น
พร้อมติดตามอย่างใกล้ชิด
ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันและ LPG ในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 สัปดาห์ เนื่องจากปัจจัยทางการเมืองระหว่างประเทศและความหวั่นเกรงว่าเหตุการณ์ในตะวันออกกลางอาจบานปลายได้ ทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบเพิ่มขึ้นเป็น 74.58 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และราคา LPG Cargo เพิ่มขึ้นเป็น 523 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่งผลให้ต้นทุนก๊าซ LPG เพิ่มขึ้น และราคาจำหน่ายปลีกมีแนวโน้มที่จะเกินกว่าราคาแนะนำก๊าซปิโตรเลียมเหลวบรรจุถัง (ก๊าซหุงต้ม) ขนาด 15 กิโลกรัม ที่กรมการค้าภายในประกาศควบคุมอยู่ที่ราคาถังละ 353 บาท ดังนั้น เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของต้นทุนก๊าซ LPG กระทรวงพลังงานจะติดตามสถานการณ์อีก 1 สัปดาห์ เพื่อเตรียมการประสานงานกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อบริหารราคาจำหน่ายก๊าซหุงต้มให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป และห้ามมิให้มีการจำหน่ายก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนเกินราคาจำหน่ายปลีกที่กรมการค้าภายในประกาศกำหนด (ราคาแนะนำ)
นอกจากนี้เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีทางเลือกที่จะซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงจากสถานีบริการที่มีต้นทุนและราคาหน้าสถานีที่ต่ำ สนพ. จึงได้ขอความร่วมมือผู้ค้าทุกรายไม่ให้มีพฤติกรรมการชี้นำตลาดที่อาจนำมาสู่การจำกัดหรือลดการแข่งขัน ซึ่งภาครัฐจะได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และคาดว่ากลไกการแข่งขันด้านราคาในธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน จะสะท้อนการแข่งขันด้านราคาโดยตรงที่โปร่งใสและเป็นธรรมมากขึ้น