- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 27 March 2018 06:28
- Hits: 1563
ซาอุดิอาระเบีย เสนอลดการผลิตถึงปีหน้า หนุนราคาน้ำมันปิดทะยานเหนือ 70 เหรียญสหรัฐฯ
+ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค. 61 หลังได้รับแรงหนุนจากรัฐมนตรีพลังงานซาอุดิอาระเบีย ที่กล่าวว่ากลุ่มโอเปกและผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก นำโดยรัสเซีย ยังมีความจำเป็นในการปรับลดกำลังการผลิตต่อเนื่องจนถึงปีหน้า เพื่อลดปริมาณอุปทานน้ำมันส่วนเกินให้กลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม ทั้งนี้ กลุ่มผู้ผลิตจะมีการทบทวนระดับที่เหมาะสมในการปรับลดกำลังการผลิตสำหรับปีหน้าก่อนสิ้นปีนี้
+ ตลาดกังวลว่าสหรัฐฯ จะมีการออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่และคาดส่งผลให้การผลิตและส่งออกน้ำมันของอิหร่านปรับลดลง หลัง ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แต่งตั้งที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติคนใหม่คือ นาย John Bolton ซึ่งมีท่าทีต่อต้านอิหร่านมากกว่าที่ปรึกษาคนเดิมคือ นายพล H.R. McMaster
- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมัน หลังผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าเพิ่มการขุดเจาะขึ้นต่อเนื่องมาแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีโดย Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 4 แท่นมาแตะระดับ 804 แท่นในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 มี.ค. 61
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่สิงคโปร์ที่ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงหนุนจากตลาดน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ที่เริ่มฟื้นตัวหลังความต้องการใช้ปรับเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่สิงคโปร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่มีแนวโน้มลดลงในช่วงการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่น
ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 64-69 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 68-73 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลง จากความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวขึ้น หลังโรงกลั่นกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง รวมถึงการนำเข้าน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับที่จำกัด โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล เนื่องจากกำลังการกลั่นของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน
การร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกโอเปกยังคงอยู่ในระดับที่ดี โดยระดับความร่วมมือระหว่างทั้งสองกลุ่มในเดือน ก.พ. แตะระดับสูงสุดตั้งแต่เริ่มข้อตกลง นอกจากนี้ กลุ่มผู้ผลิตยังมีแนวโน้มร่วมมือกันต่อเนื่องในการปรับลดกำลังการผลิตไปจนถึงปี 2562
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี โดย EIA รายงานกำลังการผลิตน้ำมันดิบในปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 มาแตะระดับสูงสุดในประวัติการณ์ที่ 10.4 ล้านบาร์เรลต่อวันและปริมาณการผลิตคาดจะปรับตัวสูงขึ้นกว่า 11 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในสิ้นปีนี้