WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aaaaaaa1เทรนดพลงงาน

เทรนด์พลังงาน ผสานนวัตกรรมยุคใหม่ เมืองอัจฉริยะ มาแรง SETA 2018 จัดต่อเนื่องปีที่ 3 ภายใต้ธีม Towards Consolidated Innovative Energy Technology

       กระทรวงพลังงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม กรุงเทพมหานคร กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมด้วย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สภาวิศวกร สภาสถาปนิก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดงานโดย บริษัท แกท อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ประกาศการจัดงานจัดประชุมวิชาการและนิทรรศการนานาชาติ “โครงการพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2561’หรือ “SETA 2018’ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ภายใต้ธีม Towards Consolidated Innovative Energy Technology’เพื่อผลักดันและพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุด นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานอย่างยั่งยืน พร้อมนโยบายการทำงานอย่างสอดประสานระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในระหว่างวันที่ 21-23 มีนาคม 2561 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา  

       รศ.ดร.ธัชชัย สุมิตร ประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2561 กล่าวว่า “งาน SETA 2018 เป็นการจัดงานระดับนานาชาติ โดยในปีนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จากการประสบความสำเร็จในการจัดงานในสองปีที่ผ่านมา ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญในความร่วมมือของหน่วยงานหลักของประเทศ รวมทั้งองค์กรรัฐ วิสาหกิจ และภาคเอกชน โดยในงานประชุมครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปในประเด็นที่ทั้งเอเชียและทั่วโลกล้วนให้ความสำคัญ โดยเฉพาะประเด็นด้านนวัตกรรม เทคโนโลยียุคใหม่ การพัฒนาด้านการบริหารจัดการพลังงาน เทคโนโลยีการจัดเก็บพลังงาน ความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างภูมิภาค เมืองอัจฉริยะ และกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ กว่า 200 บริษัท เพื่อส่งเสริมการลงทุนและการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านพลังงานให้กับประเทศ โดยตั้งเป้าผู้เข้าชมและร่วมงานตลอดทั้ง 3 วัน จำนวนกว่า 10,000 คน จาก 50 ประเทศทั่วโลก”

      คุณนภปฎล สุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกท อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า “SETA 2018 ปีนี้เน้นความรู้ความเข้าใจในด้านการใช้พลังงานให้มั่นคงและยั่งยืน รถยนต์ไฟฟ้า พลังงานในรูปแบบต่างๆ ปัจจุบันเทคโนโลยีที่ให้ความสำคัญด้านพลังงาน ต้นทุนไม่สูง และยังมีความคุ้นทุนมาก ภายในงานนอกจากนิทรรศการ เทคโนโลยี นวัตกรรม ที่นำมาจัดแสดงและให้ร่วมทดสอบ ผู้สนใจยังสามารถเลือกชมและซื้อสินค้าและบริการได้จากกทั้งของไทยและต่างประเทศ มีช่างผู้เชี่ยวชาญ ให้คำแนะนำ สอนเทคนิค สามารถนำไปใช้ได้เอง ผู้ร่วมงานทุกกลุ่มสามารถเข้าร่วมงานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ ช่าง นักวิชาการ นักศึกษา ประชาชนทั่วไป”  

    นายกมล ตรรกบุตร นายกสภาวิศวกร และ นายเจตกำจร พรหมโยธี นายกสภาสถาปนิก กล่าวว่า’งาน SETA 2018 ในครั้งนี้ จะได้เห็นการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมล่าสุด มาใช้พัฒนางานด้านพลังงานในมิติต่างๆ สาธิตและจำลองสิ่งที่เมืองยุคใหม่ หรือเมืองอัจฉริยะจะต้องมีและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ให้เท่าทันกับการขยายตัวของเขตเมือง นอกจากสร้างความสะดวกสบาย เพิ่มคุณภาพชีวิตประชากร ยังต้องอยู่อาศัยและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขด้วย อาทิ อาคารสีเขียว สวนแนวตั้ง การใช้พลังงานหมุนเวียนจากธรรมชาติ แปลงผักแนวตั้ง ฟาร์มอัจฉริยะ บ้านและคอนโดอัจฉริยะ สภาวิศวกรและสภาสถาปนิกจึงร่วมกันสนับสนุนกิจกรรมของ SETA 2018 ในการจำลองแบบอาคารผังเมืองในการเป็นเมืองอัจฉริยะอย่างรอบด้าน มาตรฐานและความถูกต้องที่สภาวิศวกรให้ความสำคัญเพื่อต่อยอดสู่การพัฒนาต่อไป”

       คุณอัครพล สุขตา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นเรศ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายว่า เทคโนโลยีที่นำมาจัดแสดงในพื้นที่ราว 400 ตารางเมตร ในงาน SETA ปีนี้ ประกอบด้วย smart security ระบบรักษาความปลอดภัย, การสื่อสาร เช่น การใช้การสื่อสารระยะไกลโดยที่ไม่ต้องลากไฟเบอร์ออฟติกได้เป็น 100 กิโลเมตรในสเปคความเร็วเท่าไฟเบอร์ออฟติก, smart farm มีโดรนที่ใช้กับภาคการเกษตร, smart home-smart condo รวมถึง solar roof, รถไฟฟ้า, EV charging เป็นโซนที่จัดให้ผู้ร่วมงานได้ทดสอบ ทดลอง ใช้งานจริง ทำให้ทุกคนได้ทราบว่าเทคโนโลยีไม่ได้ใช้งานยาก เราแค่เรียนรู้ ก็ใช้งานได้ สะดวก รวดเร็ว ช่วยประหยัดพลังงานได้มาก ติดตั้งง่าย สามารถทำเองได้ ใช้ชีวิตง่ายขึ้น เทคโนโลยีและสินค้าในเอเชียปัจจุบันพัฒนาขึ้นมาก ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น สินค้าจากเอเชียราคาไม่สูง แต่คุณภาพระดับโลก อีกทั้งคนไทยเก่งในการพัฒนาเทคโนโลยี เราสนับสนุนคนไทยให้มีความสามารถด้านการผลิต การพัฒนาซอฟต์แวร์และเทคโนโลยี”

      คุณการุณ กลสัตยสมิต ในนามชมรมช่างและผู้ประกอบการพลังงานแสงอาทิตย์ หนึ่งในผู้สนับสนุน SETA 2018 ให้ข้อมูลว่า “เทคโนโลยีที่นำมาแสดงในงาน มีทีมออกแบบระบบให้ถูกต้อง ปลอดภัย ตามมาตรฐานสมาคมวิศวกรรม การขับเคลื่อนเรื่องพลังงานทดแทน ไม่ใช่หน้าที่เพียงหน่วยงานภาครัฐเท่านั้น ทางชมรมฯ ก็มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเรื่องของโซลาร์รูฟ เป็นที่มาของโครงการโซลาร์รูฟเสรี ที่น่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ จากการเห็นความสำคัญว่า ประเทศไทยใช้พลังงานหลักเยอะมาก จุดแข็งของประเทศไทยคือเรื่องของแสงแดด ถ้าเรามีการให้ความสำคัญนำเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์มาใช้ในชีวิตประจำวัน ในบ้าน หรือโรงงานอุตสาหกรรม ก็จะช่วยประเทศชาติประหยัดงบประมาณการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ”

      งานประชุมวิชาการและนิทรรศการนานาชาติ “โครงการพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2561” หรือ “SETA 2018” จะมีผู้เข้าร่วมงานเป็นผู้บริหาร ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ผู้ผลิต บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้า นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ บริษัทผู้ผลิตพลังงานทดแทน ธนาคาร นักลงทุน จากทุกภาคส่วนและผู้สนใจทั่วไป ทั้งในและต่างประเทศ กว่า 10,000 คน พื้นที่จัดงาน 9,600 ตารางเมตร บูธจัดงาน กว่า 200 บูธ  

     ภายในงานมีการจัดแสดงนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านพลังงานที่สำคัญ อาทิ โซนไฮบริดและเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า โซนโซล่าเซลส์ และโซนระบบเมืองอัจฉริยะ ซึ่งนำเสนอการนำนวัตกรรมทุกด้านมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันทั้งในบ้าน อาคารสำนักงาน ชุมชน สอดคล้องกับการขยายตัวของเมืองและสะท้อนแนวคิดมุ่งไปสู่เมืองอัจฉริยะ หรือ Smart Urbanization รวมไปถึงมีพาวิเลียนจากต่างประเทศ พร้อมกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ อาทิ ประเทศจีน ญี่ปุ่น อินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ลาว พม่า เวียดนาม อีกทั้ง SETA Hybrid Market ตลาดนัดนวัตกรรมพลังงาน อาทิ โซลาร์ อุปกรณ์ IoT ยานยนต์ไฟฟ้า เช่น มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า เป็นต้น พร้อมทดสอบการใช้งานและทำการซื้อขายได้ภายในงานทันที

     ด้านกิจกรรมภายในงานยังได้รับเกียรติจาก พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิด โดยมีวิทยากรปาฐกถาหลัก ได้แก่ ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฯพณฯนาย ชิโร ซะโดะชิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย คุณแอคเนตา ไรซิ่ง ผู้อำนวยการสมาคมนิวเคลียร์โลก (Ms. Agneta Rising, Director General of the World Nuclear Association) และ ดร.ซานจายาน เวลูแธม กรรมการบริหารศูนย์พลังงานอาเซียน (Ir.Dr. Sanjayan Velautham, Executive Director of the ASEAN Centre for Energy (ACE)) ที่จะมาร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับด้านพลังงาน และเทคโนโลยีต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

    นอกจากนี้ ยังมีการจัดให้มีการบรรยาย ประชุมสัมมนา และเวิร์คช็อปจากองค์กรระดับนานาชาติ และบริษัทที่เป็นผู้นำในหัวข้อต่างๆ อาทิ “CEO Energy Forum” “ASEAN Energy” “ASEAN Energy Forum” เป็นต้น ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม และลงทะเบียนร่วมงานได้ในเว็บไซต์ www.setaasia.com

 

SETA 2018 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 มีนาคม 2561 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา  

ไบเทค จ่อคิวส่งคอนเสิร์ตบันเทิงทั้งไทยและเทศ ประเดิมต้นปี ตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งตลาดคอนเสิร์ตและไลฟ์สไตล์อีเว้นท์

ภายนอกอาคารศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค

      กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค รุกหนักจัดเต็มตั้งแต่ต้นปี เตรียมส่งคอนเสิร์ตทั้งไทยและต่างประเทศปลุกกระแสตลาดให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง พร้อมตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งตลาดคอนเสิร์ตและไลฟ์สไตล์อีเว้นท์ ด้วยศักยภาพความพร้อมของสถานที่และทำเลที่ตั้งที่พร้อมรองรับกลุ่มผู้ชมต่องานได้สูงสุดถึง 20,000 คน

       ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ถึงความคึกคักของงานคอนเสิร์ต แฟนมีตติ้ง มิวสิคเฟสติวัล รวมถึงไลฟ์สไตล์อีเว้นท์ต่างๆ ในปี 2561 นี้ นับเป็นสัญญาณบวกของตลาดคอนเสิร์ตเมืองไทย ที่น่าจะสามารถกลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้ง สังเกตได้จากผู้ประกอบการทั้งภาครัฐและเอกชนเริ่มมีการเคลื่อนไหวโครงการต่างๆ รวมถึงการจัดงานโชว์งานแสดงต่างๆ มากขึ้น

      คุณปนิษฐา บุรี กรรมการผู้จัดการ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เปิดเผยว่า “แนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคในเมืองไทยในการรับชมคอนเสิร์ตหรือมิวสิคเฟสติวัลเริ่มมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ผู้บริโภคไม่ได้ต้องการแค่การแสดงดนตรีเป็นหลักเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องการกิจกรรมเสริมภายในงาน รวมถึงคอนเสิร์ตที่แตกต่างจากรูปแบบเดิมๆ ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการที่เป็นผู้จัดงานต้องทำการศึกษารวมถึงมองหาแนวทางความคิดใหม่ๆเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ชมอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”

      “ในฐานะที่ไบเทคเป็นผู้ให้บริการด้านสถานที่ ก็ไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทั้งผู้จัดและผู้ชมที่มาร่วมงาน ที่ผ่านมาศูนย์ฯไบเทคได้รับเลือกจากผู้จัดงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้เป็นศูนย์กลางสำหรับการจัดงานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การประชุมระดับนานาชาติและการสัมมนา การจัดงานแสดงสินค้าและงานนิทรรศการ รวมถึงจัดแสดงคอนเสิร์ตและความบันเทิงระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงความกว้างขวางของพื้นที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเท่านั้น แต่ด้วยความสะดวกในด้านทำเลที่ตั้ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมือง อีกทั้งสามารถเชื่อมต่อการเดินทางด้วยเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอส จึงเป็นจุดเด่นที่ทำให้ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เป็นศูนย์รวมความบันเทิงที่สามารถเข้าถึงและสะดวกสบายที่สุด อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับศูนย์ฯอื่นๆระดับภูมิภาค” คุณปนิษฐา กล่าวเพิ่มเติม

      สำหรับ ภาพรวมตลาดคอนเสิร์ตและไลฟสไตล์อีเว้นท์ต่างๆ ในประเทศไทย ถือว่าความต้องการในการรับชมงานคอนเสิร์ตต่างๆ ของผู้บริโภคค่อนข้างสูง ส่งผลให้ผู้จัดงานคอนเสิร์ตทั้งไทยและโปรโมเตอร์ต่างชาติเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดกันอย่างหนาแน่น ไม่ว่าจะเป็นกระแสความนิยม K-Pop ในเมืองไทยที่ยังคงมาแรงต่อเนื่อง เห็นได้จากจำนวนคอนเสิร์ต แฟนมีตติ้ง การนำศิลปินมาโชว์ตัว เป็นต้น และปัจจุบันกระแสนิยมเอเชียก็ยังขยายไปสู่ศิลปินจีน ไต้หวัน และญี่ปุ่น อีกด้วย ส่วนโชว์ประเภท “EDM Sensation” หรือปาร์ตี้คอนเสิร์ต ก็ยังเป็นที่ต้องการของตลาด รวมถึงคอนเสิร์ตจากศิลปินระดับท็อปจากฝั่งตะวันตก ทำให้ตลาดคอนเสิร์ตในปีนี้เป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง

                “ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ของปีที่ผ่านมา ทางไบเทคได้วางแผนกลยุทธ์และเดินหน้าตั้งเป้าหมายชิงส่วนแบ่งการตลาดในการเจาะตลาดกลุ่มธุรกิจบันเทิงและไลฟ์สไตล์อีเว้นท์ โดยเน้นทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น ทำให้ในปี 2561 นี้ ไบเทคได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าและโปรโมเตอร์ที่จัดงานประเภทบันเทิงและไลฟ์สไตล์ ทั้งนี้คาดว่าภายในสิ้นปี 2561 ส่วนแบ่งตลาดไลฟ์สไตล์และบันเทิงของไบเทคจะเติบโตเพิ่มขึ้นตามที่ตั้งเป้าหมายไว้” คุณปนิษฐา กล่าวทิ้งท้าย

                โดยในเดือนมีนาคมนี้ ทางผู้จัดงานคอนเสิร์ตชั้นนำหลายงานได้เลือกไบเทคเป็นสถานที่จัดงาน ซึ่งแต่ละงานต่างเป็นงานที่น่าจับตามองแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นงานระดับโลกอย่าง Transmission Asia 2018 (17 มี.ค.) งานเทศกาลดนตรีสไตล์ Trance ระดับโลก ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่สองที่ไบเทคและของเอเชีย กับโปรดักชั่นที่จัดเต็มทั้งวิชวล แสง สี เสียง รวมถึง คอนเสิร์ต “จอห์น เลเจนด์ ดาร์คเน็ซ แอนด์ ไลท์ เวิล์ด ทัวร์” (23 มี.ค.) สุดยอดศิลปินระดับโลกมากความสามารถอย่าง “จอห์น เลเจนด์” ที่จะมาเปิดคอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่แห่งปี 2018 ครั้งแรกในประเทศไทย ด้านคอนเสิร์ตของศิลปินไทยเอง ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของวง Room39 ที่จะมาโชว์ความสามารถและเพลงเต็มรูปแบบใน The Truth in Room39 Concert คอนเสิร์ตความจริงในห้องหมายเลข 39 (31 มี.ค.) รวมถึงวงเกิร์ลกรุ๊ปที่มาแรงที่สุดใน พ.ศ.นี้ อย่าง BNK48 กับคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรก คอนเสิร์ต Tao Kae Noi Presents BNK48 1st Concert “Starto” (31 มี.ค. – 1 เม.ย.) และส่งท้ายระเบิดความมันส์กับ งาน GSL 2018 (Garena Star League) (31 มี.ค. – 1 เม.ย.) งานมหกรรมแข่งขันอีสปอร์ตสุดยิ่งใหญ่ในอาเซียน ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี ที่ไบเทค

       นอกจากนี้ ไบเทคยังได้เตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบริเวณศูนย์ฯ ที่เอื้อต่อการจัดคอนเสิร์ตและงานประเภทไลฟ์สไตล์ ต่างๆ เพื่อตอบรับความต้องการของผู้ที่เดินทางมาร่วมงานและใช้บริการต่างๆ ส่วนทางด้านงานจราจร เส้นทางเดินรถ และสถานที่จอดรถ ทางไบเทคได้วางแผนรองรับอย่างดีที่สุด โดยจัดวางกำลัง รปภ.ประจำจุด เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรและประชาสัมพันธ์เส้นทาง ปัจจุบันไบเทคมีพื้นที่จอดรถทั้งในอาคารและนอกอาคารให้สามารถจอดรถได้กว่า 5,000 คัน อีกทั้งมีทำเลที่ตั้งให้ทั้งผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมเดินทางได้สะดวก ห่างจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิเพียง 14 กิโลเมตร สามารถเดินทางด้วยรถยนต์, รถตู้ และมีประตูทางเข้าถึง 3 ทิศ สำหรับทางเข้าที่ 1 และ 2 เชื่อมกับถนนบางนา-ตราด และทางเข้าที่ 3 เชื่อมกับถนนสุขุมวิท หรือหากใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ก็สามารถลงที่สถานีบางนา ทางออก 1 และเดินเข้าสู่ไบเทคได้อย่างสะดวกง่ายดาย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!