- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 09 March 2018 19:56
- Hits: 11248
ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าฉุดราคาน้ำมันลงเป็นวันที่สองติดต่อกัน
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นราวร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในตะกร้าเงิน และส่งผลให้นักลงทุนลดการลงทุนในน้ำมันดิบเนื่องจากราคาน้ำมันดิบในสกุลเงินสหรัฐฯ จะมีราคาสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น
- นักลงทุนกังวลกับอุปทานที่ปรับเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ หลัง Genscape บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลทางด้านพลังงานในตลาดของสหรัฐฯ รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอคลาโฮมา สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 มี.ค. 2561 ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 290,000 บาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 12 สัปดาห์
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ(EIA) รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 มี.ค. 2561 ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในประวัติการณ์ที่ระดับ 10.37 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวเหนือระดับจุดคุ้มทุนของผู้ผลิตในสหรัฐฯ
- นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้า หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะปกป้องภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ซึ่งอาจเป็นจุดชนวนสำคัญที่ก่อให้เกิดสงครามการค้าโลก
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากถูกกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่อยู่ในระดับสูง สะท้อนให้เห็นจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ปรับลดลง เนื่องจากโรงกลั่นเข้าสู่ช่วงปิดซ่อมบำรุง
ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 58 - 63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 61 - 66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากความต้องการใช้น้ำมันดิบที่มีแนวโน้มปรับลดลงในช่วงฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่น ประกอบกับ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุด สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 2 มี.ค. 2560 ปรับเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 425.9 ล้านบาร์เรล
กำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเหนือจุดคุ้มทุนของการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ โดย EIA คาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในปี 2561 ปรับเพิ่มขึ้นราว 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สู่ระดับเฉลี่ยที่ 10.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และขยายตัวสู่ระดับ 11.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2562
สถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศลิเบียมีแนวโน้มคลี่คลายลง โดยล่าสุดได้มีการเจรจาตกลงที่จะเปิดดำเนินการแหล่งผลิตน้ำมัน El Feel กำลังการผลิตน้ำมันดิบอยู่ที่ 70,000 บาร์เรลต่อวัน อีกครั้ง นอกจากนี้ แหล่งผลิตน้ำมันดิบ El Sharara กำลังการผลิต 340,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งหยุดดำเนินการชั่วคราวเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการประท้วงเกี่ยวกับปัญหาทางด้านมลพิษ ก็กลับมาดำเนินการอีกครั้งในวันจันทร์ที่ผ่านมา