- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 08 February 2018 18:54
- Hits: 1940
กบง. กำหนดประเภท ขนาดของอาคาร และมาตรฐาน อนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. .... (Building Energy Code)
รายงานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)ที่กระทรวงพลังงาน การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งมี ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ได้พิจารณาวาระที่สำคัญด้านพลังงาน ดังนี้
กฎกระทรวงกำหนดประเภท หรือขนาดของอาคาร และมาตรฐาน หลักเกณฑ์และวิธีการในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. .... (Building Energy Code)
ที่ประชุม กบง. เห็นชอบการออกกฎกระทรวงฯ เพื่อเป็นมาตรการบังคับใช้ขั้นต่ำกับอาคารขนาดใหญ่ที่มีปริมาณการใช้พลังงานสูง เรียกว่า เกณฑ์มาตรฐานประสิทธิภาพด้านพลังงานในอาคาร (Building Energy Code) ด้วยการกำหนดมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดการพลังงานกับอาคารที่จะก่อสร้างใหม่หรือดัดแปลงตั้งแต่เริ่มต้นออกแบบอาคาร เพื่อให้อาคารมีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกำหนดให้อาคารที่จะก่อสร้างใหม่หรือดัดแปลง 9 ประเภทอาคาร ได้แก่ 1) สำนักงาน 2) โรงแรม 3) โรงพยาบาล 4) ศูนย์การค้า 5) โรงมหรสพ 6) สถานบริการ 7) อาคารชุมนุมคน 8) อาคารชุด และ 9) สถานศึกษา ที่มีขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป ต้องออกแบบให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ระบุในกฎกระทรวงฯ ได้แก่ ระบบกรอบอาคาร ระบบปรับอากาศ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ระบบผลิตน้ำร้อน และการใช้พลังงานหมุนเวียน โดยให้มีการบังคับใช้กับอาคารขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมก่อน และทยอยบังคับใช้กับอาคารทั้ง 9 ประเภท ภายใน 3 ปี โดยมีกรอบการดำเนินงาน ดังนี้
- ปีที่ 1 บังคับใช้กับอาคาร ขนาดตั้งแต่ 10,000 ตารางเมตร ขึ้นไป
- ปีที่ 2 บังคับใช้กับอาคาร ขนาดตั้งแต่ 5,000 ตารางเมตร ขึ้นไป
- ปีที่ 3 บังคับใช้กับอาคาร ขนาดตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตร ขึ้นไป
ทั้งนี้ การกำหนดมาตรฐานด้านพลังงานของอาคารที่จะก่อสร้างใหม่หรือดัดแปลง จะทำให้การใช้พลังงานภายในอาคารมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประหยัดพลังงานได้มากกว่าร้อยละ 10 โดยมีเป้าหมายว่าภายใน20 ปี จะสามารถประหยัดไฟฟ้าได้รวมประมาณ 13,700 ล้านหน่วย หรือคิดเป็นมูลค่าเท่ากับ 48,000 ล้านบาท โดยการดำเนินงานจะต้องนำเสนอ กพช. และ ครม. พิจารณาตามลำดับต่อไป
ข้อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เกี่ยวกับมติที่ให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานกำกับดูแลค่าบริการขนส่งน้ำมันทางท่อ
ที่ประชุม กบง. เห็นชอบ ให้นำข้อเสนอของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เรื่องการมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กำกับดูแลค่าบริการขนส่งน้ำมันทางท่อรายงานต่อ กพช. โดยมีข้อคิดเห็นว่า กิจกรรมขนส่งน้ำมันทางท่อมีในการควบคุมอัตราค่าบริการให้มีความเหมาะสม และมีการแข่งขันกับผู้ประกอบกิจการขนส่งน้ำมันด้วยวิธีการอื่นๆ อย่างกว้างขวางอยู่แล้ว รวมทั้งในขณะนี้มีการกำกับดูแลธุรกิจการขนส่งน้ำมันทางท่อ โดยการขึ้นทะเบียนกับกรมธุรกิจพลังงาน ประกอบกับคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าภายใต้พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 สามารถกำกับการใช้อำนาจเหนือตลาดได้อยู่แล้ว จึงมีความเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่ กกพ. จะต้องกำกับดูแลในเรื่องค่าบริการขนส่งน้ำมันทางท่อ ทั้งนี้ ให้มีการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าอีกครั้ง ก่อนนำเสนอ กพช. ต่อไป
รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2558 - 2579 (PDP 2015) ไตรมาสที่ 3 ถึง ไตรมาสที่ 4 ปี 2560
ที่ประชุม กบง. รับทราบ รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2558 - 2579 (PDP 2015) ไตรมาสที่ 3 ถึง ไตรมาสที่ 4 ปี 2560 โดยก่อนหน้านี้ ได้ดำเนินการจัดรับฟังความเห็นค่าพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าใหม่ (Load Forecast) เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป พร้อมทั้งตั้งสมมุติฐานใน 3 ประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญคือ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ที่ทำให้ต้นทุนลดต่ำลง (Disruptive Technology)การขยายตัวของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และการขยายตัวของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้าน (Solar Roof Top) และยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจจะต้องนำมาตั้งสมมุติฐานในการจัดทำแผน PDP เพิ่มเติม
โดย PDP ฉบับใหม่ที่อยู่ระหว่างดำเนินการนั้น จะแยกการศึกษาเชิงลึก ถึงการใช้และผลิตไฟฟ้าเป็นรายภาค รวมไปจนถึงการศึกษาเพื่อกำหนดประเภทเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าใหม่ในอนาคต