WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

รัฐขยับก๊าซขนส่งให้เท่าภาคครัวเรือน จ่อขึ้น LPG กก.ละ 1.25 บ.

   แนวหน้า : กระทรวงพลังงาน เล็งปรับโครงสร้าง LPG ภาคขนส่ง โดยขึ้นอีก 1.25บ./กก.ให้เท่าครัวเรือน ชี้กระทบแค่แท็กซี่ ส่วนรถร่วมฯบอกน้ำมันอัตราใหม่ไม่มีผล เพราะรถเมล์ หันไปใช้ก๊าซกันหมดแล้ว ส่วน 'เรือด่วน' โอด ดีเซลขึ้น 14 สต.ขอปรับค่าโดยสาร

   แหล่งข่าวจาก กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงฯจะมีการปรับเปลี่ยนราคาก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจีในภาคขนส่ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 21.38 บาทต่อกก. ให้มีราคาเท่ากับภาคครัวเรือน โดยจะปรับราคาเพิ่มขึ้นทันที 1.25 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) หรือให้เท่ากับราคาแอลพีจีครัวเรือน อยู่ที่ 22.63 บาทต่อกก. ทั้งนี้เป็นไปตามที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ได้ปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิงไปแล้วก่อนหน้านี้ รวมทั้งการปรับปรุงภาษีสรรพสามิต และ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

   “ราคาแอลพีจีภาคขนส่งที่ต่ำทำให้เกิดการใช้ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับทางเลือกของผู้ใช้รถยนต์เองก็มีมากทั้งแก๊สโซฮอล์ที่รัฐบาลก็อุดหนุนราคา และยังรวมไปถึงก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ เอ็นจีวี อีกจึงไม่กระทบ”

  อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคขนส่งอาจจะกระทบต่อรถโดยสารสาธารณะโดยเฉพาะแท็กซี่ที่ยังคงมีการใช้แอลพีจีอยู่ราวกว่า 20,000 คัน ดังนั้น ขณะนี้กระทรวงพลังงานได้เตรียมมาตรการที่จะดูแลรถแท็กซี่ไว้แล้วซึ่งจุดนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

   นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) กล่าวว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคขนส่งที่ขณะนี้ถูกกว่าครัวเรือนไปให้เท่ากันเนื่องจากขณะนี้ประชาชนเริ่มมีการนำถังแอลพีจีครัวเรือนไปเติมในปั๊มแก๊สเพิ่มมากขึ้นเพราะราคาถูกกว่า หากปล่อยไว้จะกลายเป็นความเคยชิน นอกจากนี้การปรับขึ้นแอลพีจีขนส่งยังช่วยลดภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ได้ด้วย

   “เดิมทีรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะให้ราคาของทั้งครัวเรือนและขนส่งไปสู่ราคาต้นทุนหน้าโรงแยกก๊าซธรรมชาติที่ 24.82 บาทต่อกก. เท่ากัน ดังนั้นหากปรับราคาแอลพีจีครัวเรือนและขนส่งให้เท่ากันแล้วจากนั้นจะมีการขึ้นราคาตามกรอบเดิมหรือไม่ก็คงอยู่ที่นโยบายภาครัฐ”นายชิษณุพงศ์ กล่าว

    ก่อนหน้าน สมาคมฯได้ทำแบบสอบถามจากร้านค้าทั่วประเทศ และนำข้อสรุปเสนอไปยังสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) แล้ว โดยพบว่า ร้านค้าก๊าซ ส่วนใหญ่ซึ่งสัมผัสกับชาวบ้านผู้ใช้แอลพีจีโดยตรงส่วนใหญ่ระบุว่าไม่อยากให้รัฐขึ้นราคา แต่ถ้าจำเป็นก็ขอให้ทยอยขึ้นและคงมาตรการช่วยเหลือกลุ่มคนผู้มีรายได้น้อยให้ใช้ในราคาเดิมเพราะขณะนี้ค่าครองชีพประชาชนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับรายได้

    นายวิทยา เปรมจิตร์ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมบริการเอกชน หรือ รถร่วมบริการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า หลังจากที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติปรับอัตราราคาการจัดเก็บกองทุนน้ำมันฯ ทุกชนิดใหม่ ส่งผลให้ราคาน้ำมันและก๊าชลดลงนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการให้บริการของรถร่วมเอกชนโดยตรง เนื่องจากปัจจุบันรถร่วมบริการเอกชนที่วิ่งให้บริการในเขตกรุงเทพฯ เกือบ 100% ได้เปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติก๊าซ NGV แล้ว

   ทั้งนี้ ในเรื่องการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารนั้น ปัจจุบันยังไม่ได้รับอนุญาตให้ปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารรถร่วมบริการ ขสมก. และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาจากทางกระทรวงคมนาคม เนื่องจากได้มีการยื่นหนังสือขอปรับขึ้นค่าโดยสารไปนานมากแล้ว แต่ปัจจุบันยังไม่ได้รับการตอบรับหรือความคืบหน้าแต่อย่างใด

   ด้าน น.ท.ปริญญา รักวาทิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด กล่าวว่าจากกรณีที่ดีเซล มีการปรับขึ้น 14 สตางค์ ได้ส่งผลกระทบกับบริษัท โดยคาดว่าแนวโน้มราคาน้ำมันดีเซลในอนาคตจะต้องปรับเพิ่มขึ้นอีกอย่างแน่นอน และในการหารือเรื่องการปรับค่าโดยสารในครั้งต่อไปจะต้องมีการกำหนดว่า ราคาน้ำมันอยู่ที่กี่บาทต่อลิตรจะปรับขึ้นค่าโดยสารในอัตราเท่าใด เช่น หากราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 32 บาทต่อลิตร ค่าโดยสารจะต้องปรับขึ้นอีก 2 บาท

   อย่างไรก็ตาม จากการที่ได้เคยประชุมร่วมกับกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ขณะนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปในประเด็นดังกล่าว จึงจำเป็นต้องรอนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่และจะเตรียมตัวขอเข้าพอทันทีเพื่อหารือ โดยค่าโดยสารที่ทางบริษัทได้เสนอขอขึ้นราคาไปก่อนหน้านี้คือ 2 บาท ของเรือทุกประเภท

   ทั้งนี้ บริษัทขอปรับเพิ่มคือ เรือด่วนพิเศษธงเหลืองจาก 20 บาท จะถูกปรับเป็น 22 บาท เรือด่วนพิเศษธงส้มจาก 15 บาท เป็น 17 บาท และเรือตามระยะทางจอดทุกท่าเรือ จาก 10, 12, 14 บาท เป็น 12, 14, 16 บาท เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยาทุกท่าทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑลจาก 3 บาท เป็น 4 บาท

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!