WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

OIL21ราคาน้ำมันดิบ ผันผวนจากความต้องการการใช้น้ำมันที่คาดจะสูงขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศในทวีปยุโรปและสหรัฐฯ ท่ามกลางการเจรจาโครงการนิวเคลียร์อิหร่านและการประชุมโอเปก

บทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ โดย บมจ.ไทยออยล์: ฉบับวันที่ 31 พฤษภาคม 2564

                         

ไทยออยล์ คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 63-68 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 66-71 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ ( 31 พ.ค.-4 มิ.ย. 64)

       ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มได้รับแรงสนับสนุนจากความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากฏษณเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศในแถบยุโรปและสหรัฐฯ ซึ่งเป็นช่วงที่มีกิจกรรมการเดินทางมากที่สุดตลอดปีและจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงอย่างต่อเนื่องจากความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนจึงส่งผลให้มีการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางในหลายพื้นที่ นอกจากนี้ตลาดยังคงได้รับแรงสนับหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ สะท้อนถึงความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในประเทศแถบเอเชียและความคืบหน้าการเจรจาโครงการนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับชาติมหาอำนาจและการประชุมโอเปกในสัปดาห์นี้

 1AAOIL5 31w

ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ :

           ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มได้รับแรงสนับสนุนจากความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐฯมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูการขับขี่ซึ่งจะเริ่มขึ้นหลังวันหยุดยาว Memorial Day ในวันที่ 31 พ.ค. สมาคมรถยนต์แห่งอเมริกาคาดการณ์จำนวนผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงวันหยุด Memorial Day ปีนี้อยู่ที่ 37 ล้านคนเพิ่มขึ้น 60% จากปีก่อนหน้าและจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ลดลงต่อเนื่องสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนตั้งแต่เดือน มิ.ย. 63 ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลงจากความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 21 พ.ค. 64 ปรับลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 484.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลง 1 ล้านบาร์เรล

           การเดินทางระหว่างประเทศในประเทศสมาชิกกลุ่มสหภาพยุโรปมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นหลังรัฐสภายุโรปประกาศอนุมัติการใช้วัคซีนพาสปอร์ต (EU Digital COVID Certificate) สำหรับการเดินทางภายในประเทศกลุ่มสมาชิกได้โดยไม่ต้องกักตัวมีผลวันที่ 1 ก.ค. ส่งผลให้ยอดจองโรงแรมในยุโรปในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. 64 เพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 60% ของยอดจองโรงแรมก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตามหลายประเทศในยุโรปเริ่มมีการผ่อนคลายการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วแม้ว่าการใช้วัคซีนพาสปอร์ตจะเริ่มมีผลใช้ในเดือน ก.ค. 64

           ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเอเชียที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เช่น เวียดนามได้ประกาศขยายพื้นที่การใช้มาตรการล็อคดาวน์ในเขตพื้นที่ตอนเหนือของประเทศหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันเพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่มีรายงานการพบผู้ติดเชื้อ ในขณะที่รัฐบาลอินโดนีเซียขยายระยะเวลาบังคับใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในบางพื้นที่จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค. ไปเป็นวันที่ 14 มิ.ย. และเพิ่มพื้นที่การใช้มาตรการดังกล่าวอีกใน 4 จังหวัด

           ตลาดยังคงจับตาการรื้อฟื้นข้อตกลงโครงการนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและ 6 ประเทศมหาอำนาจ โดยประเทศที่เกี่ยวข้องในข้อตกลงนี้มีความพยายามเจรจาเพื่อหาทางออกของมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านโดยสหรัฐฯ แม้ว่าจะยังไม่ได้ข้อสรุปจากการจัดการประชุมหารือเกี่ยวกับประเด็นนี้ซึ่งจัดมาแล้ว 5 ครั้ง แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าข้อตกลงเกี่ยวประเด็นนี้จะได้ข้อสรุปก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่านในช่วงเดือน มิ.ย. 64 ซึ่งอิหร่านมีแนวโน้มที่จะเพิ่มกำลังการผลิตราว 1-2 ล้านบาร์เรลต่อวันถ้าหากสหรัฐฯประกาศยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน

           นักลงทุนจับตาผลการประชุมของกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรในวันที่ 1 มิ.ย. 64(OPEC and Non-OPEC Ministerial Meeting 17th) เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดน้ำมัน ติดตามการผลิตน้ำมันดิบของแต่ละประเทศตามข้อตกลงของกลุ่ม รวมถึงทบทวนข้อตกลงการปรับเพิ่มกำลังการผลิตที่ได้มีมติร่วมกันเมื่อช่วงเดือน เม.ย. 64 โดยภาพรวมปริมาณการผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยสุทธิยังคงน้อยกว่าระดับความต้องการใช้น้ำมันที่คาดว่าจะฟื้นตัว จึงไม่ส่งผลกดดันต่อตลาดมากนัก

           เศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อจีน เดือน พ.ค. 64 รายงานยอดขายปลีกยูโรโซน เดือน เม.ย.64 ดัชนีราคาผู้บริโภคยูโรโซน เดือน พ.ค. 64 ดัชนีคาดการณ์ตัวเลขเปลี่ยนแปลงการจ้างงานและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ เดือน พ.ค. 64

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (24-28 พ.ค. 64) 

       ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 2.74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 66.32 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 3.19 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 69.63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 67.34 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ความต้องการใช้น้ำมันได้รับแรงสนับสนุนจากความคืบหน้าการฉีดวัคซีนในหลายประเทศส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงอย่างมากโดยเฉพาะประเทศในสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ที่มีการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์แล้วในหลายพื้นที่

      นอกจากนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศอินเดียมีสัญญาณดีขึ้นจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันมีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงกังวลจากความเป็นไปได้ของการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบของอิหร่านจากการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านโดยสหรัฐฯ

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!