WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

นูสกิน ฝ่ากระแสการเมืองร้อน โชว์ยอดขายครึ่งปีแรกพุ่ง 25%

     บ้านเมือง : สุภพงษ์ เทียนสี/รายงาน 'นูสกิน' เมินการเมือง เร่งเตรียมแผนบุกตลาดครึ่งปีหลัง หวังเพิ่มยอดขายทั้งปีเติบโต 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนครึ่งปีแรกแม้มีเหตุปัจจัยภายนอกมากระทบยังโตสวนกระแส 25 เปอร์เซ็นต์ พร้อมเตรียมแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลรูปร่าง เอจล็อค ทีอาร์ ไนน์ตี้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีเอจล็อค

    นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส ประเทศไทย และ เวียดนาม เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของสกิน ประเทศไทย เติบโตขึ้นและเป็นการเติบโตที่เหนือความคาดหมาย ทั้งด้านยอดขาย ยอดผู้ทำธุรกิจ และยอดสมาชิก ที่เพิ่มขึ้นพร้อมๆกัน ทั้งนี้ปัจจัยความสำเร็จมาจากการปรับกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นเรื่องการส่งเสริมการเติบโตของผู้ทำธุรกิจเป็นหลัก โดยผ่านกิจกรรมการตลาดที่เราเรียกว่า 'นูสกิน เอจล็อค เอ็กซ์โป'ซึ่งจำนวนผู้ทำธุรกิจเพิ่มขึ้นถึง 188% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2556 ที่เป็นเดือนแรกของนำกลยุทธ์เอกซโปมาใช้ที่น่าพอใจโดยสามารถกระตุ้นยอดขายครึ่งปีแรกของปี 2557 ให้เติบโตขึ้นแบบสวนกระแสถึง 25% อีกทั้งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังสามารถเพิ่มยอดผู้ทำธุรกิจได้สูงขึ้น 36% และยอดสมาชิกใหม่สูงขึ้น 72% เมื่อเทียบระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม ปี 2556 กับปี 2557

  "จากภาพรวมธุรกิจขายตรงช่วงปลายปีที่ผ่านมามีการชะลอตัวบ้าง เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองและภาพรวมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบเล็กน้อย จากปัจจัยดังกล่าวเป็นแรงผลักดันให้บริษัทเร่งเดินเครื่องรุกตลาดแบบโปรแอ็กทีฟอย่างเต็มที่ตั้งแต่ต้นปี ประกอบกับสถานการณ์ต่างๆ มีแนวโน้มสดใสขึ้น ทำให้ ยอดขายครึ่งปีแรกนี้ ถือว่าเป็นการเติบโตที่เหนือความคาดหมาย"

   ทั้งนี้ สัดส่วนยอดขาย ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเอจล็อคทั้งผลิตภัณฑ์สกิน แคร์ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 67% จากเดิม 50% และผลิตภัณฑ์กลุ่มสกินแคร์และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 33% จากเดิม 50% เมื่อเทียบระหว่างเดือนมกราคมพฤษภาคม ปี 2556 กับปี 2557 ซึ่งปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ยอดขายกลุ่มเอจล็อคเติบโต ส่วนหนึ่งมาจากการการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เอจล็อคอาร์สแควร์ในปีที่ผ่านมา รวมทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เอจล็อคได้รับการตอบรับที่ดีมากจากผู้บริโภค เนื่องจากประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ให้ผลการใช้ที่ชัดเจน ผู้บริโภคจึงพึงพอใจในสินค้าอย่างมาก" นางภคพรรณ กล่าว

   นางภคพรรณ กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลังนั้น บริษัทฯ เตรียมเดินหน้าเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้เทคโนโลยีเอจล็อค เพื่อตอกย้ำภาพผู้นำด้านผลิตภัณฑ์การต่อต้านความชรา โดยบริษัทฯ วางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการดูแลรูปร่าง ชื่อว่า "เอจล็อค ทีอาร์ ไนนท์ตี้" (ageLOC TR90) เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์ตลาดคนรักสุขภาพที่ต้องการดูแลรูปร่างอย่างถูกวิธี ซึ่งจะทำการพรีเซลล์ให้กับผู้ทำธุรกิจระดับบริหารช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าว่าหลังจากมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เอจล็อคอย่างเป็นทางการช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ จะส่งผลผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 20% ส่วนผลประกอบการในปี 2556 ที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดขายลดลงจากเดิมประมาณ 5-10% เนื่องมาจากสถานการณ์ทางการเมืองและปัจจัยแวดล้อม"

   ขณะเดียวกัน กิจกรรมด้านการส่งเสริมการทำธุรกิจของผู้แทนจำหน่าย บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นที่การจัดอินเซ็นทีฟทริปแบบเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อให้แตกต่างและดึงดูดใจผู้ทำธุรกิจต่อเนื่องต่อไป ซึ่งมีเฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้งสลับหมุนเวียนตามตำแหน่งต่างๆ ของผู้ทำธุรกิจ ปัจจุบัน นู สกิน ประเทศไทยสามารถสร้างผู้แทนจำหน่ายเข้าสู่ทำเนียบเศรษฐีเงินล้านได้กว่า 680 บัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่จะก้าวเป็นบริษัทขายตรงแนวหน้าของโลกด้วยการสร้างรายได้ให้แก่ผู้แทนจำหน่ายที่มากกว่าบริษัทขายตรงอื่นๆ โดยในครึ่งปีแรกนี้ จำนวนผู้แทนจำหน่ายที่มียอดคอมมิสชั่นสะสม 1 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 12%"

  นางภคพรรณ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายมาอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในกิจกรรมที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ คือ กิจกรรมเอกซโป ซึ่งได้มีการปรับรูปแบบจากเดิมที่กลยุทธ์ด้านอีเวนท์ของนูสกิน จะจัดตามห้างสรรพสินค้า มาเป็น'นูสกิน เอจล็อค เอกซโป'ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2556 โดยปรับสถานที่การจัดอีเวนท์มาอยู่ที่ศูนย์บริการ นู สกิน ทั่วทุกภูมิภาคทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (จามจุรี สแควร์) จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดสงขลา (หาดใหญ่) และจังหวัดภูเก็ต ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 9-10 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งที่ 5 ที่ นู สกิน ได้นำกลยุทธ์ใหม่นี้มาใช้ โดยไฮไลท์ภายในงานยังคงชูจุดเด่นของกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่อต้านความเสื่อมชรา'เอจล็อค'เป็นเรือธงในการทำตลาด

  "ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา นูสกินเรามีการปรับกลยุทธ์การทำตลาดแบบ Below the line โดยมุ่งเน้นกิจกรรมส่งเสริมการตลาดผ่านกิจกรรมเอ็กซ์โป ซึ่งไม่เพียงแค่เพิ่มจำนวนฐานลูกค้าใหม่แต่ยังเน้นกิจกรรมที่จะช่วยเพิ่มจำนวนของผู้ทำธุรกิจให้มากขึ้น โดยได้นำกลยุทธ์เอกซโปมาใช้ครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2556 สำหรับตัวเลขการเติบโตเป็นไปอย่างต่อเนื่องทุกๆ ครั้ง ที่จัดกิจกรรมดังกล่าว และได้กระแสตอบรับที่ดีมาก ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดจำนวนผู้สมัครสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น 120% จำนวนผู้ทำธุรกิจเพิ่มขึ้น 188% จำนวนยอดขายเติบโต 190% เมื่อเทียบกับเดือนแรกของนำกลยุทธ์เอกซโปมาใช้ ขณะเดียวกันจำนวนตัวเลขของผู้เข้าร่วมกิจกรรมก็เพิ่มขึ้นถึงเท่าตัวเช่นกัน"

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!