- Details
- Category: ขายตรง
- Published: Saturday, 31 October 2015 13:22
- Hits: 7700
ลาซาด้า เชิญชวนผู้ค้าชาวไทยเปิดร้านค้าออนไลน์กับลาซาด้า มาร์เก็ตเพลส
ผู้ค้าบนลาซาด้า มาร์เก็ตเพลส เตรียมพบกับปรากฏการณ์ออร์เดอร์สั่งซื้อสินค้าถล่มทลาย ในงานเทศกาล ออนไลน์ เฟสติวัล ระหว่างวันที่ 11 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 12 ธันวาคมนี้
ลาซาด้า ผู้นำด้านการช้อปปิ้งและแพลตฟอร์มพื้นที่ขายของออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผย อัตราการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสผู้ค้ารายย่อยชาวไทย และหลากหลายแบรนด์ดังบนเว็บไซด์ลาซาด้า โดยรายงานผลประกอบการเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พบว่า ลาซาด้า มาร์เก็ตเพลส ในประเทศไทย สร้างรายได้มากถึง 80% ของมูลค่าผลประกอบการโดยรวมทั้งหมด (GMV)
หลังจากเปิดแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสให้กับผู้ค้ารายย่อยในประเทศจนถึงขณะนี้ มีจำนวนผู้ค้ารายย่อยชาวไทยกว่า 7,000 คน เลือกลาซาด้าเป็นพื้นที่ขายของออนไลน์ ซึ่งยังรวมไปถึงแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักกันดีในประเทศ อาทิ เทสโก้ โลตัส ลอรีอัล และฟิลิปส์ เป็นต้น
ลาซาด้าพร้อมจะให้การสนับสนุนอย่างครบวงจรกับผู้ค้าทุกคนบนแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลส โดยลาซาด้าจะทำหน้าที่เป็นทีมสนับสนุนตั้งแต่การจัดการรายการสั่งซื้อสินค้า ไปจนถึงการจัดส่งสินค้า นอกจากนี้ผู้ค้ายังได้รับผลประโยชน์จากการเข้าถึงฐานข้อมูลลูกค้า และการวิเคราะห์โครงสร้างการขายและผลประกอบการได้โดยตรง เซลเลอร์ เซ็นเตอร์ หนึ่งในผู้สนับสนุนของลาซาด้า มาร์เก็ตเพลส ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มขายของออนไลน์สำหรับผู้ค้าในการจัดการกับคลังสินค้า ราคา โปรโมชั่น และรายการสั่งซื้อสินค้า เมื่อเร็วๆ นี้ได้เปิดตัว แอปพลิเคชัน เซลเลอร์ เซ็นเตอร์ (Seller Centre Android app) บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ทำให้ผู้ค้าสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มการขายได้ทุกที่ทุกเวลา และยังช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการจัดการสินค้า และมีระบบแจ้งเตือนทันทีเมื่อมีการสั่งซื้อสินค้า รวมไปถึงการดูรายงานผลประกอบการแบบเรียลไทม์ ซึ่งแอปพลิเคชันนี้ นับเป็นผู้ช่วยที่ยกระดับการขายของบนโลกออนไลน์ให้ง่ายขึ้นไปอีกขั้น
นอกจากนี้ ยังมี ลาซาด้า ยูนิเวอร์ซิตี้ ที่เป็นอีกหนึ่งผู้ช่วยสำคัญสำหรับผู้ค้ารายย่อยบนแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสของลาซาด้า โดยเป็นแหล่งรวบรวมหลากหลายเครื่องมือทางตลาด เพื่อให้ผู้ค้านำไปต่อยอดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
คุณอเล็กแซนดรอ บิสชินี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัทลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า “ลาซาด้า มาร์เก็ตเพลส ถือเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการเดินหน้าธุรกิจของเรา โดยลาซาด้าได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากผู้ค้ารายย่อยชาวไทยจำนวนมาก และอีกหลากหลายาแบรนด์สินค้าต่างๆ ที่เป็นพันธมิตรกับเรา ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่ทุกคนมีให้กับลาซาด้า โดยเรามุ่งมั่นที่จะเป็นทีมสนับสนุนที่ทำให้การขายของออนไลน์ของทุกคนเป็นเรื่องง่ายและสะดวก ทั้งการพัฒนาด้านโลจิสติกส์ การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้ และวิธีการจ่ายเงินหลากหลายรูปแบบ ซึ่งทั้งหมดนี้ ทำให้เรามั่นใจว่า แพลตฟอร์มการขายของออนไลน์ของลาซาด้าเป็นพื้นที่การขายของออนไลน์อันดับหนึ่งสำหรับผู้ค้าชาวไทยอย่างแน่นอน”
เพื่อตอบสนองต่อการเจริญเติบโตของตลาดอีคอมเมิรซในประเทศไทย ทั้งผู้ค้าใหม่ และผู้ค้าที่มีประสบการณ์ในการขายจะได้รับประโยชน์มากมายในการเข้าร่วมกับลาซาด้า มาร์เก็ตเพลส ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงตลาดผู้บริโภคกลุ่มใหม่ การโฆษณาสินค้าผ่านเว็บไซด์ทางการของลาซาด้า และการเข้าถึงข้อมูลผลประกอบการและยอดการขายของร้านค้า โดยเว็บไซด์ลาซาด้ามีผู้เข้าชมมากกว่า 4.5 ล้านคนในแต่ละวันทั่วภูมิภาค รวมไปถึงการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ครอบคลุมทุกช่องทางหลัก ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ของลาซาด้าเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับผู้ค้าออนไลน์ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หนึ่งในผู้ค้าออนไลน์ที่ได้รับผลประโยชน์จากลาซาด้าอย่าง Household Society ศูนย์รวมอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นบริษัทขายส่งสินค้าประเภทอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน และลาซาด้าได้เป็นพื้นที่การขายสินค้าออนไลน์ที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในการขยับขยายไปยังการขายสินค้าปลีกโดยตรงให้ผู้บริโภค
คุณธนะสิทธิ์ ปัญจอนันต์ยศ เจ้าของร้าน Household Society กล่าวว่า “ในส่วนร้านค้าแบบออฟไลน์ เราจะทำหน้าที่ขายส่งสินค้าให้กับบริษัทค้าปลีก แต่ที่ๆ ทำให้เราได้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้นคือ การทำร้านค้าออนไลน์บนลาซาด้า ซึ่งนอกจากจะสามารถขายสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว เรายังได้รับคำติชมของลูกค้าได้โดยตรง ซึ่งเราสามารถเอาข้อเสนอแนะที่ได้เหล่านี้มาพัฒนาและต่อยอดในการทำธุรกิจของเราได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ เรายังได้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งเซลเลอร์ เซ็นเตอร์จากลาซาด้ายังเป็นเครื่องมือที่คอยรายงานผลประกอบการ เพื่อประเมินยอดขายและคำสั่งซื้อ ไม่ให้สินค้าขาด ทั้งยังช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค และเปิดโอกาสให้ผู้ค้าสามารถจัดการกับราคาสินค้าได้อย่างเหมาะสม”
ผู้ค้าออนไลน์ผ่านลาซาด้า มาร์เก็ตเพลส จะได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากลาซาด้า ทั้งการฝึกอบรมเพื่อนำไปต่อยอดให้ธุรกิจประสบผลสำเร็จ วิธีจัดการกับคลังสินค้า และการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภค เพื่อเตรียมตัวสำหรับงานเทศกาลขายของออนไลน์อย่าง ออนไลน์ เฟสติวัล (Online Festival) ที่ลาซาด้าจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งมียอดการขายระหว่างเทศกาลเมื่อปี พ.ศ. 2557 ว่ามีมูลค่ารวมมากกว่าการขายในวันปกติถึง 10 เท่า (เปรียบเทียบจากยอดการขายเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557)
เทศกาลออนไลน์ เฟสติวัลประจำปี 2558 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 12 ธันวาคม โดยแต่ละสัปดาห์ ลาซาด้าจะรวบรวมเอาสินค้าพิเศษในแต่ละหมวดหมู่ สินค้าจากแบรนด์ดัง และต่อยอดจากโปรโมชันประจำวันด้วย โปรโมชันสุดเอ็กซ์คลูซีพจากหลากหลายพันธมิตรทางการค้าทั้งสถาบันการเงินและโทรคมนาคม
ผู้ที่สนใจสมัครเป็นผู้ค้าออนไลน์กับลาซาด้า สามารถลงทะเบียนได้ที่หน้าเว็บไซด์มาร์เก็ตเพลส (http://www.lazada.co.th/marketplace/) โดยจะได้เข้ารับการคอร์สการฝึกอบรมเป็นผู้ค้าออนไลน์กับลาซาด้าฟรี
เกี่ยวกับลาซาด้า
ลาซาด้ากรุ๊ป ห้างสรรพสินค้าช้อปปิ้งออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดและเป็นผู้บุกเบิกอี-คอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มดำเนินธุรกิจเมื่อเดือนมีนาคม 2555 ด้วยธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วจึงทำให้ในปัจจุบัน ลาซาด้ากรุ๊ปมีพนักงานมากถึง 6,000 คนทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังมีผู้เข้าชมผ่านทางเว็บไซต์และทางแอปพลิเคชั่น มากกว่า 5 ล้านครั้งต่อวัน และมีจำนวนแฟนเพจเฟซบุ๊คมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำนวนกว่า 13 ล้านคน ลาซาด้ากรุ๊ป มอบความสะดวกสบายในการช้อปปิ้งด้วยวิธีการชำระเงินหลายรูปแบบ อาทิ helloPay บริการชำระเงินออนไลน์ การเก็บเงินปลายทาง บริการด้านระบบการจัดส่งสินค้า โดย Lazada Services และการส่งสินค้าคืนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ลาซาด้านำเสนอสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงของใช้ภายในบ้าน ของเล่น สินค้าแฟชั่นและอุปกรณ์กีฬา
ลาซาด้ากรุ๊ป ดำเนินธุรกิจในประเทศอินโดนีเซีย (www.lazada.co.id) มาเลเซีย (www.lazada.com.my) ฟิลิปปินส์ (www.lazada.com.ph) สิงคโปร์ (www.lazada.sg) ไทย (www.lazada.co.th) และเวียดนาม (www.lazada.vn) ทั้งยังได้มีระบบจัดการที่ทำให้แบรนด์และพ่อค้าคนกลางเข้าถึงลูกค้า 550 ล้านคนใน 6 ประเทศได้อย่างง่ายดาย ผ่านช่องทางการขายปลีกเพียงช่องเดียว