- Details
- Category: ขายตรง
- Published: Wednesday, 07 May 2014 23:54
- Hits: 4967
เดอะ เฟส เอสเทติกรุกขยายสาขาขยายฐานลูกค้าในไทย-เอเชีย
แนวหน้า : นายศวิน ห่อมา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ เฟส เอสเทติก จำกัด ผู้บริหารคลินิกเสริมความงามระดับพรีเมี่ยม (ระดับบน) “เดอะ เฟส เอสเทติก” (The Face Aesthetic) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยภายใน 3-5 ปีนับจากนี้มีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมอีกประมาณ 5-10 สาขา ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นคนทำงาน ในเบื้องต้นช่วงครึ่งปีหลัง 2557 นี้จะขยายเพิ่มประมาณ 2 สาขา คือ สาขาสีลม และสาขารังสิต คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณในการลงทุน 20-30 ล้านบาทต่อสาขา
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะขยายกลุ่มเป้าหมายด้วย ในเบื้องต้นรูปแบบการทำตลาดจะเป็นในช่องทางของการติดต่อจากทัวร์ของต่างประเทศให้เข้ามาใช้บริการที่เดอะ เฟส เอสเทติก เนื่องจากบริษัทมองว่าเมื่อประเทศไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียนได้เข้าร่วมกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 จะทำให้เดอะ เฟส เอสเทติกเป็นที่รู้จักของกลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียน รวมถึงประเทศแถบเอเชียมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่ของเดอะ เฟส เอสเทติกจะเป็นแบบปากต่อปากในสัดส่วนสูงถึง 80% ส่วนที่เหลืออีก 20% จะดูข้อมูลจากเว็บไซต์
“แม้บริษัทจะเพิ่งก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจการเสริมความงามได้เพียงปีเศษๆเท่านั้น แต่ก็สามารถสร้างฐานลูกค้าได้ถึง 8,000 รายแล้ว และเป็นที่ยอมรับของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก เนื่องจากเทคโนโลยีทางด้านความงามระดับพรีเมี่ยมได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งถือเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของเดอะ เฟส เอสเทติก”นายศวิน กล่าว
ทั้งนี้กลยุทธ์ที่บริษัทจะนำมาใช้เพื่อการสร้างแบรนด์เดอะ เฟส เอสเทติกให้ประสบความสำเร็จ ประกอบด้วย การทำให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัย การให้บริการแล้วเห็นผล และลูกค้าได้รับความสะดวกในการมาใช้บริการ เพราะจะเน้นความเป็นส่วนตัวสูงสุด รวมทั้งมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยเฉพาะ ที่จะคอยให้การรักษาลัให้คำแนะนำทางเลือกที่เป็นกลาง เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้รับประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้เครื่องมือต่างๆที่ใช้ก็ผ่านการรับรองมาตรฐานจากต่างประเทศ
อย่างไรก็ตามรายได้ของเดอะ เฟส เอสเทติกในสิ้นปี 2557 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะสร้างผลกำไรให้กับบริษัทได้ประมาณ 80 ล้านบาท แต่ต้องมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องตามแผนทีวางไว้ โดยบริษัทต้องการจะขยายสาขาทั่วกรุงเทพฯให้ได้อย่างน้อย 5 สาขา และในปี 4-5 ปี วางแผนที่จะขยายสาขาไปในต่างจังหวัด โดยเฉพาะในจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ของประเทศ อาทิ ภูเก็ต เชียงใหม่ และขอนแก่น เป็นต้น
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในระยะยาวนั้น ภายในอีก 10 ปีข้างหน้านี้ บริษัทได้วางเป้าหมายสูงสุด คือ การสร้างรากฐานของธุรกิจให้แข็งแรง จนสามารถขายเฟรนไชส์ได้ในอนาคต และขยายฐานลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มเป็นประมาณ 10,000 ราย โดยลูกค้าทุกรายจะต้องได้รับการบริการที่ดีและมีคุณภาพเท่ากันในทุกสาขา เพื่อที่ลูกค้าจะได้เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง