- Details
- Category: ขายตรง
- Published: Sunday, 11 October 2015 02:08
- Hits: 7452
'โฟรบส์ ลุกซ์' ปักธงรบขยายดินแดนสู่ตลาดไทย และอินโดจีน ตั้งเป้ายอดขายทะลุ 200 ล.บ.
บริษัทขายตรงเมืองไทยสะเทือนอีกระลอก เมื่อ 2 บริษัทขายตรงชั้นนำรายใหญ่ของโลกจากจากอิเดียที่มีชื่อว่า บริษัทยูเรก้า โฟรบส์ และ บริษัทลุกซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล สวิตเซอร์แลนด์ ผนึกกำลังร่วมกันขยายธุรกิจขายตรงชั้นเดียวสู่ไทย โดยมีสัดส่วนการลงทุน 50 : 50 ภายใต้แบรนด์ “โฟรบส์” จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอาทิ เครื่องกรองน้ำ เครื่องฟอกอากาศ เครื่องดูดฝุ่น เครื่องซักผ้า และอีกมากมาย ตั้งเป้ายอดขาย 200 ล้านบาท ด้วยการเร่งเพิ่มจำนวนพนักงานขายให้ครบ 500 คน และขยายสาขาให้ได้ 12 สาขาภายในสิ้นปี หวังก้าวเป็นหนึ่งในผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายใน 2553 พร้อมขยายตลาดสู่อินโดจีนทั้งประเทศฟิลิปปินส์, เวียดนาม, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
นายกิตติพงศ์ วงศ์จตุรภัทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูโร พีทูพี ไดเรคท์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัท ยูโร พีทูพี ไดเรคท์ ประเทศไทย เป็นบริษัทที่เกิดจากการรวมตัวของบริษัทขายตรงชั้นนำของโลกสองแห่งอันได้แก่ บริษัท ยูเรก้า โฟรบส์ อินเดีย และ ลุกซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล สวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งทั้งสองเป็นเจ้าตลาดในเรื่องผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน การรวมตัวดังกล่าวทำให้เกิดการดำเนินกิจการภายใต้กลุ่ม “โฟรบส์ ลุกซ์” ที่จะทำตลาดในประเทศไทย โดยบริษัทฯ มั่นใจ “โฟรบส์” จะได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคในไทย พร้อมเชื่อมั่นว่าจะสามารถจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ถึง 10,000 เครื่องภายในสิ้นปีนี้
“โฟรบส์ ลุกซ์” ถือเป็นการขยายตลาดเข้ามายังทวีปเอเชีย โดยการเอาจุดแข็งของแต่ละบริษัทที่เกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์มาร่วมกันขายตลาดภายใต้ช่องทางขายตรงชั้นเดียว เพราะจะว่าแล้วบริษัทลุกซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ถือว่ามีจุดแข็งในเรื่องผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องฟอกอากาศ, เครื่องดูดฝุ่น ส่วนบริษัทยูเรก้า โฟรบส์ จะชำนาญในตัวผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องกรองน้ำ และเมื่อทั้ง 2 บริษัทมาผลึกรวมกันทำธุรกิจก็จะก่อให้เกิดการเป็นผู้นำทั้งตลาดที่เกี่ยวกับอากาศ และน้ำ ซึ่งปัจจุบันทั้งน้ำ และอากาศ ถือเป็นความจำเป็นต่อการดูแลรักษาสุขภาพ แต่มลภาวะที่เกิดขึ้นส่งผลให้ทั้งอากาศและน้ำเป็นพิษ ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้คนไทยก่อเกิดเป็นโรคภูมิแพ้จำนวนมาก
อย่างไรก็ดี สิ่งที่จะเป็นหมัดเด็ดต่อการห่ำหั่นตลาดกับคู่แข่งที่มีผลิตภัณฑ์เหมือนกันราวกับเป็นพี่น้องฝาแฝด คือตนจะหันมาชูโรงความเป็นสินค้าที่ดูแลสุขภาพภายในบ้าน “Health Home” เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง นอกจากเรื่องการฝึกอบรมพนักงานขายให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์รวมถึงการบริการหลังการขายแบบครบวงจรและการรับประกันสินค้า 2 ปี
ดังนั้น การเข้ามาของตนภายใต้กลุ่ม “โฟรบส์ ลุกซ์” คือ การเป็นคู่แข่งโดยตรงกับทางบริษัทลุกซ์ รอยัล ในประเทศไทย เพราะล่าสุดมีพนักงานขายจากบริษัท ลุกซ์ รอยัล กว่า 20% ของพนักงานขายที่ตนมีอยู่ 300 คน เข้ามาสมัครทำธุรกิจกับตน และสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีพนักงานทั้งหมด 500 คน ทั้งนี้ ตนตั้งเป้าว่าในปี 2553 จะขึ้นมาเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ประกอบด้วย เครื่องกรองน้ำ, เครื่องฟอกอากาศ, เครื่องซักผ้า, ผลิตภัณฑ์ดูแลทำความสะอาดพื้น
นอกจากนี้จะมีการขยายสำนักงานจำนวน 25 สาขา จากเดิมที่มีอยู่แล้วในขณะนี้ 7 สาขา คือ เชียงใหม่, ขอนแก่น, ชลบุรี, หาดใหญ่ และกรุงเทพฯ ที่เปิดไปทั้งหมด 3 สาขาและสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นเป็น 9 สาขา เช่น นครสวรรค์, นครศรีธรรมราช
สำหรับทางด้านผลิตภัณฑ์ความแตกต่างที่ตนจะใช้เป็นตัวชูโรง หรือหัวหอกในการทำตลาด คือการนำเสนอสินค้าให้ตรงกับสภาพแวดล้อมที่ผู้บริโภคกำลังประสบเจออยู่ ซึ่งล่าสุดบริษัทได้นำผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยก่อน โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะมีอยู่ด้วยกัน 2 รุ่น คือ รุ่น I-Nova ที่เหมาะกับคนไทยที่อาศัยอยู่ในเมือง ส่วนอีกรุ่นหนึ่งชื่อว่า “Springfresh” เหมาะกับคนไทยที่อาศัยอยู่ในย่านที่ต้องดูดน้ำใต้พื้นผิว ที่เรียกกันว่า น้ำบาดาล ขึ้นมาใช้ รวมไปถึงผู้ที่ต้องอาศัยอยู่ใกล้กับโรงงานที่ชอบปล่อยน้ำเสียออกมา
ดังนั้น พนักงานขายแต่ละคนก็จะได้รับการฝึกอบรมเพื่อให้เกิดความเข้าใจสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้ตรงกับสภาพแวดล้อมที่ผู้บริโภคแต่ละคนอาศัยอยู่ซึ่งถือว่ามีความแตกต่างจากคู่แข่งขณะนี้ นอกจากนี้บริษัทก็เตรียมที่นำเครื่องทำระบบน้ำเย็นและน้ำร้อน, เครื่องกรองน้ำระบบยูวี เพื่อจับกลุ่มผู้บริโภคระดับล่างๆ หรือผู้บริโภคที่อาศัยอยู่กันเป็นครอบครัวขนาดเล็ก
ส่วนไตรมาสที่ 2 ผลิตภัณฑ์ตัวต่อไปที่บริษัทเตรียมนำเข้ามาจำหน่ายคือ เครื่องฟอกอากาศ, เครื่องดูดฝุ่น เครื่องซักผ้า เครื่องทำความสะอาดในระบบนาโนที่ช่วยในเรื่องของการฆ่าเชื้อโรค โดยเป้ายอดขายสิ้นปีนี้คาดว่าจะได้รับไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท
นายซูเรี่ยช แอล กอลานี่ กรรมการผู้จัดการ บริษัทยูเรก้า โฟรบส์ ประเทศอินเดีย และรองประธานกลุ่มโฟรบส์ลุกซ์ กล่าวว่า ในภาคพื้นยุโรปตะวันออกและทวีปแอฟริกา กลุ่ม “โฟรบส์ ลุกซ์” จะเปิดธุรกิจภายใต้ชื่อยี่ห้อ “ลุกซ์” เพื่อดำเนินธุรกิจขายตรงในประเทศรัสเซีย โปแลนด์ สโลวะเกีย โรมาเนีย แอฟริกาใต้ และประเทศในแถบลาตินอเมริกา โดยกลุ่ม “โฟรบส์ ลุกซ์” จะขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่เจริญเติบโตเพื่อกระตุ้นการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในครัวเรือน
ที่ผ่านมาบริษัทยูเรก้า โฟรบส์ อินเดีย เป็นบริษัที่ดำเนินธุรกิจขายตรงผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย เป็นผู้นำตลาดเครื่องกรองน้ำ, เครื่องดูดฝุ่น และเครื่องฟอกอกาศซึ่งจัดเป็นยี่ห้อที่มีชื่อเสียงและรู้จักกันแพร่หลายในประเทศอินเดีย เคยได้รับรางวัลทั้งทางด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์, การบริหารจัดการองค์กรและสิ่งแวดล้อม และได้รับการให้เป็นกรณีศึกษาทางธุรกิจในมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด
ปัจจุบันบริษัท ยูเรก้า โฟรบส์ มีพนักงานขายมากกกว่า 6,000 คน ยอดขายมากกว่า 160 ล้านเหรียญสหรัฐ มีลูกค้ากว่า 20 ล้านคน เป็นบริษัทที่เปิดดำเนินงานมาแล้ว 25 ปี ขณะที่บริษัทลุกซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดดำเนินธุรกิจมาแล้ว 100 ปี ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในบริษัทขายตรงชั้นนำของโลกจากการขยายธุรกิจไปสู่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก
โดยบริษัท ลุกซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ดำเนินธุรกิจขายตรงในทวีปยุโรปตะวันตก, ยุโรปตะวันออก, ทวีปอเมริกาใต้ และทวีฟแอฟริกา มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองชุกส์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งนับรวมกันแล้วลุกซ์ฯ ได้ดำเนินธุรกิจรวมกว่า 24 ประเทศทั่วโลก มีพนักงานขายมากกว่า 3,000 คน และยอดขาย 180 ล้านเหรียญ