- Details
- Category: ขายตรง
- Published: Sunday, 13 September 2015 16:36
- Hits: 10074
ทรีด้อม เดินหน้าเต็มกำลังทุ่มงบนับร้อยล้านบาท ก้าวสู่ผู้นำธุรกิจกฤษณาในกลุ่มอาเซียน
ทรีด้อม ผู้นำในธุรกิจส่งออกน้ำมันกฤษณาอันดับหนึ่งของประเทศไทย เดินหน้าเต็มกำลัง เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจน้ำมันกฤษณาของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กางแผนพัฒนาธุรกิจอย่างเป็นระบบ รองรับการเติบโตของตลาด พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันกฤษณา 265% ในปี พ.ศ.2562
ภาพรวมของตลาดน้ำมันกฤษณาโลกมีมูลค่ารวมสูงถึง 2-3 แสนล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดย 50% ของมูลค่าตลาดน้ำมันกฤษณาถูกใช้อุตสาหกรรมน้ำหอมทั่วโลก คาดว่าในปี พ.ศ.2560 จะมีมูลค่าสูงถึงหนึ่งล้านล้านบาท โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ทำการส่งออกน้ำมันกฤษณาปริมาณมากในแต่ละปี และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
มร.แอนดรูว สตีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เดอะทรีด้อมกรุ๊ป เปิดเผยว่า “หลังจากทรีด้อมเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้ส่งออกน้ำมันกฤษณาอันดับหนึ่งของไทยแล้ว เป้าหมายต่อไปคือการเดินหน้าอย่างเต็มกำลังเพื่อการก้าวขึ้นเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคตอันใกล้ ตอนนี้บริษัทกำลังเข้าสู่ระยะการเติบโต (Growth Stage) ซึ่งอยู่ในแผนงานระยะเวลา 3 ปี และเป็นไปตามโครงสร้างธุรกิจ (Business Model) ที่ได้ถูกวางไว้อย่างมีแบบแผนตามโครงสร้างทางการเงิน (financial models) ที่ยึดหลัก 3 ประการ ได้แก่ โลก, ประชากร และผลกำไร เพื่อการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จควบคู่ไปกับการทำการเกษตรอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม”
“ระยะการเติบโตในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้ บริษัทมีจุดมุ่งหมายในการก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจส่งออกน้ำมันกฤษณาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งทรีด้อมจะลงทุนในการเพิ่มพื้นที่แปลงปลูก โดยล่าสุดได้ลงทุนซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาแปลงปลูกบ้านเจียร จ.ตราด จำนวน 135 ไร่ พร้อมโครงการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันกฤษณาจากเดิม 264 กิโลกรัมต่อปี เป็น 960 กิโลกรัมต่อปี คิดเป็น 265% ด้วยการเพิ่มจำนวนหม้อต้มกลั่นในโรงงานของเราที่จังหวัดตราดจาก 119 หม้อ เป็น 360 หม้อในปีพ.ศ. 2562 เพื่อบุกตลาดทั้งค้าปลีกและค้าส่ง โดยในส่วนของการค้าส่งซึ่งวางแผนให้เป็น 60% ของยอดขายนั้นจะเน้นการบุกตลาดตลาดตะวันออกกลาง โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย และตลาดผู้ผลิตน้ำหอม และผลิตภัณฑ์เผื่อความงามอื่นๆ รายใหญ่ทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดยุโรป เนื่องจากผู้ผลิตรายใหญ่ จะมีความต้องการน้ำมันกฤษณาที่สามารถการันตีคุณภาพที่ดีและปริมาณการผลิตที่คงที่ รวมถึงปริมาณที่มากพอที่จะสามารถป้อนสู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นจุดแข็งของทรีด้อมเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายย่อยในตลาดโลก
ในส่วนการค้าปลีก นอกจากทางบริษัทจะมีการขายน้ำมันกฤษณาผ่านช่องทางออนไลน์ ทรีด้อมยังมีแบรนด์ดาร์ อัล อูด (Dar Al Oud) ที่ส่งออกน้ำมันกฤษณาระดับลักชัวรี่เพื่อวางขายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำในตะวันออกกลาง เจาะกลุ่มตลาดบน เนื่องจากน้ำมันกฤษณาถือเป็นสินค้าราคาแพงที่บ่งบอกความมีฐานะของคนในภูมิภาคนั้น รวมทั้งใช้เพื่อประกอบพิธีกรรมในศาสนา โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจากับผู้แทนจำหน่ายทั้งในตะวันออกกลาง ยุโรปและอเมริกา โดยในปีนี้ทรีด้อมตั้งเป้าการใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท มีผลกำไรสุทธิสะสมกว่า 200 ล้านบาท และสินทรัพย์กว่า 185 ล้านบาท” มร.สตีลกล่าวเพิ่มเติม
“นอกจากจะพัฒนาทางด้านธุรกิจแล้ว ทรีด้อมยังพัฒนาทางด้านสังคมไปพร้อมๆ กัน เพื่อการก้าวหน้าอย่างยั่งยืน โดยทรีด้อมให้การสนับสนุนมูลนิธิปลูกต้นไม้วันนี้ (Plant A Tree Today: PATT Foundation) ในด้านการเอื้อเฟื้อสถานที่สำหรับใช้เป็นสำนักงานของมูลนิธิ รวมถึงด้านสาธารณูปโภคอื่นๆ และมีการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกับมูลนิธิในทุกปี เช่น กิจกรรมปลูกป่า การมอบทุนการศึกษาให้แก่เยาวชน เพื่อสนับสนุนการสร้างสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์ให้แก่ประเทศชาติและโลกของเรา” มร.สตีลกล่าวสรุป