เปิดตัวโรงงานน้องใหม่'บราเทอร์'ชูต้นแบบผู้ผลิตสินค้าสีขาวป้อนขายตรง                        

      เปิดตัวน้องใหม่ 'บราเทอร์' ทุ่มงบ 50 ล้าน ผุดโรงงานผลิตสินค้าป้อนธุรกิจขายตรง ย้ำชัดเจน ชูต้นแบบโรงงานสีขาว เมินซัพพอร์ตธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ประกาศเสียงดังลั่นอีก 5 ปี สู่อุตสาหกรรมเครื่องสำอางอาหารเสริมเข้าตลาดหุ้นฯ พร้อมวางเป้าเล็กๆ สิ้นปีนี้ขอแตะยอดขาย 50 ล้าน

     นายภัครวรรธน์ เหมาะเกียรติกร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บราเทอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด เปิดเผยถึงการเปิดโรงงาน ว่า บริษัทจดทะเบียนช่วงต้นปีคือหลังจากที่อยู่ในแวดวงการขายตรงมาสิบกว่าปี และได้เรียนรู้เรื่องระบบจัดการทั้งหมดในโรงงานนำเข้าส่งออก หลายๆ คนก็เลยบอกว่าในเมื่อเราคุมราคาในด้านของสารอยู่แล้ว เพราะว่าเรานำเข้าสารเอง ทุกอย่างคือในราคาที่เท่ากับคุณภาพเราดีกว่า แต่ถ้าเป็นคุณภาพที่เท่ากันราคาเราดีกว่า คนก็เลยถามว่าแล้วทำไมไม่เปิดโรงงาน เพราะว่าเรานำเข้าสารอยู่แล้ว เราก็เลยมาวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ต่างๆ ดังนั้นตนเลยตัดสินใจเปิดโรงงานเพราะอย่างน้อยที่สุดในเรื่องคุณภาพเราก็มีความมั่นใจให้กับลูกค้า ถ้าเป็นคุณภาพแบบนี้ ในการเปิดโรงงาน บริษัทฯ ได้ใช้งบการลงทุนของโรงงานแห่งนี้ทั้งสิ้น 50 ล้านบาท ในพื้นที่ใช้สอยประมาณ 1 พันตารางวา

    "โดยจุดขายของบริษัทฯ นั้นก็คือโรงงานของเราต้องบอกว่าสิ่งแรกในประเทศไทยที่เขาไม่มีคือเอกสิทธิ์ของลูกค้า ยกตัวอย่างสินค้าเป็นเค้ก นายเอมาบอกว่าอยากผลิตเค้กตัวนี้ โอเค.ผมผลิตเค้กตัวนี้ให้แล้วเค้กคุณเอขายดี คุณบีเดินมาบอกว่าอยากให้ผลิตเค้กให้ แล้วก็มีคุณซีมาบอกว่าอยากให้ผลิตเหมือนกัน มันทำให้ส่วนแบ่งการตลาดถูกแบ่งออกไปเรื่อยๆ ซึ่งเรามองเห็นจุดอ่อนข้อนี้ในกลุ่มของโรงงานมาโดยตลอด แล้วเราก็เข้าใจในจุดของลูกค้าด้วยว่าเขาต้องการอะไร เพราะฉะนั้นพอมาวันนี้เราเลยเป็นโรงงานแรกที่กล้าเสนอว่าเราเสนอให้เราออกสิทธิบัตรหรือออกเอกสิทธิ์ให้กับคู่ค้าของเรา หมายความว่าเมื่อคุณผลิตสินค้ากับเรา เรามอบสูตรผลิตภัณฑ์นี้ให้กับคุณเป็นเอ็กซ์คลูซีฟ หมายความว่ามีแต่คุณแต่เพียงเจ้าเดียวที่มีสูตรนี้ ถ้าคนอื่นเดินเข้ามาจะเอาสินค้าสูตรนี้ผมให้ไม่ได้แล้ว เพราะว่ามีคนเป็นเจ้าของสูตรแล้ว เป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งลอกเลียนแบบได้ยาก"

     ดังนั้น สิ่งที่ลูกค้าต้องการแล้วเราก็มอบให้คือทำเสมือนหนึ่งโรงงานเป็นโรงงานส่วนตัวของคู่ค้าคนนั้นเลย ผลิตให้เจ้านั้นแต่เพียงผู้เดียว โดยแต่ละคนจะมีสิทธิบัตรพิเศษจากเราออกให้ ซึ่งเรามีสินค้าในกลุ่มถ้าคุณต้องการเราก็ให้เขาในวอลุ่มที่รับกันได้ และจะไม่ขายซ้ำ หรือขายหลังโรงงาน เพราะว่าบางคนก็เจอว่าบางครั้งไม่ขายข้างนอกแต่ก็ขายหลังโรงงาน เพราะฉะนั้นวัฒนธรรมองค์กรจุดที่แข็งของเราก็คือว่าเราระวังในจุดนี้มากของของคุณจะต้องออกจากคุณเท่านั้น ถ้ามีลูกค้าวอล์คอินมาหาเราจะต้องติดต่อทางคุณเท่านั้นติดต่อทางเราไม่ได้ นี่คือจุดเด่นของเราอีกจุดหนึ่ง จุดที่สองก็คือว่าเราจะเป็นที่แห่งแรกเหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมาหลายคนกลัวมากถ้าลูกค้าทำแบรนด์อยู่ดีๆ แล้วลูกค้าบอกว่าอยากตั้งโรงงานทุกคนจะกลัวมากเพราะสูญเสียลูกค้า อย่างแรกสุดในอินเทอมของเรา เราชื่อบราเทอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ คือบราเทอร์ กรุ๊ฟ

    นายภัครวรรธน์ กล่าวต่อว่า ในการเปิดตัวโรงงานของบริษัทฯ ครั้งนี้ โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาเราไม่ได้พัฒนาแต่ตัวลูกค้าหรือผลิตภัณฑ์ของเราเพียงอย่างเดียว เพราะว่าในปี 2020 เราจะเป็นบริษัทแรกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารเสริมเครื่องสำอางที่จะนำพาเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2020 โดยในปีหน้าคาดว่าจะเตรียมจดเป็นบริษัทมหาชนแล้วก็จะนำพาเข้าสู่ตลาดหุ้น แล้วเป้าหมายที่เราวางไว้คือทันทีที่เข้าสู่ตลาดหุ้นบริษัทของเราจะต้องเป็นที่ถูกจับตามองมากที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชีย

     อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากธุรกิจขายตรงแล้วเราก็มองธุรกิจรายย่อยอีกหลายๆ อย่าง เพราะว่าในสภาวะของเศรษฐกิจปีนี้ หลายคนบอกว่าเป็นปีเผาหลอก ปีหน้าจะเป็นปีเผาจริง แต่ไม่น่าเชื่อว่าทุกโพลที่วิเคราะห์เศรษฐกิจโลก ธุรกิจท็อปไฟว์ที่ไม่มีวันตก หนึ่งในห้าที่ติดอันดับเสมอคือธุรกิจความสวยความงามและธุรกิจสุขภาพ

      ดังนั้น ธุรกิจนี้คนที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจอื่นใหญ่ๆ ก็กำลังหันมาในธุรกิจนี้มากขึ้น ซึ่งตอนนี้มีธุรกิจที่เป็นยักษ์ใหญ่ท็อปไฟว์ในประเทศไทยแต่บอกชื่อยังไม่ได้ กำลังจะเปิดบริษัทขายตรง โดยขณะนี้กำลังเซ็นสัญญากับเราเหมือนกัน หรือนักธุรกิจรายใหญ่ๆ เหมือนกันที่ไม่อยู่ในฟิลนี้เลย ต้องการเข้ามาสร้างแบรนด์ของเขาเอง เพื่อเสริมภาพลักษณ์ความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจแขนงของเขาเหมือนกับลูกค้าเราไม่ใช่เฉพาะกลุ่มขายตรง แต่เป็นกลุ่มนักธุรกิจทั่วๆ ไป เป็นกลุ่มอื่น กลุ่มใหญ่ๆ ที่เขาต้องการขยายเครือข่ายของเขา เพราะว่ากลุ่มประเทศอาเซียนที่จะเปิดคือ AEC ปลายปีนี้ เขามองเห็นว่าธุรกิจโรงแรมที่เขาเข้าไปแล้ว ธุรกิจอื่นๆ ที่เขาเข้าไปแล้ว ยังมีธุรกิจหลักอาหารเสริมหรือเครื่องสำอางที่สามารถเจาะตลาดกลุ่ม

    โดยเฉพาะลาว กัมพูชา เวียดนาม เป็นกลุ่มกำลังซื้อใหญ่ซึ่งเรามองไม่เห็น แต่จริงๆ กำลังซื้อเขามหาศาลมาก ใครเจาะตลาดได้ก่อน สามารถจับจองพื้นที่ได้ก่อนรวยก่อน เพราะฉะนั้นธุรกิจต่างๆ พวกนี้ก็เริ่มหันเหเข้ามาหาธุรกิจสุขภาพหรือธุรกิจด้านความสวยความงามกันเยอะขึ้น รวมถึงธุรกิจทุกวันนี้หลายๆ คนที่เป็นวัยรุ่นจะไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ต้องเดินตามกรอบ ดังนั้นคนสมัยนี้อายุ 25-26 ปีมีธุรกิจเป็นของตัวเองแล้ว มีแบรนด์เป็นของตัวเองแล้ว คือเราไม่ได้มองและเลือกเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ เราสามารถเลือกลูกค้ารายเล็กๆ แล้วเราสนับสนุนเขา เพราะวันหนึ่งเราไม่รู้ว่าคนกลุ่มพวกนี้อาจจะเติบโตได้ในอนาคตข้างหน้า

     "ต้องยอมรับว่า ในอนาคตการขยายโรงงานของบริษัทฯ ของเรา ต้องมีการขยายเพิ่มอย่างแน่นอน อย่างที่บอกว่าถ้าเราเข้าตลาดหุ้น เรามองไว้ว่าอย่างน้อยที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียนทั้งหมดจะต้องมีบราเทอร์ไปตั้งอยู่ที่นั่น แล้วขยายอยู่ที่นั่น เราถึงมุ่งหวังว่าจะเข้าตลาดหุ้นเพื่อขยายเงินลงทุน และเพื่อกระจายสู่ธุรกิจระดับอาเซียน

    นายภัครวรรธน์ กล่าวถึงภาพรวมของตลาดธุรกิจขายตรงว่า ธุรกิจขายตรงเป็นธุรกิจที่ดีมากๆ ธุรกิจหนึ่ง เพราะว่าเป็นธุรกิจที่มอบโอกาสให้คนพลิกชีวิตได้ ในขณะที่ไม่จำเป็นต้องมีทุนมหาศาล แน่นอนตนไม่พูดถึงกลุ่มทุน เพราะคนที่มีทุนได้เปรียบคนอื่นมากอยู่แล้ว แต่ในปัจจุบันธุรกิจขายตรงเกิดทุกวัน แล้วก็ดับทุกวันด้วย เพราะฉะนั้นธุรกิจขายตรงที่ดีๆ แต่ละแห่งตนมองว่าไม่มีสินค้าตัวเด่นที่เป็นตัวธงของเขาเลย

     ทั้งนี้ คนที่ทำธุรกิจขายตรงที่ถูกต้องหรือบริษัทที่ทำธุรกิจที่ถูกต้อง แต่ต้องประสบวิกฤติกับกลุ่มแชร์ลูกโซ่ขึ้นมามันก็ต้องมีผลกระทบบ้าง อย่างที่บอกว่าผลกระทบพวกนี้สุดท้ายมันก็ตายไปเอง ถ้าเรามีสินค้าที่ดีพอและมีระบบบริษัทที่ถูกต้องมั่นคงมากพอก็จะสามารถทำธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ในส่วนของโรงงานนั้นระบบป้องกันการเอาสินค้าไปทำในรูปแบบมันนี่เกมส์ก็ไม่ใช่ว่าเราไม่รู้ เราก็รู้ว่าเขาจะซื้อไปทำอะไรเพียงแต่ว่าจะหลับตาข้างหนึ่งหรือไม่แค่นั่นเอง พูดตรงๆ บริษัทฯ ตนก็มีมันนี่เกมส์เข้ามาติดต่อเหมือนกัน แต่โดยโรงงานของเราต้องการเป็นโรงงานสีขาวแล้วบริษัทฯ ไม่ได้ต้องการที่จะอยู่แค่วันสองวัน แต่บราเทอร์ต้องการจะอยู่กับคู่ค้าตลอดไปเพื่อซับพอร์ตเขา เพราะเรื่องเงินทุกคนก็อยากได้ แต่ถ้าสำเร็จแบบย่อยยับผมไม่เอา ผมต้องการสำเร็จแบบยั่งยืนมากกว่า เพราะมันไม่แฟร์กับคู่ค้าอื่นของบราเทอร์เหมือนกัน ยิ่งกลัวจะมีภาพว่าบราเทอร์ร่วมมือกับแชร์ลูกโซ่ บราเทอร์ร่วมมือกับมันนี่เกมส์ เพราะฉะนั้นตรงนี้เราเลยไม่มอง ต่อให้ขายตรงเกิดขึ้นอีก เค้กนี้ก็แบ่งไม่หมด เพราะฉะนั้นเราทำอย่างถูกต้องและอยู่แบบยั่งยืนดีกว่า เราต้องการสำเร็จในระยะยาว

    นายภัครวรรธน์ กล่าวต่อว่า สำหรับเป้ายอดขายใน 6 เดือนที่เหลือในปีนี้นั้น บริษัทฯ วางไว้แบบที่เป็นไปได้คือ 50 ล้านบาท แต่ถามว่าเป้าหมายจริงๆ เราต้องการแตะที่ 100 ล้านบาท เมื่อจบสิ้นไตรมาสที่ 4 ของเดือนธันวาคม ขณะเดียวกันภายในอีก 3 ปีต่อจากนี้ไปเราตั้งเป้าว่าเมื่อเราคอนแทคต์กับบริษัทขายตรงต่างๆ ได้แล้ว ตนคิดว่าในปี 2559 ยอดรวมในบริษัทของเราน่าจะตกอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 1,000 ล้านบาทภายใน 5 ปีขึ้นไปที่เราวางแผนไว้ว่าจะรวมหุ้นที่เรามองไว้เราน่าจะแตะ 5 พันล้านบาทได้

บ้านเมือง : สุภพงษ์ เทียนสี/รายงาน