- Details
- Category: ขายตรง
- Published: Saturday, 27 June 2015 10:21
- Hits: 2628
AmwayNEXT มุ่งเน้นด้านผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค สร้างประสบการณ์ตรงที่ดีและประทับใจกับแบรนด์
'แอมเวย์' โฟกัสสินค้าเข้าถึงลูกค้า
บ้านเมือง : มร.ไมเคิล เคเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการแอมเวย์ กล่าวว่า"แอมเวย์ในฐานะธุรกิจเครือข่ายอันดับหนึ่งของโลก มีสาขามากกว่า 100 ประเทศและดินแดนทั่วโลก พร้อมยอดธุรกิจเกือบ 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ ได้มองเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจแอมเวย์ในทศวรรษหน้า ดังนั้น เราจึงได้พัฒนากลยุทธ์ระยะยาวที่เรียกว่า 'แอมเวย์เน็กซ์' (AmwayNEXT) มุ่งเน้นด้านผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค (Solution offering) และสร้างประสบการณ์ตรงที่ดีและประทับใจกับแบรนด์ของเรา"
ทั้งนี้ 'แอมเวย์'ได้พัฒนากลยุทธ์ระยะยาวที่เรียกว่า 'แอมเวย์เน็กซ์'มุ่งเน้นด้านผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค และสร้างประสบการณ์ตรงที่ดีระหว่างแบรนด์กับผู้ใช้โดยตรง ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1.การพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์และตอบโจทย์ผู้บริโภค ล่าสุดใช้งบกว่า 332 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับสร้างโรงงานพร้อมวิจัยและพัฒนาจำนวน 5 โรงใน 4 ประเทศ คือ 1.เวียดนาม 2.อินเดีย 3.อเมริกา และ 4.จีน ซึ่งทางแอมเวย์ได้ให้ความสำคัญต่อสมุนไพรเอเชีย จึงมุ่งวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่จากสมุนไพรเหล่านี้ที่ประเทศจีน 2.การนำดิจิตอลช่วยขับเคลื่อนธุรกิจและการมีส่วนร่วมเพื่อช่วยนักธุรกิจแอมเวย์ได้ทราบข้อมูลที่จำเป็นแบบทันที รวมถึงเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลในการจัดการปัญหาต่างๆ 3.ความรวดเร็วในการสนับสนุนความสำเร็จของนักธุรกิจแอมเวย์ พัฒนาเครื่องมือดิจิตอล ระบบซัพพลายเชน และวิจัยพัฒนาให้ได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตอบสนองนักธุรกิจแอมเวย์และปรับเปลี่ยนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก
กลยุทธ์แอมเวย์เน็กซ์ สำคัญที่สุดเพื่อมุ่งเน้นให้นักธุรกิจประสบความสำเร็จ พร้อมสร้างนักธุรกิจระดับแพลทินัมเพิ่มขึ้น 2 เท่า หรือในอีก 10 ปีข้างหน้ารายได้แอมเวย์ทั่วโลกจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกับจำนวนนักธุรกิจที่เติบโตขึ้น ขณะที่รายได้ของแอมเวย์ทั่วโลกในปีที่ผ่านมามีมูลค่า 10.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ สิ้นปีนี้น่าจะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันไทยเป็นประเทศที่สำคัญของแอมเวย์ หรือมียอดขายติดท็อป 5 รองจาก จีน เกาหลีใต้ อเมริกา และญี่ปุ่น
ด้านนายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า แอมเวย์ประเทศไทยมียอดขายเป็นอันดับที่ 5 ของแอมเวย์ทั่วโลก และเป็นธุรกิจเครือข่ายอันดับหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งปัจจัยหลักมาจากความทุ่มเทและความแข็งแกร่งของ นักธุรกิจแอมเวย์ทั่วประเทศ ผลิตภัณฑ์คุณภาพ และความน่าเชื่อถือขององค์กร ดังนั้น เพื่อก้าวไปสู่ทศวรรษหน้า บริษัทจะมุ่งเน้นการนำดิจิตอลมาใช้เพื่อสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น และเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักธุรกิจแอมเวย์ พร้อมเน้นความรวดเร็วในทุกๆ การดำเนินงานของบริษัท
นอกจากนี้ 'แอมเวย' ได้เตรียมแผนงานรองรับกลยุทธ์ 'แอมเวย์เน็กซ์' โดยวางแผนระยะสั้นและระยะยาวเพื่อมุ่งเป้าหมาย กลุ่มผู้มีความสนใจเฉพาะด้าน ทั้งด้านสุขภาพ ความงาม และอาชีพนักธุรกิจแอมเวย์ ซึ่งจะมีกิจกรรมพิเศษให้กลุ่มคนเหล่านี้ได้มีประสบการณ์ตรงกับแบรนด์ พร้อมๆ กับได้แนะนำผลิตภัณฑ์ของแอมเวย์ รวมทั้งเป็นเครื่องมือสนับสนุนการดำเนินงานของนักธุรกิจแอมเวย์ ภายใต้ชื่อ บิวตี้ฟอร์มี (Beauty 4 ME) เพื่อผู้ต้องการให้ตนเองดูดี กู๊ดเดย์ ฟอร์ยู (Good Day 4 U) สำหรับผู้ใส่ใจในสุขภาพ และวีอาร์แอมเวย์ (We are Amway) สำหรับผู้มองหาโอกาสที่ดียิ่งขึ้นในชีวิตผ่านอาชีพนักธุรกิจแอมเวย์ โดยกิจกรรมทั้งหมดจะเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป
"แอมเวย์ในไทยปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจและการเมืองที่ยังนิ่งทำให้ผู้บริโภคชะลอการใช้เงิน จากเดิมที่บริษัทจะเน้นทำการตลาดในกลุ่มสินค้าเฮลท์ &บิวตี้ ส่งผลให้ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาได้ปรับแผนระยะสั้น ชูสินค้ากลุ่มเพอร์ซันนัลแคร์ สินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันมากระตุ้น การขาย รวมถึงมีเรื่องของโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเข้ามาด้วย พบว่าสามารถประคองรายได้ได้ดีอยู่ เช่น ยาสีฟัน มียอดขายเติบโตขึ้น 10% รวมถึงมีสมาชิกใหม่เข้ามาอีก 30% ในครึ่งปีหลังสถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้น และรายได้แอมเวย์จะมีโอกาสเติบโตได้บ้าง จากปีก่อนที่ปิดรายได้ไป 16,250 ล้านบาท" กิจธวัช กล่าวสรุป