- Details
- Category: ขายตรง
- Published: Monday, 11 May 2015 10:58
- Hits: 2482
'คิงส์เฮิร์บ' ปักธงมุกดาหาร ยึดสมรภูมิเล็งเป้าประเทศเพื่อนบ้าน
'คิงส์เฮิร์บ' เดินหน้าลุยขยายฐาน ยึดสมรภูมิมุกดาหารเป็นประตูสู่อาเซียน กางแผนธุรกิจระยะสั้น ระยะยาว พุ่งเป้ากลุ่มลูกค้าเพื่อนบ้าน ประกาศลั่นสิ้นปีนี้ กวาดยอดขายได้แน่นอนพันล้าน
ดร.ปพน ลิ้มธำรงกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คิงส์เฮิร์บ เวิลด์ 1999 จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ ตลอดระยะเวลา 11 ปี ได้มีการสร้างคนให้มีอาชีพ สร้างเนื้อสร้างตัวจากการทำธุรกิจคิงเฮิร์บ
ดังนั้น ต้องบอกว่า ในจังหวัดมุกดาหารจะเป็นประตูสู่อาเซียนต่อไป ก่อนที่เราจะเข้าไปซื้ออาคารตรงนั้น ก็คือข้ามแม่น้ำโขงไปเป็นประเทศลาว แขวงสะหวันนะเขตซึ่งเป็นจังหวัดรองจากเวียงจันทน์ โดยเฉพาะคนจะเข้าไปเวียดนามและจีนก็ต้องเข้าที่สะหวันนะเขตทุกอย่างจะอยู่ที่ตรงนี้
"แน่นอนในสะหวันนะเขตแขวงเดียวมีประชากร 6 ล้านคน แต่ประชากรลาวทั้งหมดมี 8 ล้านคน ฉะนั้นตรงนี้มีความเจริญรุ่งเรืองมาก และรถไฟความเร็วสูงจากจีนจะมาลงเวียดนาม และลาวที่สะหวันนะเขตและข้ามมายังฝั่งไทยที่มุกดาหาร ถ้าอาเซียนเปิดในสิ้นปีนี้ ผมมองว่าอีกประมาณ 1,000 ล้านคน ที่คิงส์เฮิร์บอาจทำให้รู้จักนี้มีความเป็นไปได้"
ดร.ปพน กล่าวต่อว่า วันนี้จังหวัดมุกดาหารจึงเป็นตลาดที่สดใส ปัจจุบันนี้บริษัทฯ มีลูกค้าลาวอยู่แล้ว เพราะเคยมีสมาชิกมาทำตลาดและก็เคยมีศูนย์สาขาของสมาชิก ซึ่งมียอดสั่งซื้อคอลดาต้าจากโรงงานจังหวัดขอนแก่น เฉลี่ยแล้ววันละ 20-30 ลัง หรือประมาณ 200-300 ขวดต่อวัน พอดูรหัสที่เปิดมาส่วนใหญ่เป็นคนลาวทั้งนั้น แสดงว่าตลาดลาวค่อนข้างเติบโต ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้มาเปิดที่นี่เพื่อรองรับการเติบโต
"แน่นอนวันนี้บริษัทมาเปิดเองที่มุกดาหารเป็นสาขาที่ 3 เพื่อให้บริการเต็มรูปแบบ ทุกกลุ่มทุกสายงานสามารถมาใช้บริการได้ ถึงแม้ว่าจะมีค่ายอื่นบ้างที่มุกดาหาร แต่ว่ายังไม่โดดเด่น โดยที่ผ่านมามีสาขาที่ 1 อยู่ที่วัชรพล กรุงเทพฯ สาที่ 2 ขอนแก่น"
ทั้งนี้ ศูนย์ที่หวัดมุกดาหาร โดยได้ซื้อที่ไว้ 6 ไร่ ที่ได้ซื้อมาในราคา 20 กว่าล้าน แต่บังเอิญว่ามีคนเคยเปิดมา 3 ห้อง ผมเลยซื้อเลยราคา 8 ล้านบาท ตกแต่งหมดไปประมาณ 3 ล้านบาท มูลค่าทั้งหมดประมาณ 12 ล้าน ถือว่าไม่แพงถ้าเทียบกับตึกใหม่ 1 ห้อง ราคา 6 ล้าน แล้วในขณะเดียวกัน วันนี้ราคาที่ดินในมุกดาหารเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ เชื่อว่ามุกดาหารจะเป็นจังหวัดหนึ่งที่ทำให้คิงส์เฮิร์บเติบโต
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ทำคู่มือ 4 ภาษา คือ 1.ภาษาไทย 2.ภาษาอังกฤษ 3.ภาษาเวียดนาม และภาษากัมพูชา เพื่อรองรับการเปิดอาเซียน ซึ่งได้รับผลการตอบรับจากสมาชิกจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างดีมาก
ดร.ปพน กล่าวต่อว่า สำหรับในส่วนของศูนย์ฝึกอบรมที่สีคิ้ว อาคาร 20X30 เมตร ในพื้นที่ 60 ไร่ โดยบริษัทฯ ได้ใช้งบซื้อไปประมาณ 12 ล้านบาท ตอนนี้พักได้ 150 คน แต่จะสร้างเพิ่ม เดิมต้องการสร้างเป็นที่พักส่วนตัว แต่ในขณะนั้น บริษัทฯ ไม่มีที่ฝึกอบรม จึงได้สร้างตรงนี้มาเป็นที่รองรับ โดยเปิดให้พักสำหรับสมาชิกคิงส์เฮิร์บเท่านั้น
"วันนี้ คิงส์เฮิร์บมียอดสมาชิกมากกว่า 1 รหัส และที่เป็นผู้บริโภค หลายแสนคน และบริษัทไม่มีนโยบายเปิดศูนย์เองทั้งหมด แต่มีนโยบายให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการบริหารงาน นั่นคือการเปิดศูนย์ธุรกิจเป็นของสมาชิก ในตอนนี้มี 600 กว่าศูนย์ อนาคตอาจจะมีทุกหมู่บ้าน เพราะเกษตรกรเข้ามาเป็นนักธุรกิจมากขึ้น ในส่วนของการเปิดศูนย์ลงทุนประมาณ 70,000 บาท เท่านั้นเอง"
ส่วนโครงการ CSR บริษัทฯ จะมีการทำอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มต้นจากมุกดาหาร จะมีการเปิดโครงการดูแลผู้ป่วยด้วยสมุนไพรไทย ไม่ว่าจะเป็นที่ลาว เวียดนาม กัมพูชา หรือจีนที่จะเข้ามาให้ดูแลประมาณ 100 คน ส่วนโครงการที่วัดพระบาทน้ำพุในการดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ ก็ยังมีต่อเนื่อง และวัชรพล ได้ปิดโครงการไปแล้ว แต่จะทำต่อให้แต่ว่าเลือกเฉพาะกรณีศึกษา โครงการขอนแก่นเลือกเป็นกรณีศึกษา 150 คน และผู้ป่วยที่จะไปดูต่อไปเป็นของโรงเรียนประชานุกูล ในพระบรมราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระเทพฯ ซึ่งเป็นผู้ป่วยเด็กออทิสติก ตอนนี้ได้เข้าไปแล้ว ก็มีกรณีศึกษา 10 คน และจะเพิ่มจำนวนขึ้น อยู่ที่บางบัวทอง และก็จะมีอีกหลายที่ที่จะทำต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในเรื่องของ CSR ของผู้คนแล้ว ถึงเวลาโครงการ CSR สำหรับเกษตรกร คือข้าวปลอดมอด ซึ่งปลอดสารพิษด้วย แต่บางมุมมองบอกว่ามันต้องใช้ยาฆ่าแมลง แต่ใช้แบบไล่แม่มอด คือใช้ซุปกรีน ดูตั้งแต่แชร์เมล็ดข้าวไปจนถึงเก็บเกี่ยว
อย่างไรก็ตาม เพราะปีที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถได้ปิดยอดไปที่ 700 ล้าน และปีนี้คาดว่า 1,000 ล้าน แต่พอมันเกิดปัญหาบ้านเมือง ของมองที่ยอดเดิม ส่วนสมาชิกของ "คิงส์เฮิร์บ" มีทั้งหมด 1 ล้านรหัส ในระยะเวลา 11 ปี ฉะนั้นต้องบอกว่าเมืองไทยยังมีโอกาสมาก ยิ่งได้มาเปิดศูนย์ที่มุกดาหาร เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน คาดว่า บริษัทฯ จะสามารถเติบโตขึ้นจากเดิมได้แน่นอน
บ้านเมือง : สุภพงษ์ เทียนสี/รายงาน
