WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

'อัยเซ็น' ขอแจ้งเกิดขายตรง ชูสินค้ายุ่นหวังโกย 100 ล้าน

    บ้านเมือง : นายเชนท์ สุวัณณพัน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อัยเซ็น กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อดำเนินธุรกิจเครือข่ายขายตรงเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับได้เซ็นสัญญาความร่วมมือกับเจ้าของผลิตภัณฑ์จากประเทศญี่ปุ่น "โคโยชะ" เป็นบริษัทชั้นแนวหน้าของญี่ปุ่นที่เปิดมาแล้วกว่า 42 ปี และมียอดขายถึง 9,000 ล้านบาทในปี 2009 และอยู่ในอันดับบริษัทที่มียอดขายดีของญี่ปุ่นในอันดับ 7 ของประเทศ

    ล่าสุดบริษัทฯ มีโอกาสได้รับลิขสิทธิ์มาเป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย และขยายใน 10 ประเทศอาเซียนอีกด้วย โดยบริษัทได้เริ่มทำงานกันมาอย่างเงียบๆ ถึงตอนนี้ประมาณ 1 ปี ที่ได้เตรียมงานกันมาโดยมีความเชื่อว่าตลาดธุรกิจเครือข่ายมีการเจริญเติบโตค่อนข้างสูง ดูจากยอดของปี 2012 และ 2013 ถึงแม้ว่าปี 2014 จะลดลงไปบ้าง ส่วนในปีนี้ธุรกิจมีแนวโน้มที่น่าจะมีการเจริญเติบโตที่ดี โดยเฉพาะสินค้าที่มีเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับหมวดที่มีความเติบโตอย่างมาก จำพวกสกินแคร์และอาหารเสริม เพราะคนหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้นนั่นเอง

     สำหรับ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่จะทำการเปิดตัวมีทั้งหมด 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้วยกัน ได้แก่ 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์ 3.และกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริม โดยในตอนนี้ผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด ได้ขออนุญาตจากสำนักงานอาหารและยาเป็นที่เรียบแล้ว ซึ่งสินค้าทุกตัวที่นำเข้ามานั้นเป็นสินค้าที่มีคุณภาพที่ดี เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่น และมีวัตถุดิบในการผลิตที่คัดสรรมาจากธรรมชาติ ช่วยรักษาสมดุลของร่างกาย เพื่อการมีสุขภาพที่ดีและยืนยาว

     ทั้งนี้ บริษัทได้เนรมิตที่ดินในเขตราชเทวีกว่า 3 ไร่กลางใจเมือง ในการสร้างอาณาจักรอัยเซ็นกรุ๊ป เพื่อตอบสนองและอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกที่จะเข้าร่วมธุรกิจ โดยประกอบไปด้วยห้องประชุมทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ที่มีความจุกว่า 300 คน ห้องทดลองสินค้า พร้อมทั้งมีการวางแผนในการทำงานอย่างเป็นระบบ และตั้งเป้าหมายการทำธุรกิจในปีนี้ที่ 100 ล้านบาท และยังมีการวางกลยุทธ์สู่ความมั่นคงของบริษัทโดยจะใช้ระยะเวลา 5 ปี เพื่อก้าวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ และจะมีกำหนดการเปิดบริษัทอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้

   "ต้องบอกว่า การที่เปิดเป็นบริษัทในรูปแบบธุรกิจขายตรง เพราะผมมองว่าปัจจุบัน ธุรกิจขายตรงมีการเติบโตที่ดีมากและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันอาจมีมูลค่าการตลาดถึงแสนล้านบาท โดยเฉพาะในประเทศมาเลเซียที่เป็นอันดับ 1 ของตลาดขายตรงในภูมิภาคอาเซียนในการดำเนินธุรกิจ และอีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญคือ บริษัท โคโยชะ ที่เป็นผู้ผลิตสินค้าได้ให้ไลเซนส์ บริษัทมาดำเนินธุรกิจแบบขายตรงใน 10 ประเทศในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่เพียงผู้เดียว และยึดหลักความสำคัญของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เริ่มต้นจากความประทับใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์" นายเชนท์ กล่าว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!