ไทยเฮลท์ฯ พลิกตำราสู้ขายตรงเดินหน้าเจาะสังคมโซเชียลปั๊มยอด

     บ้านเมือง : ‘ไทยเฮลท์ กรุ๊ป’ สู้ธุรกิจขายตรงหลังปีม้ายอดขายวูบ ปรับกลยุทธ์ชู new way พร้อมประกาศลุยธุรกิจใหม่จับมือ ‘คลื่น Radio OK’ จัดโครงการ งวิทยุธุรกิจทางเลือกใหม่’พัฒนาแอพฯ ฟังวิทยุบนสมาร์ทโฟนแจกฟรีสถานีวิทยุชุมชน 1 แห่งทั่วประเทศ หวังขยายฐานการรับรู้ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 5-6 รายการ รองรับตลาดเวียดนามกัมพูชา หวังสิ้นปีทำยอดขาย 500 ล้านบาท

     นายพันธ์ยศ อัครอมรพงษ์ ประธานกรรมการ 'ไทยเฮลท์ กรุ๊ป' ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมผ่านสื่อหลายช่องทาง เปิดเผยว่า สำหรับในปี 2557 บริษัทฯ มีผลประกอบการต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 50% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมือง โดยเฉพาะคำสั่งปิดสถานีวิทยุชุมชนและสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ทำให้บริษัทฯ มียอดขายเพียง 250 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 500 ล้านบาท

   ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีการปรับแผนกลยุทธ์ต่างๆ รวมทั้งการลงทุนปรับปรุงอาคารสำนักงานใหญ่ ใน ซ.เพชรเกษม 69 ด้วยเงินลงทุนมูลค่า 160 ล้านบาท รวมที่ดิน อาคาร และตกแต่งภายในด้วย นอกจากนี้ยังได้เปิดร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 'ไทยเฮลท์'ใน ซ.เพชรเกษม 81 ตลอดจนมีการจัดระบบการนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่านสื่อให้มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นด้วยการขยายช่องทางการสื่อสารใหม่ๆ เพิ่มเติม ได้แก่ โซเชียลมีเดีย ทั้งเว็บไซต์ แฟนเพจเฟซบุ๊ค และการเพิ่มช่องยูทูบแชนแนล ตลอดจนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นฟังวิทยุบนโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟน โดยใช้งบลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท

    โดยก่อนหน้านั้น'ไทยเฮลท์ กรุ๊ป'ได้มีช่องทางรายได้หลักจากสถานีวิทยุชุมชนประมาณ 80% แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นการจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด เช่น ร้านขายยา'เอ็กซตร้า' ของ'เซเว่นอีเลฟเว่น'ประมาณ 1.8 พันสาขาทั่วประเทศ รวมถึงร้านวัตสัน, บิ๊กซี และร้านขายยาทั่วไปภายในคอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ ประมาณ 70% ส่วนที่เหลือ 30% เป็นการจำหน่ายผ่านสถานีวิทยุชุมชนและโซเชียลมีเดียต่างๆ

   "ไทยเฮลท์ฯ ได้วางกลยุทธ์การตลาดใหม่ โดยใช้ชื่อโปรเจกต์ว่า Next Station New Way เป็นโครงการวิทยุชุมชน Radio OK ให้ความรู้กับ ผู้ประกอบการธุรกิจวิทยุชุมชนปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจให้เข้ากับกระแสพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จากที่เคยฟังวิทยุเพียงอย่างเดียว ตอนนี้มาฟังผ่านเว็บไซต์ ยูทูบ และแอพพลิเคชั่น โดยไทยเฮลท์ได้พัฒนาทั้งช่องทางการกระจายเสียงแบบเดิมให้มีคุณภาพดีขึ้น ขยายพื้นที่รับฟังให้มากขึ้น และพัฒนาช่องทางอื่นๆ เพื่อเป็นทางเลือกของผู้บริโภคด้วย โดยใช้งบประมาณการตลาด 10 ล้านบาท"

   อย่างไรก็ตาม การสื่อสารผ่านสถานีวิทยุชุมชนยังถือเป็นช่องทางสร้างการรับรู้แบรนด์ที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ล่าสุดได้เริ่มเปิดสถานีวิทยุชุมชนของบริษัทฯ 70 แห่ง และสถานีพันธมิตรกลับคืนมาแล้วประมาณ 50% จากจำนวน 300 สถานีในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกตามลำดับ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ใหม่ประมาณ 70% ภายใน 1-2 เดือน ส่วนที่เหลืออีก 30% รวมถึงสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม 2 รายการ คาดว่าอาจจำเป็นต้องปิดสถานีอย่างเป็นทางการ เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การออกอากาศที่ คสช. กำหนดไว้

   "ไทยเฮลท์ฯ ได้พัฒนาช่องทางกระจายเสียงคลื่นวิทยุเดิมให้มีคุณภาพดีขึ้น พร้อมขยายพื้นที่การรับฟังกว้างขึ้น ตลอดจนพัฒนาคอนเทนต์รายการให้เข้าสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยแอพพลิเคชั่นดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 1.5 แสนบาท ขณะนี้มีสถานีวิทยุชุมชนกว่า 100 แห่งที่เข้าร่วมโครงการแล้ว โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะดำเนินการแจกฟรีให้สถานีวิทยุชุมชนประมาณ 1,000 แห่งภายในปี 2558"

    นายพันธ์ยศ กล่าวอีกว่า ในปี 2558 'ไทยเฮลท์ฯ'จะเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเพศชายและหญิง ประมาณ 5-6 รายการ จากผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ คือ เครื่องดื่มน้ำเห็ดสกัด ตรา'มัชรูม พลัส'ด้วยสัดส่วนประมาณ 50% ส่วนที่เหลือเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันรำข้าวและน้ำมันจมูกข้าว ตรา'ยูนิไรซ์'ประมาณ 25% และผลิตภัณฑ์อื่นๆ 25% ขณะที่มีจำนวนผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องประมาณ 1 แสนราย พร้อมตั้งเป้าหมายยอดขายรวมไว้ที่ 500 ล้านบาท

   นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนพัฒนาธุรกิจโดยร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจรายอื่นที่มีสินค้าโดดเด่นและมีแนวโน้มเป็นที่ต้องการของตลาด แต่ขาดความชำนาญด้านการสร้างแบรนด์และทำตลาด โดย'ไทยเฮลท์ฯ'พร้อมที่จะรับช่วงการผลิตในลักษณะ OEM และเป็นที่ปรึกษาในรูปแบบธุรกิจขายตรงครบวงจร โดยใช้ประสบการณ์ ความชำนาญ เครือข่ายทางธุรกิจ เครื่องมือการตลาดในการผลิตสื่อโฆษณา เพื่อเป็นแนวทางการขยายไลน์สินค้าอีกทางหนึ่ง โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการประมาณ 10 ราย ที่จะเข้ามาร่วมจับมือกันนำสินค้าของ'ไทยเฮลท์ฯ' เข้าไปทำการตลาด ล่าสุดก็ได้ชิมลางไปแล้ว นั่นคือ ส่งน้ำเห็ดสกัด'มัชรูม แม็กซ์'ให้กับ'บริษัท แม็กซ์ อินเตอร์ฯ'ไปเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ถือว่าผลการตอบรับดีมาก

   "ต้องบอกว่า ไทยเฮลท์ฯ มองหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีสินค้าโดดเด่น แต่ขาดความชำนาญในการสร้างแบรนด์ และทำสินค้าของตนเอง เราจึงได้เข้าไปเป็นที่ปรึกษาการสร้างแบรนด์ในรูปแบบธุรกิจขายตรงอย่างครบวงจร โดยได้ใช้ประสบการณ์ ความชำนาญ เครือข่ายทางธุรกิจ เครื่องมือการตลาดที่แข็งแกร่งช่วยนักลงทุนวางแผนการตลาด ผลิตสื่อโฆษณา สร้างแอพพลิเคชั่น รวมถึงการทำการตลาด การจำหน่าย เพื่อให้สินค้าเป็นที่รู้จัก และประสบความสำเร็จในตลาด"

    อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนขยายตลาด AEC โดย 'ไทยเฮลท์ฯ' เริ่มต้นที่ประเทศเวียดนาม และกัมพูชาเป็น 2 ลำดับแรก เนื่องจากเป็นตลาดที่เริ่มมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีความสัมพันธ์กับนักธุรกิจท้องถิ่นในการกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภค โดยคาดว่าจะสามารถทำรายได้ประมาณ 20 ล้านบาทในปี 2558 แน่นอน