- Details
- Category: ขายตรง
- Published: Thursday, 04 December 2014 22:54
- Hits: 3184
นิวไลฟ์ฯ รับสภาพยอดขายวืด ประกาศเป้าหมายปีแพะต้องพัน ล.
บ้านเมือง : สุภพงษ์ เทียนสี/รายงาน นิวไลฟ์ฯ ยอมรับสภาพปีนี้ยอดขายวืดเป้า เหตุเจอวิกฤติการเมืองเล่นงานระงม ลั่นปีแพะสู้ธุรกิจขายตรง ลุยซื้อตึกสร้างสาขา หวังเรียกเชื่อมั่นลูกค้าคัมแบ็ก ประกาศเป้าหมายพันล้าน พร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่อุปโภคบริโภคอื้อ
นายสุเทพ ยืนยงค์วิทยากุล ประธานกรรมการบริหาร เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดขายตรงในปีนี้ ว่า ในไตรมาสแรก บริษัทฯ สามารถทำยอดขายเติบโตขึ้นมาก โดยเฉพาะหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศปิดวิทยุชุมชนไปนั้น ต้องยอมรับว่า บริษัทฯ มียอดขายที่ลดลง เนื่องจากยอดขายส่วนใหญ่ของบริษัทฯ นั้น จะมาจากยอดขายผ่านวิทยุชุมชน จึงทำให้ยอดขายลดหายไปกว่าครึ่ง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ก็ถือว่ามีส่วนที่ดี โดยเฉพาะหากพิจารณากันแล้วฐานผู้บริโภคในไตรมาส 2 ไตรมาส 3 เริ่มมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น และความแน่นอนของยอดขายเช่นกัน
ดังนั้น ในปีหน้านี้ บริษัทฯ ประกอบธุรกิจในเรื่องของสินค้าอุปโภคบริโภค และหลังจากสถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลาย ประกอบกับคลื่นวิทยุได้กลับเข้ามาสู่ภาวะปกติ แต่ทั้งนี้ บริษัทฯ เองก็จะต้องพิจารณาในการลงทุน
"ต้องบอกเลยว่าปีนี้ ยอดไม่ได้โตเลย เพราะเกิดปัญหาต่างๆ ปีที่แล้วปิดยอดขายประมาณ 500 ล้านบาท โดย ปีนี้น่าจะทำยอดขายได้เพียง 300 ล้านบาทก็น่าจะพอใจ แต่ปีหน้าบริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องทำให้ได้ 1,000 ล้านบาทเนื่องจากเราพยายามสร้างความเชื่อมั่นให้สมาชิก เช่น ปัจจุบันนี้มีสาขาที่เชียงใหม่ โดยบริษัทฯ ได้ซื้อตึกของเราเอง 3 คูหา อาคารพาณิชย์ และที่ขอนแก่นก็ซื้อเองเป็นอาคารเดี่ยว 3 คูหา ทำเป็นสาขาของเรา และในกรุงเทพฯ ตอนนี้กำลังหาซื้อที่ทำสำนักงานใหญ่"
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า สำหรับศูนย์สาขาของบริษัทฯ ขณะนี้มีที่เชียงใหม่ ตอนนี้มีสมาชิกที่มั่นใจมาก ลงทุนซื้อตึกแล้วตกแต่งเป็นสาขาเหมือนสำนักงานใหญ่ และมีที่อำเภอสารภี ซึ่งซื้อตึกแล้วเปิดเป็นสาขา นอกจากนี้ที่เชียงรายสมาชิกไปซื้อตึกแล้วทำเป็นสาขาเช่นกัน
"ตอนนี้มันเป็นเทรนด์ที่สมาชิกกล้าลงทุน และในปีหน้าเราจะมีศูนย์ MIDC เพิ่มมากขึ้น ยอดขายของเราก็จะเพิ่มขึ้นแน่นอน ตอนนี้มีอยู่ 50 แห่ง และจะต้องอัพเกรดตัวเองหมดเลย ไม่เช่นนั้นเราจะงดให้ค่าบริหารศูนย์ ปีหน้าจะต้องมีคุณภาพมากกว่าปริมาณลงทุน 100,000-200,000 บาท และจะมีเซ็นเตอร์ 1 ตำบล 1 เซ็นเตอร์ 30,000-50,000 บาท ตั้งเป้าให้มี 100 แห่ง ตอนนี้สมาชิกทำกันเอง และ 1 อำเภอ 1 MIDC ให้มี 2 ขั้นตอน เพื่อให้คนอื่นมีความพร้อม ถ้าเป็นสมาชิกอยู่เวลาไปขายของเค้าก็มองว่าเป็นสมาชิกขายตรง แต่ถ้าเป็นเซ็นเตอร์ นี้ก็แสดงว่าคุณปักหลักอยู่ ทีนี้ความรับผิดชอบมี การขับเคลื่อนมี มีการขยาย ปีหน้านี้เราปูพรมสร้างฐานผู้บริโภคไปยังรากหญ้ามากขึ้น"
นอกจากนี้ ล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดตัว แอพพลิเคชั่น เวอร์ชั่น 3 ออกมา สามารถเป็นวีดีโอพรีเซนต์ สามารถฟังภาษาอื่นได้ เช่น เวลาคุณพูดภาษาไทย แต่กดฟังภาษาอังกฤษได้ เพราะเรามีคนแปลให้ เพื่อให้สามารถได้รับทราบว่าบริษัทมีการพัฒนาตลอดเวลา ตรงนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญตรงนี้มาก โดยสามารถทำธุรกิจผ่านไอทีได้เลย
"ตอนนี้สมาชิกเรายังอยู่ที่ 75,000 รหัส ส่วนที่แอ็กทีฟ ยังอยู่ที่ 10-15% เท่านั้น เพราะฉะนั้นเราจึงพยามสร้างฐานผู้บริโภคให้มีมากขึ้น เพื่อผลักดันให้ได้ 50-60% เพราะว่าแผนการตลาดของเรารองรับอยู่แล้ว เราจะเป็นแผนยูนิเลเวล กับสแตร์สเต็ป ทั้งนโยบายและราคาสินค้าสอนคล้องกับแผนการตลาดอยู่ ตอนนี้ผมก็ได้คุยกับ 2 บริษัทต่างชาติ เพื่อมาเมิร์ซกัน ตอนนี้กำลังพูดคุยก่อนภายใน 3-5 เดือน ซึ่งเขาก็ทำ MLM เหมือนกัน บางคนก็จะเมิร์ซกันนำไปทำที่จีนแดง บางคนก็ชอบสินค้าเรา แต่เราต้องมองก่อน เพราะว่าเราตั้งใจที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ที่นี่"
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีสำนักงานสาขาอยู่ทั่วภูมิภาคเอเชีย เช่น ประเทศมาเลเซีย ฮ่องกง สิงคโปร์ ลาว พม่า และที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้คือประเทศอินโดนีเซีย สำหรับการเปิดสำนักงานแห่งใหม่ในประเทศไทยนี้ นอกจากจะเป็นของขวัญให้กับสมาชิก และลูกค้าผู้มีอุปการคุณแล้ว ยังเป็นการตอกย้ำความมั่นคงทางธุรกิจ คู่กับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และคำมั่นของ นิว ไลฟ์ ที่ว่าเราจะก้าวไปด้วยกัน ให้ นิว ไลฟ์ ดูแลใส่ใจ ห่วงใยชีวิตคุณ
นายสุเทพ ยังได้วิเคราะห์การแข่งขันในธุรกิจขายตรงปี 2557 นี้อีกว่า ในปีนี้เชื่อว่าการแข่งขันในธุรกิจขายตรงจะยังคงมีการแข่งขันที่รุนแรงเหมือนเช่นที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าอาจจะมีปัจจัยลบทางด้านการเมืองมากระทบต่อธุรกิจบ้าง แต่ยังเชื่อว่าภาพโดยรวมของธุรกิจขายตรงในปีนี้แล้วยังโตต่อเนื่องแน่นอน ถ้าหากรัฐบาลมาสนับสนุนธุรกิจขายตรงมากขึ้น เพราะเมืองไทยติดอันดับ 15 ของโลก ส่วนมาเลเซีย อันดับ 9 ไต้หวัน อันดับ 13 ของโลก ตรงนี้ขึ้นอยู่กับสมาพันธ์ขายตรงโลก