- Details
- Category: ขายตรง
- Published: Thursday, 04 December 2014 22:53
- Hits: 3677
'ไอยรา' ฝันดันขายตรงสีขาว
บ้านเมือง : ดร.กัมปนาท บุญราศี ประธานกรรมการ บริษัท ไอยรา แพลนเน็ต จำกัด เปิดเผยถึงการดำเนิธุรกิจว่า จุดเริ่มต้นที่ตนก่อตั้งบริษัทฯ แห่งนี้ขึ้นมานั้น สืบเนื่องจากต้องการทำตามความฝันที่ต้องการเห็นบริษัทขายตรงที่เป็นสีขาวจริงๆ และมีองค์ประกอบที่เพียบพร้อม ภายใต้การดำเนินธุรกิจโดยเป็นขายตรงของคนไทย โดยวันนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 แบรนด์ก็เป็นที่รู้จักและกระจายไปทั่วภูมิภาค
ทั้งนี้ สิ่งแรกที่ต้องยึดเป็นหลักของบริษัทฯ คือ ต้องเป็นธุรกิจเครือข่ายสีขาว ซึ่งจะต้องเริ่มต้นจากสินค้าที่มีคุณภาพ ประโยชน์ตกอยู่ที่ผู้บริโภค โดยมีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ที่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่า มีประโยชน์จริงๆ สิ่งสำคัญราคา ผู้บริโภคต้องซื้อได้ด้วย ถึงจะทำให้การตลาดเกิด ส่วนในเรื่องของการทำธุรกิจต้องมีระบบปันผลที่แน่ชัด และยึดหลักความยุติธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ถึงจะสามารถตอบสนองนักธุรกิจได้จริง และแผนการจ่ายผลตอบแทนจะต้องไม่ซับซ้อน สามารถทำได้ง่ายและไม่ยากจนเกินไป โดยต้องตอบโจทย์กับความสามารถของนักธุรกิจของแต่ละท่าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการทำธุรกิจที่เป็นแบบเครือข่ายสายงานถือว่าทรงพลังมากที่สุด
สำหรับ บริษัทฯ เราเดินด้วยกลยุทธ์สำคัญคือการรวมหัวใจสู่หัวใจ, กลยุทธ์ Aiyara Academy ต้องเข้าใจในผลิตภัณฑ์ เข้าใจในธุรกิจ เข้าใจในรูปแบบการทำงาน, ใช้จรรยาบรรณธุรกิจ เนื่องจากมีคนหลากหลายเข้ามาในธุรกิจจึงต้องยึดการอยู่ในกรอบเดียวกัน บางครั้งอาจจะอึดอัดบ้างแต่น้นการสร้างแบรนด์ในหัวใจผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคปลอดภัย พร้อมๆ กับสร้างพันธมิตรทางธุรกิจด้วย
อย่างไรก็ตาม จากสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว ผู้บริโภคควบคุมรายจ่าย การที่จะทำให้ถึงเป้าหมายนั้นจำเป็นต้องเร่ง สปีดมากๆ แต่สิ่งที่ไอยราตั้งใจทำเป็นที่สุดนั่นคือ การสร้างความเชื่อมั่นว่าธุรกิจสร้างโอกาสทางธุรกิจ มุ่งเน้นการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้มากขึ้น ทั้งความเข้มข้นในการฝึกอบรมที่ต้องกระจายไปตามเซ็นเตอร์ ให้ทุกคนมีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจในทิศทางที่ถูกต้อง ส่วนสมาชิกในปัจจุบันมีกว่า 150,000 รหัส
"ผมจะเดินทางทำงานตลอด เห็นได้จากการอัพสเตตัสผ่าน เฟซบุ๊คตลอดว่าขณะนี้กำลังทำกิจกรรมร่วมกับทีมงาน เพื่อเป็นการสร้างธุรกิจสีขาวของไอยราให้เป็นที่รู้จักของคนไทยทั้งประเทศ และขยายเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ตอนนี้ก็มีบริษัทที่กัมพูชาเรียบร้อยแล้ว แต่ต่อไปจะเข้าไปพม่า และลาวเป็นลำดับต่อไป พร้อมกับส่งมอบสินค้างานวิจัยของคนไทย ให้แผ่ขยายไปในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็เพิ่มความเข้มข้นของการฝึกอบรม ต้องกระจายความรู้ การเทรนนิ่งออกไปให้นักธุรกิจมีส่วนร่วมด้วย เพื่อให้เข้าเป้าหมายที่วางไว้ โดยแต่เดิมวางไว้ที่ 600 ล้านบาท แต่น่าจะไม่ถึง เนื่องจากประเทศมีปัญหาที่ไม่สามารถควบคุมได้ น่าจะปิดยอดที่ 400-500 ล้านบาท"
สำหรับ ปีหน้านี้ ทางหน่วยงานภาครัฐจะมีการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีการเก็บภาษีอาชีพอิสระให้มากขึ้น แน่นอนธุรกิจขายตรงก็อยู่ในนี้ด้วย ยอมรับว่าไม่มีผลกระทบต่อองค์กรของเรา โดยเฉพาะการที่มีตัวแทนอิสระ เมื่อมีการขายจะต้องมีรายจ่าย รายจ่ายหลักก็เป็นเรื่องคอมมิสชั่นของนักธุรกิจอิสระ และมีการเก็บภาษีอยู่แล้ว ถ้าจะมีการเก็บมากขึ้นตรงนี้ก็ไม่มีผลอะไร หักค่าใช้จ่ายอยู่แล้วทุกเดือนแล้วก็ส่งสรรพากร ทุกอย่างได้มีการแจงหมด นักธุรกิจไม่สามารถหลบภาษีได้ เพราะเขามีวิธีการสร้างรายจ่าย เช่นค่าจัดประชุมของเขา ค่าเดินทางของเขาก็ต้องว่าไปตามระบบภาษี คงไม่มีผลกระทบอะไรกับขายตรง
"ผมต้องการขายตรงให้ได้รับการยอมรับ ถ้าภาครัฐได้เข้ามาดูแลขายตรง ต่อไปขายตรงก็จะได้รับการยอมรับ ถ้าเราทำในเรื่องที่ถูกต้องมันก็เป็นเรื่องที่ดี นอกจากว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็จะต้องกวดขันกันเองนิดหนึ่ง ในช่วงที่ภาครัฐกำลังออกนโยบายต่างๆ ในตอนนี้" ดร.กัมปนาท กล่าวสรุป