- Details
- Category: ขายตรง
- Published: Thursday, 27 November 2014 23:27
- Hits: 3471
'เยสไอแคน'ลุยเจาะขายตรงหวังดันยอดขายเดือนละ 20 ล.
บ้านเมือง : นางภัททิยา พชรอัศวกาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เยสไอแคน คอเปอร์เรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่สะสมประสบการณ์บนเส้นทางธุรกิจเครือข่ายมาตั้งแต่ปี 2535 จนกระทั่งประสบความสำเร็จสูงสุดในปี 2550-2554 ของบริษัทต่างชาติที่ทำสเปรย์พ่นใต้ลิ้นชะลอแก่ เรียกได้ว่าเป็นเบอร์ 1 รับรายได้ 7 หลัก สามารถสร้างยอดหลายพันล้านให้กับบริษัทนั้น
"เนื่องจากการเป็นผู้นำไม่สามารถที่จะตัดสินใจเองได้ ทุกอย่างต้องขึ้นกับบริษัท และไม่สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้ จึงได้นำตัวสินค้าผลิตภัณฑ์แคปซูลนาโน เกี่ยวกับการเกษตรที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เข้ามาทำการตลาดในครั้งแรก เพิ่มการช่วยเหลือเกษตรกรให้ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตได้ หลังจากนั้นก็ได้เปิดบริษัท เยสไอแคน คอเปอร์เรชั่น จำกัด ขึ้นเมื่อกรกฎาคม ในปี 2554 ซึ่งมีความหมาย ฉันต้องทำได้ เพื่อเป็นการย้ำเตือนตนเอง เนื่องจากว่าเป็นผู้นำเข้ามาในตลาดแต่ไม่เคยเป็นเจ้าของบริษัทมาก่อน"
สำหรับ การทำการตลาดครั้งแรก ใช้ผลิตภัณฑ์แคปซูลนาโนเกษตร โดยเป็นนวัตกรรมใหม่ นำเข้าจากประเทศอิสราเอล ได้ทดลองก่อนจนกระทั่งมั่นใจแล้วว่าใช่ จึงได้ลาออกจากที่เดิม เพื่อมาลุยเต็มที่ ซึ่งในรูปแบบแคปซูลสามารถแบ่งจำหน่ายได้ 1 กล่อง มีทั้งหมด 120 แคปซูล ราคา 2,500 บาท แคปซูลละ 21 บาท ต้องบอกว่าเราเป็นจ้าวแรก หรือว่าถ้ามีใครเป็นเจ้าของแคปซูล ลองมาทดสอบดูได้เลยแล้วมาเปรียบเทียบกันได้เลย
ณ ปัจจุบันนี้สินค้าของ'เยสไอแคน' มีทั้งหมด 3 หมวด ได้แก่ 1.ผลิตภัณฑ์นาโนเกษตร 2.เครื่องสำอางชุดนาโนไบร์ท 3.เสริมสุขภาพเอ็กซ์แฟกเตอร์ สเปรย์ฉีดพ่นใต้ลิ้น
นางภัททิยา กล่าวถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจ ว่าบริษัทฯ ต้องมุ่งทำการตลาดเชิงรุกทั้งหมด โดยเฉพาะในการโปรโมทสินค้าทั้ง 3 หมวดให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างยอดขายให้เพิ่มขึ้น 20 ล้านบาทต่อเดือน เนื่องจากที่ผ่านมาสามารถสร้างยอดขายได้ 10 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนใหญ่จะเป็นยอดขายของแคปซูลนาโนเกษตรสูงถึง 95%
"ต้องบอกว่า เราไม่เน้นเปิดสาขา เพราะเราส่งสินค้าโดยตรง หรือผู้นำเป็นโมบายหรือคลังก็สามารถนำสินค้าไปกระจายในกลุ่มตัวเองได้ ด้านยอดขาย ณ ขณะนี้ ภาคกลางยังคงมาแรง ในแถบสุพรรณบุรี อ่างทอง ส่วนที่เพิ่มเข้ามาก็มีตะวันออกกับใต้ ที่ผ่านมามีเหนือกับอีสาน ทางศรีสะเกษ อุบลราชธานี ต่อไปขอนแก่น อุดรธานี อย่างภาคตะวันออกก็ที่ชลบุรี ระยอง ส่วนภาคเหนือมีที่อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร แต่ก่อนจะเป็นเหนือสุดเลย เชียงราย เชียงใหม่ และที่เปิดตลาดครั้งแรก คือ พะเยา"
อย่างไรก็ตาม ปีนี้เราจะต้องตามความเหมาะสม เพื่อที่สนับสนุน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นงบโปรโมชั่นมากกว่า ส่วนสินค้าที่จะเพิ่มเข้ามาใหม่ก็คาดว่าจะเป็นพวกพลังงานเกี่ยวกับรถยนต์ และเป้าหมายปีนี้ไม่ได้วางเป็นตัวเลข แต่จะวางว่าเอ็กซ์แฟกเตอร์จะต้องครองมาเป็นอันดับ 1 ให้ได้ ก็น่าจะเพิ่มขึ้น ตอนนี้ได้ 10 ล้านต่อเดือน ถ้าเพิ่มมาก็เท่าตัวที่มีอยู่ ก็จะต้อง 20 ล้านบาทต่อเดือน คาดว่าถ้าเรารุกสื่อเพื่อสร้างการรับรู้ และเราลงพื้นที่เองด้วย ยอดต้องถึงแน่นอน