Tweet

0

Details

Category: ขายตรง

Published: Sunday, 23 November 2014 14:42

Hits: 7854

เจอเนสส์ ทำลายสถิติด้วยยอดขายทะลุ 50 ล้านเหรียญฯ สหรัฐ ครองอันดับ 1 บริษัทขายตรงที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในทำเนียบ Inc.500

เจอเนสส์ โกลบอล  (Jeunesse Global) หนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์เพื่อการบำรุงผิวพรรณ และอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เครือข่ายขายตรงที่มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ติดอันดับ 1 ใน 50 อันดับแรกของบริษัทขายตรงที่มีผลประกอบการสูงสุดประจำปี 2557 โดยนิตยสาร Direct Selling Newsประเทศสหรัฐอเมริกา หลังเปิดตัวเพียง 5 ปี ทำให้เจอเนสส์เป็นบริษัทขายตรงแบบหลายชั้นที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการชะลอวัย สัญชาติอเมริกาที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงเป็นอันดับต้นๆ ในประเทศไทย

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา เจอเนสส์ โกลบอลได้รับการจัดอันดับในเว็บไซต์ www.directsellingnews.com ในหัวข้อ The 2014 Direct Selling News Global 100ซึ่งเป็นการจัดอันดับบริษัทขายตรงที่มีผลประกอบการสูงสุด 100 อันดับแรกของโลก โดยนิตยสาร Direct Selling News (DSN)ในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่นำเสนอข่าวสารในอุตสาหกรรมขายตรงโลก รวมถึงข้อมูลและความเคลื่อนไหวของบริษัทขายตรงชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก โดยการจัดลำดับของ DSN ครั้งนี้ พิจารณาจากข้อมูลผลประกอบการปี 2556 ของบริษัทเครือข่ายชั้นนำทั่วโลก ซึ่งผลการจัดอันดับล่าสุด เจอเนสส์ โกลบอล กระโดดขึ้นมาอยู่ในลำดับที่ 46 จากทั้งหมดกว่า 7,000 บริษัทขายตรงทั่วโลก ด้วยตัวเลขผลประกอบการที่ 257 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ขยับชั้นจากปีก่อนถึง 32 อันดับ และคาดว่าปี 2558 จะสามารถไต่ขึ้นเป็น 1 ใน 25 อันดับแรกของโลก

ล่าสุด เจอเนสส์ โกลบอล ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านธุรกิจขายตรงข้ามชาติในกว่า 100 ประเทศทั่วโลกด้วยการปิดยอดขายเฉพาะเดือนตุลาคม ปี 2557 ด้วยยอดตัวเลขรายได้แบบถล่มทลาย และถือเป็นสถิติใหม่ของเจอเนสส์ เพราะเพียงเดือนเดียวสามารถทำรายได้สูงสุดถึง 50 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ เฉพาะประเทศมาเลเซีย สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 4 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ พร้อมจำนวนสมาชิกและตัวแทนจำหน่ายหน้าใหม่สมัครเข้าร่วมธุรกิจเจอเนสส์แล้วกว่า 42,000 รหัสภายในเดือนเดียวกัน  หลังการเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 5 ปีของเจอเนสส์ โกลบอลอย่างยิ่งใหญ่ใน งานเจอเนสส์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 5 ประจำปี 2557 (Jeunesse Expo 5) จัดที่ Cotai Arena เขตบริหารพิเศษมาเก๊า

และเจอเนสส์ โกลบอล ยังได้สร้างสถิติใหม่ในด้านการเติบโตอย่างต่อเนื่องของนักธุรกิจเจอเนสส์อิสระทั่วโลก มีผู้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง Diamond Directorsมากถึง 15รหัส และตำแหน่ง Double Diamond Directorsอีก 5 รหัส เฉพาะในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจที่เจอเนสส์ โกลบอลได้มอบชีวิตที่มั่นคงกว่าให้กับนักธุรกิจเจอเนสส์อิสระทั่วทุกมุมโลกอย่างแท้จริง

มร.กันวาร์ ภูตานิ (Mr. Kanwar Bhutani) ประธานภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค บริษัท เจอเนสส์ โกลบอล จำกัด เผยว่า “ผมคาดการณ์ว่าในอนาคตยอดการเติบโตแบบทวีคูณของเจอเนสส์นั้นยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จนสามารถทำลายสถิติยอดขายได้อีกครั้งภายในสิ้นปี 2557 ที่กำลังจะถึง เพราะมีอัตราการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงกว่าเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก และประเทศไทยถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ธุรกิจเจอเนสส์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เปิดทำการในปี 2554 จนได้รับรางวัลประเทศที่ทำยอดขายสูงสุด 5 อันดับแรกของโลกประจำปี 2557 รองจากจีน ไต้หวัน และมาเลเซีย

นอกจากนี้ เจอเนสส์ โกลบอลยังได้รับการยกย่องให้อยู่ในทำเนียบเกียรติยศของ Inc.500 ซึ่งเป็นทำเนียบจัดอันดับบริษัทที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด 500 อันดับแรกของโลก ของนิตยสาร Inc. Magazine ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะประเมินศักยภาพตั้งแต่ปี 2553– 2556 ที่ผ่านมาของบริษัทที่มีฐานการผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา และดำเนินการโดยเอกชน โดยเจอเนสส์ โกลบอลได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในลำดับที่ 258 แสดงให้เห็นว่าเจอเนสส์ โกลบอลเป็นบริษัทขายตรงที่เติบโตได้อย่างรวดเร็วที่สุดในสมาพันธ์ขายตรงของประเทศสหรัฐอเมริกา และสามารถทำการปิดยอดขายในปี 2556 ได้ด้วยผลประกอบการที่สูงกว่า 224 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ส่วนตัวเลขผลประกอบการในปีนี้มียอดขายเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 125% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันนี้

ด้านการตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิก คาดการณ์ว่าจะโตกว่าที่วางไว้มากกว่า 30% จากปีก่อน และถือเป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วมากอีกด้วย สำหรับภาพรวมตลาดเอเชียแปซิฟิกในประเทศต่างๆ เช่น ประเทศฟิลิปปินส์ มียอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิม 4– 5 เท่าตัว ซึ่งเร็วมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในขณะที่ตลาดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่และเก่าแก่มากที่สุดอีกแห่งของวงการขายตรง กลับมียอดผลประกอบการลดลงจากเดิม เนื่องจากติดอุปสรรคด้านการโฆษณาสินค้าที่มีข้อจำกัดมากขึ้น ส่วนเกาหลีใต้ถือเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจมากขึ้น เพราะรัฐบาลกำหนดให้ผลตอบแทนได้สูงสุด 30% จากรายได้ การแข่งขันกันของบริษัทขายตรงจึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น และต้องแข่งขันที่ตัวสินค้ามากกว่าผลตอบแทน และตลาดอื่นๆ เช่น สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย มีการขยายตลาดพอๆ กับในประเทศไทย

ในปีหน้าจะมีการขยายตลาดเพิ่มเติมไปยังกัมพูชา โดยให้ประเทศไทยรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลจัดการ เนื่องจากประเทศไทยมีผลประกอบการอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ถือเป็นต้นแบบให้กับหลายๆ ประเทศได้เป็นอย่างดี และถ้าการสำรวจตลาดในอินเดียมีความเป็นไปได้ ก็จะขยายตลาดเข้าไปในปีหน้า

สำหรับประเทศไทย วางแผนจะกระจายศูนย์บริการออกไปยังต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้รองรับกับความต้องการสินค้า และเพื่อขยายฐานให้กว้างขึ้น”

*หมายเหตุ เจอเนสส์ โกลบอล ปิดผลประกอบการในปี 2556 ด้วยตัวเลขรายได้กว่า 256 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ  ตัวเลขที่ส่งให้ Inc. Magazine ประเมินผล ไม่ได้รวมถึงตัวเลขรายได้จากธุรกิจที่ไม่ได้ควบรวมกิจการเข้าไปอยู่ในโครงสร้างของบริษัท

สารอาหารที่สมดุล คือ ปัจจัยสำคัญสู่การมีร่างกายที่แข็งแรง

วิดาเซล (Vidacell) ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มผงข้าวสกัดจากธรรมชาติ 100% ช่วยเสริมสารอาหารที่ทรงคุณค่าและจำเป็น เพื่อช่วยสร้างเสริมสุขภาพดีให้ร่างกาย วิดาเซล ผลิตจากเมล็ดข้าวสายพันธุ์พื้นเมืองซึ่งคัดสรรจากเมล็ดข้าวที่ถูกเก็บเกี่ยวในช่วงเวลาที่ดีที่สุดและให้คุณค่าทางโภชนาการสูงสุดจากทุ่งราบแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นประเทศที่มีดินอันอุดมสมบูรณ์และบริสุทธิ์ปราศจากสารเจือปน ประกอบด้วยแร่ธาตุจากสารอินทรีย์ธรรมชาติที่ทับถมกันเป็นเวลานับพันปี

ในช่วงต้นยุค 1990 กลุ่มนักวิทยาศาสตร์, นักเทคโนโลยีโภชนาการ และแพทย์ในประเทศไทยได้ทำการวิจัยค้นคว้าเพื่อหาสูตรซีเรียลพร้อมชงเพื่อผลิตเป็นอาหารให้กับทารก   เหล่าผู้เชี่ยวชาญและทรงความรู้ได้ทำการค้นคว้าทดลองด้วยแนวความคิดในการเพิ่มเมล็ดข้าวบดซึ่งคัดสรรจากข้าวสายพันธ์พื้นเมืองเข้าไปในซีเรียล โดยใช้นาโนเทคโนโลยี และผ่านกระบวนการ mechanical hydrolysis process (การแยกสลายโมเลกุลด้วยน้ำ) หลังจากปรับปรุงสูตรได้ไม่นานพวกเขาได้รับผลตอบรับที่คาดไม่ถึง เพราะนอกจากช่วยบำรุงร่างกาย ยังมีการรายงานถึงผลดีต่อร่างกายในด้านอื่นๆ เช่นเดียวกัน พวกเขาจึงทำการวิจัยเพิ่มเพื่อหาคุณประโยชน์ที่มีต่อร่างกายในด้านอื่นๆ ของสูตรดังกล่าว  และในปัจจุบันยังมีการวิจัยอย่างต่อเนื่องเพื่อหาคุณประโยชน์ของวิดาเซลภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช)  หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

วิดาเซล ปราศจากสารที่ทำให้เกิดการแพ้ ไม่มีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์จากนม สารเคมี กลูเตน ข้าวสาลี สารกันเสีย หรือ ผลิตภัณฑ์ตัดแต่งพันธุกรรม (GMO) วัตถุเจือปนอาหาร สารปรุงแต่งรส สีผสมอาหาร สารยึดเกาะ โพลีแซคคาไรด์ โพลีเพพไทด์ และสารประกอบอื่นๆ

คุณสมบัติและคุณประโยชน์

• ผลการศึกษาพบว่าช่วยคงระดับคอเลสเตอรอล, HDL, LDL  หลังจากรับประทานวิดาเซลได้สามเดือน
• มีส่วนผสมของอัลฟา-ไกลแคน (โพลีแซคคาไรดส์ และโพลีเพพไทส์)
• ส่วนประกอบจากธรรมชาติ 100% จึงปราศจากสารกระตุ้น, ผลิตภัณฑ์จากนม, ข้าวสาลี, กลูเต็น, น้ำตาล, สารเคมี, สารเต็มเติม, สีผสมอาหาร, สารยึดเกาะ, สารปรุงแต่งรส, สารกันเสีย, วัตถุเจือปนอาหาร
• HYPOALLERGENIC และปราศจากสารตัดแต่งทางพันธุกรรม (NON-GMO)
• ผ่านกระบวนการผลิตโดยใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีอันเป็นลิขสิทธิ์
• ประกอบด้วยส่วนผสมเอกสิทธิ์ที่กำลังจดสิทธิบัตร
• สามารถใช้ได้หลายวิธี
• เป็นแหล่งอาหารแคลอรี่ต่ำที่อุดมคุณค่าทางโภชนาการเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว

ส่วนผสมหลัก

อัลฟา-ไกลแคนธรรมชาติจากผงแป้งข้าว

โพลีแซคคาไรด์ และโพลีเปปไทด์จากผงแป้งข้าวหอมพันธุ์สีน้ำตาลเมล็ดสั้น

วิธีการใช้และการรับประทาน

วิธีใช้: วิธีที่ดีที่สุดในการรับประทานวิดาเซลคือการเขย่า หรือผสมกับของเหลว 4 – 6 ออนซ์ (ละลายได้ดีในน้ำอุ่น) หรือโรยลงบนอาหาร  สามารถรับประทานวิดาเซลเวลาใดก็ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน 

อย่างไรก็ดี หลายคนพบว่าร่างกายสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่าเมื่อรับประทานวิดาเซลก่อนอาหาร 15 นาที

ปริมาณแนะนำในการรับประทานของแต่ละคนอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำหนัก  แนะนำว่าผู้ใหญ่สามารถรับประทานได้วันละหนึ่งถึงสามซองต่อวันเพื่อบำรุงร่างกาย เด็กสามารถรับประทานได้ครึ่งหนึ่งของปริมาณที่ผู้ใหญ่รับประทาน และสามารถใช้เป็นครีมพอกหน้า โดยผสมและทาลงบนผิวทิ้งไว้ 10-15 นาทีและล้างออกด้วยน้ำเปล่า

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: บริษัท ทริปเปิล เอท ไอเดียส์ จำกัด: ที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ JEUNESSE
ภควตี เย็นกาย โทร. 02 664 0888 หรือ 088 623 4222 อีเมล์: [email protected]