- Details
- Category: ขายตรง
- Published: Friday, 07 November 2014 22:46
- Hits: 3526
ลัคกี้ ยูเนี่ยนฯ ปรับกลยุทธ์รุกตลาดในประเทศ ชูแกร่ง สินค้าตรงใจ หวังโตสวนกระแสโกย 400 ล้าน
บ้านเมือง : ลัคกี้ ยูเนี่ยนประกาศรุกตลาดในประเทศ หลังประสบความสำเร็จในต่างประเทศ ตั้งเป้าเติบโต 20% ประมาณ 400 ล้านบาท เพราะผู้ประกอบการหันมาเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงหลังกฎหมายการคุ้มครองผู้บริโภค เรื่องความปลอดภัยด้านตัวสินค้าบังคับ ใช้ชูจุดแข็งเรื่องงานวิจัยพัฒนา สินค้าตรงใจผู้บริโภค
น.ส.วันทนี แสงอุทัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลัคกี้ ยูเนี่ยน ฟู้ดส์ จำกัด บริษัท ลัคกี้ ยูเนี่ยน ฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปแช่แข็งจากเนื้อปลาบด (ซูริมิ) แบรนด์ 'ลัคกี้'(LUCKY) กับสโลแกน "ครบคุณค่าความอร่อย เปิดเผยว่า บริษัทลัคกี้ฯ เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างประเทศไทยและประเทศเกาหลีใต้โดยผู้ถือหุ้นจาก 3 องค์กรหลัก ได้แก่ Thai Union Frozen Products Public Company Limited, LF Food Corp., และ CJ Seafood Corp. บริษัทฯ เริ่มดำเนินธุรกิจในปี ค.ศ.2535 ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท มีกำลังการผลิต 30,000 ตันต่อปี
โดยมีบริษัทย่อย Lucky Union Foods-Euro Sp. z o.o. (LUF-EURO) ที่ประเทศโปแลนด์ กำลังการผลิต 10,000 ตันต่อปี ปัจจุบัน LUF มีจำนวนพนักงานทั้งสิ้น 800 คน มีลักษณะการผลิตแบบ make to order เป็นตลาดส่งออก 90% นอกจากนั้น ยังได้ให้ความสำคัญกับผู้บริโภคโดยมีระบบการจัดการการผลิตที่ถูกต้องและมีมาตรฐานการยอมรับระดับสากล โดยยึดมั่นในนโยบายที่ให้ความสำคัญในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และการรักษา สิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ
LUF มีคู่ค้าหลักอยู่ที่ Europe, USA, Australia, New Zealand, Asia, Middle East และ South Africa รวมถึงตลาดภายในประเทศเพิ่มขึ้น นอกจากเป็นผู้รับจ้างผลิตที่มีศักยภาพแล้ว LUF ยังจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของตนเองคือ "ลัคกี้" และ "Kani Family" ซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางจากผู้บริโภค โดยสินค้าดังกล่าวมีจำหน่ายใน Supermarket, Hypermarket and Convenient Store นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังได้จัดจำหน่ายสินค้าต่างๆ ให้กับอุตสาหกรรมอาหารอื่นๆ เช่น ผู้ผลิตอาหาร เบเกอรี่ และธุรกิจฟาสต์ฟู้ดส์ ฯลฯ
การลงทุนในการจำหน่ายสินค้าต่างประเทศในปัจจุบันโดยบริษัทฯ ลงทุนในปี 1990 จำนวน 150 ล้านบาท กำลังการผลิต 10,000 ตันต่อปี และมีการขยายบริษัทย่อย Lucky Union Foods -Euro Sp.z o.o. ที่ประเทศโปแลนด์ สามารถเพิ่มกำลังการผลิต 10,000 ตันต่อปี ปัจจุบันกำลังการผลิตทั้งสองแห่ง 40,000 ตันต่อปี มูลค่าทรัพย์สินรวม 3,500 ล้านบาท ทั้งสองแห่งโดยในปี 2014-2015 ลงทุนเพิ่ม เพื่อขยายเครื่องจักรภายในโรงงาน 1,000 ล้านบาท รองรับการขยายตัวของตลาดต่างประเทศ ตลาดในประเทศ และ ตลาด AEC
ด้านนายสุรเดช ชินสกุลเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวถึง เป้าหมายยอดขายภายในประเทศปี 2558 นี้ว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโต 20% หรือ ประมาณ 400 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ตลาด B2B จำหน่ายสินค้าไปยังโรงงานและตลาด Wholesale (ภายใต้แบรนด์ "ลัคกี้" LUCKY) โดยเน้นการทำตลาดในทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มตัวแทนร้านค้าตลาดสด กลุ่ม HORECA โดยวางเป้าหมายเติบโต 80% (320 ล้านบาท) และ LUCKY MART, การออกบูธจัดกิจกรรมโรดโชว์ เน้นตราสินค้าเพื่อเป็นการทำแบรนด์ 'ลัคกี้'(LUCKY) ให้เกิดการจดจำ พร้อมนำสินค้าไปเปิดตลาดให้เป็นที่รู้จักแก่ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ตั้งเป้าขยายช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าในจุดใหม่ๆ 20% (80 ล้านบาท) โดยบริษัทฯ จะทำการผลักดันสินค้าเข้าสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ อย่างโมเดิร์นเทรด ดิสเคาท์สโตร์ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น
สำหรับ จุดแข็งของ บริษัท ในตลาดการส่งออก นั้น ได้รับการตอบรับจากต่างประเทศดี ชื่อเสียงของประเทศไทยเป็นจุดแข็งต่อธุรกิจของบริษัทฯ เนื่องจากประเทศไทยเป็นครัวของโลก บริษัทฯ จึงได้อนิสงค์ ที่เป็นบริษัทอยู่ในประเทศไทย เปรียบเหมือนประเทศไทยเป็นตราสินค้าที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก เนื่องด้วยบริษัทฯ ของเราเป็นอุตสาหกรรมอาหารที่เน้นคุณภาพมีระบบการผลิตที่ถูกต้องตามมาตรฐานระดับสากล อาทิ ISO 9001: 2008, ISO 14001:2004, BRC Global Standard, MSC (Marine Stewardship Council), GMP, HACCP, SQF, Kosher, Halal และ Hal-Q
โดยยึดมั่นในนโยบายความสำคัญในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญทำให้ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า สินค้าของทางบริษัทฯ มีความหลากหลาย ครอบคลุมความต้องการของลูกค้า มีเครื่องจักรที่ทันสมัยลองรับกำลังการผลิตสินค้าได้เป็นอย่างดี พนักงานภายในองค์กรมีความภักดีต่อองค์กรสูงทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ มีพนักงานในส่วนของ R&D ที่เข้มแข็ง เป็นหน่วยงานวิจัยที่มีความสามารถสร้างสินค้าได้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า สามารถพัฒนาสินค้าให้ตรงตามไลท์สไตล์ของประเทศต่างๆ จึงทำให้การจำหน่ายสินค้าในตลาดต่างประเทศ
สำหรับ ที่ผ่านมาไม่ว่าด้วยสภาวะเศรษฐกิจโลกจะเป็นอย่างไร ตลาดการส่งออกสินค้าอาหารแปรรูปแช่แข็งจากเนื้อปลาบด ยังคงคึกคักอย่างมาก ยอดการสั่งซื้อของลูกค้ามีเข้ามาต่อเนื่องและสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งลูกค้าเก่า และเริ่มมีลูกค้ากลุ่มใหม่เดินทางมาเยี่ยมชมโรงงานและมีการสั่งซื้อสินค้า จึงทำให้ยอดขายในปี 2557 สูงตามเป้าที่ตั้งไว้ และคาดว่าสามารถประสบความสำเร็จได้ดีในปี 2558 ที่จะมาถึง
ส่วนกลยุทธ์ด้านการตลาดที่จะนำมาใช้บุกตลาดในปีหน้าใช้งบกว่า 30 ล้านบาท เน้นที่การทำกิจกรรมสัมพันธ์โดยส่งทีมส่งเสริมการตลาดออกไปสร้างความรู้ในเรื่องผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้า ทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายร่วมกับทุกช่องทางการจำหน่าย ทั้งตลาดสด โมเดิร์นเทรด ดิสเคาท์สโตร์ เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย