- Details
- Category: ขายตรง
- Published: Monday, 13 October 2014 19:41
- Hits: 7375
รายงานพิเศษ: กลยุทธ์ 'แอมเวย์' เติบโตพร้อมสุขภาพที่ดีของคนไทย
ไทยโพสต์ : การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงนับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในชีวิต ให้สามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ ไปได้ด้วยดี ซึ่งการออกกำลังกายเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ มักจะเลือกปฏิบัติให้เป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของตัวเองอยู่เสมอแต่ยังมีประชากรจำนวนไม่น้อยที่จะหาทางเลือกอื่นเพื่อให้สุขภาพของตัวเองยังคงแข็งแรงอย่างต่อเนื่อง'แอมเวย์'คือผู้ประกอบการรายหนึ่งที่ในเวลานี้สามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพได้เป็นอย่างดี
จากข้อมูลจากยูโรมอนิเตอร์ มูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 39,000 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนิวทริไลท์ของแอมเวย์มีมูลค่าอยู่ที่ 6,100 ล้านบาทจากตลาดรวม และหากจะกล่าวถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวทั่วโลกของแอมเวย์แล้ว จะอยู่ที่ประมาณ 147,000 ล้านบาท ขณะที่สัดส่วนยอดขายของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนิวทริไลท์ของบริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด มีอยู่ 36% ของยอดขายรวมของบริษัท
โดยผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.นิวทริไลท์ ออล แพลนท์ โปรตีน และนิวทริไลท์ กรีนที นิวทริ-โปรตีน 2.นิวทริไลท์ ดับเบิ้ล เอ็กซ์ 3.นิวทริไลท์ น้ำอะเซโรลา เชอร์รี่
จากการดำเนินธุรกิจภายในประเทศไทยของแอมเวย์ มีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับ 9-10% มาตลอดช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา
แต่ในปีนี้พบว่ามีหลายปัจจัยที่เกิดขึ้นในเมืองไทย ส่งผลให้ปีนี้รายได้อาจจะไม่มีการเติบโต หรืออยู่ที่ 17,000 ล้านบาท แอมเวย์จึงต้องปรับกลยุทธ์ในการสร้างแรงจูงใจให้กับนักธุรกิจในรอบ 27 ปี ด้วยการพยายามอัดฉีดรายการที่มีความน่าสนใจเพิ่มเติม โดยได้เพิ่มค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นอีก 10% หรือคิดเป็นมูลค่าราว 6,000 ล้านบาท ซึ่งจะถูกจ่ายตรงไปยังนักธุรกิจของแอมเวย์
การปรับแผนของธุรกิจครั้งนี้ เป็นการปรับปรุงให้สอดคล้องกับสภาพของเศรษฐกิจไทยที่เกิดขึ้นขณะนี้ รวมถึงยังต้องการมุ่งเน้นให้คนเข้ามาทำอาชีพขายตรงในระยะยาวอีกด้วย
ในตอนนี้นิวทริไลท์ก็ได้อยู่คู่กับผู้บริโภคมาถึง 80 ปีแล้ว และเพื่อเป็นการตอกย้ำความใส่ใจเรื่องสุขภาพ จึงได้จัดงานวิ่งระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายใต้ชื่อ "นิวทริไลท์ เฮลธ์ รัน" โดยทางแอมเวย์ประเทศไทยได้ทำการจับมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด 6 ประเทศ เน้นสร้างแบรนด์และประสบการณ์ให้กับผู้บริโภค
นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นิวทริไลท์ได้เปลี่ยนแนวคิดของผู้คนทั่วโลกให้สามารถสร้างสุขภาพที่แข็งแรงได้ด้วย ส่งผลให้ยอดขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนิวทริไลท์ทั่วโลกสูงถึง 147,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา
บริษัทจึงวางแผนขยายกำลังการผลิตด้วยการใช้งบประมาณ 11,250 ล้านบาท ขณะที่ตลาดในประเทศไทย ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยอมรับให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพ ประกอบกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนในปัจจุบันไม่ค่อยมีเวลาดูแล จึงเป็นโอกาสทางการตลาดที่ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้จะมียอดขายถึง 6,100 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 15%
ด้านนางรัตนา ชาญนรา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด แอมเวย์ (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่า ในส่วนของประเทศไทยเริ่มทยอยจัดกิจกรรมมาตั้งแต่ต้นปีนี้ตลอดไปจนถึงต้นปี 2558 ไม่ว่าจะเป็นการจัดรายการส่งเสริมการขายพิเศษ เพื่อเชิญนักธุรกิจแอมเวย์ที่ประสบความสำเร็จไปเยี่ยมชมสถาบันสุขภาพนิวทริไลท์และฟาร์มชีวภาพเทราท์เลคในประเทศสหรัฐอเมริกา การจัดโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ เพื่อตอบแทนลูกค้าและนักธุรกิจแอมเวย์
ในฐานะที่นิวทริไลท์เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่มุ่งหวังให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง แอมเวย์ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วย ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ได้ร่วมมือกันจัดกิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพ นิวทริไลท์ เฮลธ์ รัน (Nutrilite Health Run) ขึ้น
โดยเริ่มครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 11 ม.ค.2558 ณ สวนลุมพินี ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ บริการประเมินสุขภาพพื้นฐานฟรี กิจกรรมการกุศล "นิวทริไลท์ เพาเวอร์ ออฟ ไฟว์" (Nutrilite Power of 5) เชิญชวนทุกท่านร่วมประทับมือที่บูธมูลนิธิแอมเวย์เพื่อสังคมไทยภายในงาน และเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างสถิติรอยประทับมือแอมเวย์ที่มากที่สุดในโลก เพื่อบันทึกลงกินเนสส์บุ๊ก (Guinness Book)
โดย 1 รอยประทับมือของแต่ละคน ทางแอมเวย์จะร่วมบริจาค 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 35 บาท โดยมอบเงินให้องค์กร CARE เพื่อมนุษยธรรมระดับโลก ซึ่งแอมเวย์ได้ตั้งเป้าหมายในการบริจาคเงินไว้สูงสุดถึง 14 ล้านบาท
สำหรับ เป้าหมายในอนาคตของแอมเวย์ คือ การสร้างอาชีพนักธุรกิจแอมเวย์ให้อยู่ 1 ใน 10 ของอาชีพที่คนไทยอยากเป็นมากที่สุดในปี 2020 หรือในอีก 6 ปีข้างหน้า ซึ่งการที่จะก้าวขึ้นไปถึงจุดนั้นได้ แอมเวย์ต้องมีกลยุทธ์สนับสนุนเพื่อให้คนอยากสมัครมาทำธุรกิจด้วยกันทั้งสิ้น 3 ประการ ได้แก่
1.การสร้างแอมเวย์ให้เป็นแบรนด์แห่งนวัตกรรม (Brand of Innovation) ด้วยการพัฒนาศักยภาพของโอกาสทางธุรกิจ โดยได้มีการตั้งสถาบันฝึกอบรม แอมเวย์ (Amway Training Institute) ผลิตนักธุรกิจแอมเวย์มืออาชีพที่มีมาตรฐาน
2.การสร้างแอมเวย์ให้เป็นแบรนด์ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ (Brand of Lifestyle Solutions) ในอนาคตธุรกิจต่างๆ จะไม่ได้ขายสินค้าอีกต่อไป แต่จะนำเสนอวิธีที่จะตอบสนองวิถีการดำเนินชีวิต หรือแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับผู้คนในทุกๆ กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของสินค้าจะเป็นสินค้าเฉพาะบุคคลมากขึ้น (Personalized) และด้วยจุดเด่นของความเป็นแบรนด์ที่มีผลิตภัณฑ์และบริการหลากหลาย ก็จะสร้างโปรแกรมโซลูชั่นด้านสุขภาพ ความงาม และการบริการให้แก่ลูกค้าอย่างครบวงจรขึ้นอีกด้วย
3.การสร้างแอมเวย์ให้เป็นแบรนด์แห่งจิตสำนึกเพื่อทุกคนในสังคม (Brand of Corporate Responsibility) ด้วยการดำเนินกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมอย่างต่อเนื่อง และตั้งเป็นหนึ่งในนโยบายหลักที่สำคัญของธุรกิจ
แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจไทยจะอยู่ในสภาวการณ์ที่ไม่สู้ดีนัก แต่แอมเวย์ยังคงสู้ไม่ถอย หาวิธีเพื่อให้สามารถประกอบธุรกิจในเมืองไทยก้าวไปสู่การเติบโตได้ในอนาคต ซึ่งคาดว่าในปีหน้าจะสามารถเติบโตได้ดีกว่าปีนี้อย่างแน่นอน ผลมาจากการสร้างรากฐานทางธุรกิจให้เข้มแข็งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ด้วยการปรับกลยุทธ์และแผนการดำเนินธุรกิจที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น โดยมีผลิตภัณฑ์นิวทริไลท์เป็นสินค้ากำลังหลักที่ทำให้แอมเวย์เติบโตไปได้ด้วยดี พร้อมด้วยการสร้างสุขภาพของคนไทยให้มีความแข็งแรงกับกิจกรรมฉลอง 80 ปีครั้งนี้อีกด้วย.