- Details
- Category: ขายตรง
- Published: Thursday, 11 September 2014 23:29
- Hits: 3634
ขายตรงเชื่อรัฐบาลใหม่แข็งโป๊ก
บ้านเมือง : สุภพงษ์ เทียนสี/รายงาน
ธุรกิจขายตรงขานรับอานิสงส์บรรยากาศการเมืองคลี่คลาย ระบุประชาชนกล้าจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น 'ไอยรา'วอนรัฐเร่งคลอดนโยบายส่งเสริมการลงทุน ฝั่ง'รมิตา'ชี้ขายตรงค่ายเล็กกระทบหนักจากความผันผวนทางการเมืองเสนอแนะรัฐควรออกมาตรการเร่งด่วนเรียกคืนความเชื่อมั่นโดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ เริ่มต้นกลุ่มประเทศ AEC ขณะที่ 'ไทยเฮทธ์'ยังเชื่อมั่นไตรมาสสุดท้ายขายตรงจะกลับมาคึกคัก วางแผนปั้นยอดขายตามเป้าหมาย แฮปปี้เอ็มพีเอ็ม เชื่อมั่นรัฐบาลทหารมั่นคงกว่าที่ผ่านมา จี้ทุกภาคส่วนเร่งผลักดันคลอดกฎหมายขายตรง
ดร.กัมปนาท บุญราศรี ประธานบริษัท บริษัท ไอยรา แพลนเน็ต จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันการเมืองมีความชัดเจนแล้ว ประเทศไทยมีรัฐบาลใหม่ที่ก่อนตั้งอย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้บรรยากาศในการทำธุรกิจดีขึ้น ประชาชนมีความเชื่อมั่นและกล้าที่จะจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามยังไม่เห็นความซื้อง่ายขายคล่อง ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการในการส่งเสริมการเติบโตของภาคธุรกิจตลอดจนส่งเสริมนโยบายการลงทุนโดยเฉพาะการลงทุนของต่างชาติ
"การเมืองเหตุการณ์สงบเรียบร้อยแล้ว ทุกวันนี้คนทำธุรกิจ ขายตรงเพื่อเป็นทางเลือก ถ้าผู้บริโภคมีกำลังซื้อและรัฐบาลต้องมีมาตรการเข้ามากระตุ้น แล้วต้องมีนโยบายส่งเสริม โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการส่งออก"
ประธานไอยรา กล่าวว่า ในส่วนของบริษัทเอง ต่อจากนี้ไปจะเน้นหนักด้านการทำเทรนนิ่ง มีการสอนเปิดวิสัยทัศน์ สอนให้สมาชิกกระจายการทำงาน อีกทั้งออกสินค้าใหม่ๆในหมวดสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันเพื่อรองรับการเติบโตของจำนวนสมาชิก และพยายามเปิดตลาดใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับธุรกิจมากขึ้น
ด้านนายใจกล้า กาดำดวน รองประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท รมิตา เฮลธ์แอนด์บอวดี้ จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาขายตรงค่ายเล็กมีผลกระทบอย่างมากต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความผันผวน ประชาชนขาดความมั่นใจไม่กล้าจับจ่าย ดังนั้นในเมื่อปัจจุบันประเทศไทยมีรัฐบาลใหม่อย่างชัดเจนแล้ว สิ่งที่อยากให้รัฐบาลใหม่เร่งทำเป็นอันดับแรกคือการเรียกคืนความเชื่อมั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเชื่อมั่นของกลุ่มประเทศ AEC
"อยากให้รัฐบาลมีนโยบายด้านการเรียกคืนความเชื่อมั่นในกลุ่มประเทศ AEC อาจเป็นลักษณะโรดโชว์ร่วมกับนักธุรกิจไปตามประเทศต่างๆ เพราะที่ผ่านมาประสบปัญหาเวลาไปขยายธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งคู่ค้าก็แสดงความเป็นห่วงว่าสถานการณ์ทางการเมืองของเรายังไม่มีความแน่นอน นอกจากนี้ ประเทศไทยมีความได้เปรียบชาติอื่นอยู่แล้วในหลายด้านแต่ปัจจุบันมีหลายประเทศในกลุ่ม AEC เริ่มกีดกันทางการค้า ดังนั้นหากมีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเดินทางไปเจรจา เชื่อว่าจะลดปัญหาต่างๆ ทำให้การขยายธุรกิจมีความราบรื่นขึ้น"
เช่นเดียวกับนายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยเฮลท์ กรุ๊ป กล่าวว่า รัฐบาลใหม่ควรออกมาตรการเรียกความเชื่อมั่นจากต่างชาติ อาจเป็นลักษณะของการส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้ต่างชาติเข้ามาไม่ต้องหวาดกลัว ส่วนบรรยากาศของการทำธุรกิจจากนี้ไปคาดว่าจะมีความคึกคักมากขึ้น แต่ละบริษัทจะกล้าแอกทีฟตัวเองมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะเห็นบรรยากาศการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะการออกโปรโมชั่นต่างๆ มาขับเคี่ยวกัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทุกค่ายต่างชะลอเพื่อดูความชัดเจน
"ในส่วนของไทยเฮทธ์เองมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว จากนี้ไปก็เตรียมพร้อมในการจัดโปรโมชั่น 3-4 เดือนที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเคเบิ้ลทีวีที่เป็นช่องทางหลักของเราโดนกระทบ แต่ปัจจุบันและในอนาคตจะส่งผลดี เพราะคนที่ไม่พร้อมถูกคัดออกไป ดังนั้นเราก็ยังคงเดินไปในแนวทางที่เราถนัดและมีความพร้อม"
นายพีรพงษ์ หลังปูเต๊ะ กรรมการบริหาร บริษัท แฮปปี้เอ็มพีเอ็ม จำกัด กล่าวว่า การมีรัฐบาลใหม่ในครั้งนี้จะสร้างความเชื่อมั่นทางธุรกิจและการลงทุนเพราะมีความชัดเจนมากกว่าในทุกครั้งที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าทุกคนมีความเชื่อมั่นในรัฐบาลชุดนี้มากในการกำหนดนโยบายทำได้เร็วไม่ต้องกังวล
"ในส่วนของภาคธุรกิจขายตรงเห็นการทำงานของ สคบ.มีการแก้กฎระเบียบในหลายๆ ส่วน อยากให้ท่านรัฐมนตรีที่ดูแลในส่วนนี้เข้ามาดูราบละเอียดที่ทาง สคบ.เสนอไปเพื่อที่จะคลอดกฎหมายที่สำคัญๆ ออกมายังคับใช้ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมธุรกิจ หรือการป้องกันปราบปรามผู้กระทำผิด"
นายพีรพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ในอดีตมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอยู่บ่อยครั้ง ขายตรงในสายตาของทุกรัฐบาลที่ผ่านมาเป็นเหมือนหน่วยเล็กๆ ที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจ นโยบายต่างๆ กฎหมายต่างๆ จึงไม่มีความคืบหน้า ซึ่งตนหวังว่า 1 ปี นับจากนี้ไปจะเห็นความเปลี่ยนแปลงทางด้านการผลักดันกฎหมายของหน่วยงานทีเกี่ยวข้อง
"นาทีนี้เป็นโอกาสทองของภาคธุรกิจขายตรง ทุกสมาคม ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรหันมาร่วมมือกันในส่วนที่จะต้องช่วยกันผลักดันกฎหมาย หรือข้อบังคับต่างๆ ให้ออกมาบังคับใช้ แต่ทุกคนต้องร่วมมือกัน" นายพีรพงษ์ กล่าว