- Details
- Category: ขายตรง
- Published: Friday, 16 May 2014 11:09
- Hits: 4841
'มาร์เวลแมกซ์'แย้มแผนเจาะตลาดขายตรงแดนมังกร
บ้านเมือง : สุภพงษ์ เทียนสี/รายงาน
หมัดเด็ด'มาร์เวลแมกซ์'วางไทยสู่ฮับขายตรงอาเซียน ประกาศลั่นเตรียมความพร้อมเคลื่อนทัพสู่แผ่นดินใหญ่ โชว์ความมั่นคงบริษัทแม่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงก้าวสู่ปีที่ 3 เฟ้นหา ไอดอลผ่านกิจกรรมโซเชียล ปูพรมตลาดออนไลน์สร้างเลือดใหม่ ก่อนนำเข้าระบบ ‘พาวเวอร์แมกซ์’พัฒนาสู่นักธุรกิจเครือข่ายมืออาชีพรุ่นใหม่ที่พร้อมโกอินเตอร์
นายพัฒนศักดิ์ ดิษฐาน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาร์เวลแมกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทเปิดดำเนินธุรกิจในระบบเครือข่ายขายตรงหลายชั้นในประเทศไทยเป็นเวลากว่า 2 ปี บริษัทกำลังอยู่ในช่วงการวางรากฐานในหลายๆ ด้าน เพื่อเตรียมความพร้อมในการบุกตลาดทั้งภายในประเทศไทยและประเทศในแถบอาเซียน แม้จะสังเกตได้ว่าประเทศไทยเป็นตัวเลือกอันดับแรกของบริษัทขายตรงข้ามชาติที่จะขยายสาขาเข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพราะความพร้อมหลายด้านของไทย แต่สำหรับมาร์เวลแมกซ์มีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บริษัทแม่เลือกไทยเป็นหัวหอก นั่นเพราะบริษัทวางแผนที่จะรุกคืบเข้าไปทำธุรกิจขายตรงในแผ่นดินใหญ่ สาธารณรัฐประชาชนจีน
"เป้าหมายของเราคือเข้าสู่จีน แต่เงื่อนไขคือการเข้าจีนได้ โดยเฉพาะต้องมีโรงงานเป็นของตัวเองที่จีน ประการที่สอง บริษัทต้องเปิดดำเนินธุรกิจด้านนี้มาแล้ว 3 ปี ก่อนจะเข้าไปเปิดที่จีน สามต้องมีเงินการันตีกับรัฐบาลจีน 500 ล้านหยวน หรือ 2,000 ล้านบาท กฎกติกาที่จีนค่อนข้างเข้มข้น ตอนนี้ที่นั่นมีไลเซนส์แค่ 40 กว่าใบเท่านั้น บริษัทไหนกล้าที่จะเข้าไปลงทุนขนาดนี้ เงินก้อนนี้คือเงินวาง ดึงออกไม่ได้ไม่ใช่แค่โชว์ว่ามีเงินเฉยๆ เขาให้วางไว้จนกว่าคุณจะปิดกิจการ กรณีคุณไม่จ่ายคอมมิสชั่น เขาจะดึงเงินนี้ออกไปจ่าย"
ปัจจุบันมาร์เวลแมกซ์มีโรงงานผลิตในประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่เงินทุนมหาศาลจากนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงบนเกาะฮ่องกงโดย บริษัท มาร์เวลแมกซ์ โฮลดิ้งกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ในขณะที่มาร์เวลล์แมกซ์ประเทศไทย เปิดดำเนินธุรกิจขายตรงเป็นปีที่ 2 เหลืออีก 1 ปีจะครบตามข้อกำหนดของจีนในการเข้าไปจดทะเบียนขอไลเซนส์ในการทำขายตรงในจีนได้
"เรามีบริษัทในเครือ 5 บริษัท 3 บริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เราเป็นบริษัทน้องใหม่ที่เปิดคู่กัน มาร์เวลแมกซ์ฮ่องกงเปิดแล้วแต่ยังไม่เปิดดำเนินธุรกิจ เหตุผลที่ยังไม่ดำเนินธุรกิจเพราะเราต้องการใบอนุญาตที่จีนก่อน เหตุผลที่เราเปิดที่จีนก่อนเพราะไม่อย่างนั้นคนฮ่องกงจะไปเอายอดที่จีนก่อน สุดท้ายเวลาเราขอไลเซนส์ที่จีน เราจะขอยาก แต่เปิดให้เห็นว่าเรามีบริษัทแม่ ขณะที่อีก 3 บริษัทในเครือที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ คือ LO HONG KA (โหลฮังก้า) เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงบริษัทหนึ่งในเครือมาร์เวลแมกซ์ ขายสินค้าของโรงงานในเครือทั้งหมด มี 200 สาขาในฮ่องกง สินค้าเช่นรังนกธรรมชาติแท้ 100% อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ตังถั่งเช่า และอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีธุรกิจคาร์แคร์และอู่บริการรถยนต์ในมีชื่อเสียงบนเกาะฮ่องกง, ธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์, ธุรกิจอัญมนี เป็นต้น"
สำหรับเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้ง ต้องการให้การทำเครือข่ายในประเทศไทยมีความถูกต้อง และมาตรฐานทุกอย่าง นโยบายการบริหารธุรกิจขายตรงในประเทศไทยนั้นสามารถดำเนินธุรกิจไปได้โดยไม่ต้องรอให้มีกำไรแล้วเอาไปเปิดอีกประเทศหนึ่ง โดยปัจจุบันบริษัทมีสาขาที่ประเทศพม่าแล้ว แต่ยังไม่พร้อมในด้านบุคลากร จึงยังไม่เปิดดำเนินการ ส่วนสาขาที่ฮ่องกงนั้น บริษัทเปิดในลักษณะเป็นโชว์รูม แตกต่างจากประเทศไทยที่เปิดทำธุรกิจขายตรงอย่างจริงจัง โดยบริษัทได้เตรียมกลยุทธ์ในการเดินตลาดในประเทศไทยเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า สิ่งที่บริษัทพยายามทำคือ การสร้างระบบที่เริ่มต้นตั้งแต่งานขายบวกขยายองค์กร โดยจะสร้างกลุ่มใหม่ขึ้นมา แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่องทางการตลาดออนไลน์นั้น ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจนไม่สามารถมองข้ามได้ แต่ทำอย่างไรจึงจะสามารถนำเอามาผนวกให้เข้ากับระบบงานออฟไลน์แบบขายตรงดั้งเดิมได้
"กลยุทธ์รูปแบบเครือข่ายปรับไปเยอะมาก ยุคนี้ไม่ใช่การชวนคนไปฟังประชุมในโรงแรม สร้างยอดขายจากการประชุมยาก คนที่เป็นผู้นำในปัจจุบันเขามาไกลเกินกว่าจะไปทำงานพื้นฐาน ผู้นำกลุ่มนี้ใหญ่มาก ทำให้สุดท้ายเราไม่มีมดงานเอ็มแอลเอ็มจริงๆ ที่เหลือเป็นลูกค้าเลย ส่วนบริษัทขายตรงก็ใช้พีอาร์ขายของ เอายอดมาแจงในระบบ"
รูปแบบการตลาดออนไลน์ของมาร์เวลแมกซ์ จะมีทีมงานที่ครีเอทในส่วนของคอนเทนต์ต่างๆ ซึ่งจะมีเนื้อหาที่ออกมาจากส่วนกลาง กิจกรรมที่สื่อออกไป ไม่ว่าจะผ่านเฟซบุ๊ค ยูทูบ ไลน์ เป็นต้น จะสื่อสารกันเองระหว่างกลุ่ม สิ่งนี้จะทำให้เกิดเน็ตไอดอล และการสร้างกระแสในออนไลน์จะทำให้เกิดการขายสินค้า คนขายเกิดรายได้ จากนั้นจึงเริ่มกระบวนการประชุมหรือ โอพีพี แล้วนำระบบสู่การพัฒนาผู้นำต่อไป
"เราจะทำโอพีพีจากคนที่มียอดซื้อ 5,000 บาทขึ้นไป ผมจะเปิดรอบละ 30 คนก็พอ ผมไม่จำเป็นต้องปิดไดมอนด์ เขาจะมองแล้วว่าซื้อเท่าไหร่ถึงจะขึ้นตำแหน่งนี้ คือ สมมุติ 100 ขวด ปกติเขาก็ขายได้อยู่แล้ว แต่เราจะมีกติกาเลยว่า คุณห้ามขายต่ำกว่าราคาสมาชิก ราคาบนอินเตอร์เน็ตต่ำที่สุดคือ ราคาสมาชิก ฉะนั้นขบวนการขายตัดราคาจะไม่เกิด"
นายพัฒนศักดิ์ ยอมรับว่า กลยุทธ์นี้ไม่ตอบโจทย์กลุ่มแม่ทีมเก่าที่ต้องการรายได้เดือนละแสนหรือ 3 เดือนล้าน คนที่จะเติบโตไปพร้อมบริษัทต้องมีการปรับตัว ในขณะที่บริษัทเองพยายามปรับรูปแบบเพื่อให้เข้ากับวัฒนธรรมและนิสัยใจคอของคนไทยเช่นเดียวกัน เช่น รูปแบบการตลาด และลูกเล่นต่างๆ ส่วนกฎและกติกาเป็นสิ่งที่ต้องยึดถืออย่างเคร่งครัด
"สิ่งที่เราคิดอาจจะหลุดกรอบการปั้นยอดบนเครือข่าย ให้เราคิดว่าเราใส่เสื้อตัวเดิม ฟอร์แมตก็ยังเป็นแบบเดิม บางทีเราใส่เสื้อตัวใหม่ มุมมองมันจะกว้างขึ้น แบรนด์สินค้าที่เราจะสร้างคือ อีสอีซี่ คนอาจไม่ได้มองว่าเป็นขายตรง ถ้าเราเปิดหลังบ้านก่อนเด็กเขาไม่เอา วันนี้เราฉีกออกมาก่อน จัดหน้าบ้านสวยๆ ตอนนี้อยู่ในช่วงการวางแผน เรามีเวลา ซีอีโอบอกว่าทุกอย่างคือทำตามสเต็ป เขาลงทุนจากต่างชาติ ถ้าพลาดคือพลาดหมด"
ด้านกลยุทธ์ของไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ บริษัทมีการออกสื่อ เช่น โทรทัศน์ดาวเทียม โดยมองพันธมิตรที่เป็นรายซึ่งมีเรตติ้ง ทำกิจกรรมทางการตลาดแล้วได้ฟีดแบ็กกลับมา ส่วนไตรมาสที่ 3 อาจเป็นด้านการจับมือร่วมทำกิจกรรมอย่างจริงจังกับกลุ่มต่างๆ เช่น รายการแข่งขันกีฬา เป็นต้น
"เราเน้นสร้างการจดจำของแบรนด์สินค้า ไม่ใช่แบรนด์ของบริษัท ต่อไปคือเข้าระบบพาวเวอร์แมกซ์ คุณใช้สินค้าเสร็จ จะเข้าสู่ระบบสุดท้ายทั้งอีสอีซี่ มาร์เวลแมกซ์ มันคือ พาวเวอร์แมกซ์ ต่อไปไม่ต้องบอก คนเขารู้แล้ว ผมไม่ใช้มุมขายตรงแต่ฉีกแนวการตลาดเลย เล่นกับมาร์เก็ตแชร์ที่ใหญ่ขึ้น" นายพัฒนศักดิ์ กล่าวในที่สุด