- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Friday, 10 November 2017 11:21
- Hits: 2326
ส่งออกข้าว 10 เดือนพุ่ง 27%คาดสิ้นธันวาฯขายทะลักดันทั้งปียอดแตะ 11 ล้านตันทุบสถิติ
ไทยโพสต์ : สนามบินน้ำ * พาณิชย์ ฟุ้ง 10 เดือนไทยส่งออกข่าว 9.58 ล้านตันเพิ่มขึ้นกว่า 27% คาดอีก 2 เดือนที่เหลือส่งออกได้เดือนละ 7-8 แสนตัน ลุ้นทั้งปียอดแตะ 11 ล้านตันทุบสถิติ เผยราคาข้าวเปลือกมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รายงานข่าวจากกระ ทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า การส่งออกข้าวไทยในช่วง 10 เดือน ของปี 2560 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-25 ต.ค.นี้ มีปริมาณส่ง ออก 9.58 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 27.22% มีมูลค่า 4,154 ล้าน เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22.75% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 1.41 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.96% โดยราคาเฉลี่ยส่งออกข้าวไทย ช่วง 10 เดือนอยู่ที่ 437 เหรียญ สหรัฐต่อตัน ลดลง 3.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่ราคาส่งออกข้าวเฉลี่ยอยู่ที่ 449 เหรียญสหรัฐต่อตัน
ทั้งนี้ ในช่วง 2 เดือนที่เหลือ (พ.ย.-ธ.ค.) หากสามารถส่งออกข้าวได้เดือนละ 7-8 แสนตัน จะทำให้ทั้งปี 2560 ไทยส่งออกข้าวได้ปริมาณสูงถึง 11 ล้านตัน และจะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่มีการส่งออกข้าวมา และเป็นไปตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้
สำหรับ สถานการณ์ราคาข้าวเปลือกได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่2 พ.ย.2560 ข้าวหอมมะลิราคาเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 1.29 หมื่นบาท, ข้าวเหนียว 10% เมล็ดยาว ตันละ 9,150 บาท, ข้าวเจ้า 5% ตันละ 7,550 บาท, ข้าวปทุมธานี ตันละ 8,900 บาท อย่างไรก็ตาม ข้าวหอมมะลิและข้าวปทุมธานีราคาปรับสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนราคาข้าวชนิดอื่นที่ปรับตัว ลดลงเล็กน้อย อาทิ ข้าวเหนียว เนื่องจากยังมีสต๊อกข้าวของปีที่ผ่านมาอยู่มาก
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กำ หนดแนวทางและมาตรการด้าน การตลาดช่วยเหลือเกษตรกรผู้ ปลูกข้าว ปีการผลิต 2560/61 เพื่อดูดซับผลผลิตส่วนเกินในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากไว้แล้ว เพื่อยกระดับราคาข้าวเปลือกให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร ซึ่งมีแผนทั้งด้านการลดต้นทุน การให้สินเชื่อชะลอการขาย การช่วยเหลือค่าฝากเก็บ ค่าปรับปรุงคุณภาพข้าว การจัดตลาดนัดข้าวเปลือกเพื่อให้เกษตรกรมีทางเลือกในการขายข้าว และการหาตลาดรอง รับผลผลิตข้าวที่กำลังออกสู่ตลาด
โดยในด้านการลดต้น ทุน ได้จัดทำแอปพลิเคชันจอง รถเกี่ยวร่วมกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ (องค์กรมหาชน) หรือ GISTDA เพื่อจัดหารถเกี่ยวให้เกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตออกมามาก ช่วยให้ชาวนาเกี่ยวข้าวได้ครบอายุตามพันธุ์ ได้ข้าวคุณภาพดีขายได้ราคาดี
"มาตรการให้สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี โดยให้เก็บข้าวเปลือกเข้ายุ้งฉาง รอราคาดีแล้วค่อยขาย ซึ่งให้ค่าฝากเก็บ 1,500 บาทต่อตัน, ช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้เกษตรกรไร่ละ 1,200 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ หรือไม่เกิน 1.2 หมื่นบาทต่อครัวเรือน, ให้สิน เชื่อแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมหรือแปรรูปข้าวเพื่อ สร้างมูลค่าเพิ่มในอัตราดอก เบี้ยเพียง 1%, ชดเชยดอกเบี้ย 3% ให้ผู้ประกอบการโรงสีเก็บสต๊อก
ปลื้มเจรจา GI ขายข้าวได้ 70 ล.
ไทยโพสต์ : สนามบินน้ำ * กรมทรัพย์สินทางปัญญาโว ผู้ผลิตข้าว GI เข้าร่วมเจรจาธุรกิจขายข้าวได้กว่า 70 ล้านบาท เร่งขยายตลาดพร้อมผลักดันผู้ผลิตจดทะเบียนเพิ่มขึ้น
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า หลังจากที่กรมได้นำผู้ประกอบการที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของไทย 5 รายจาก 3 สินค้า ได้แก่ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้, ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ และข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง เข้าร่วมเจรจา จับคู่ธุรกิจสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวเพื่อเร่งรัดการส่งออกเมื่อเร็วๆ นี้ พบมียอดสั่งซื้อข้าว GI ไทยมูลค่ากว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณกว่า 70 ล้านบาท
"ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของกรมในการส่งเสริมสนับสนุนสินค้า GI ไทยออกไปสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าเกษตรที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างข้าว โดยการเจรจาซื้อขายในงานนี้เพียงงานเดียว มียอดขายข้าว GI ไทยทั้ง 3 ประเภทรวมกันมากถึง 70 ล้านบาท ซึ่งกรมยังคงเดินหน้าผลักดันให้สินค้า GI ไทยเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป"
ทั้งนี้ กรมจะเดินหน้าผลักดันให้ผู้ผลิตสินค้า GI มีการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI ให้ได้เพิ่มขึ้น และผลักดันให้เข้าสู่ระบบการตรวจสอบย้อนกลับ เพราะสามารถช่วยสร้างมูลค่าให้กับสินค้าได้เพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ที่เดิมที่ขายข้าวเพียงกิโลกรัม (กก.) ละ 40 บาท และเมื่อขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI ทำให้ขายได้ราคาสูงขึ้นถึง กก.ละ 100 บาท.