- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 14 September 2017 19:06
- Hits: 9749
'นิธิฟู้ดส์'ลุยตลาดส่งออก ทุ่ม 20 ล้านสร้างโรงงานใหม่ ตั้งเป้ายอดขายรวม 500 ล้านบาทในปี 2020
บริษัท นิธิฟู้ดส์ เข้ารับรางวัล PRIME MINISTER’S EXPORT AWARD 2017 สาขาแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม พร้อมมองต่างประเทศยังคงเป็นโอกาสของสินค้ากลุ่มอาหารไทย เนื่องจากมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์และได้รับความนิยม จึงเตรียมขยายตลาดสู่ต่างประเทศมากขึ้นจากเดิมมีส่วนแบ่งการตลาดเพียงร้อยละ 10 ให้ได้ยอดขายรวม 500 ล้านบาทในปี 2020 ขณะเดียวกัน ทุ่มงบประมาณ 20 ล้านบาทสร้างโรงงานผลิต พื้นที่ 1,500 ตารางเมตรรองรับการขยายตัวและเพิ่มกำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 900 ตันต่อปี พร้อมคิดค้นสูตรใหม่สู่การเป็นวัตถุดิบปรุงขนมหวาน เน้นกลุ่มเป้าหมายอายุ 9-12 ปีที่เริ่มมีทักษะการทำอาหาร
นายสมิต ทวีเลิศนิธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิธิฟู้ดส์ จำกัด กล่าวภายหลังการเข้ารับรางวัล PRIME MINISTER’S EXPORT AWARD 2017 สาขาแบรนด์ไทยยอดเยี่ยมจากการส่งเครื่องปรุงรส “ตราพ็อคเก็ตเชฟ” เข้าประกวดว่า รู้สึกภาคภูมิใจมากกับรางวัลนี้เพราะจะเป็นเครื่องหมายที่สามารถการันตีได้ว่าสินค้าของบริษัทมีคุณภาพซึ่งจะทำให้ลูกค้ามั่นใจในสินค้าของบริษัทมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันมองว่าตลาดอาหารในต่างประเทศยังมีโอกาสเติบโตอีกมากสำหรับสินค้าไทย เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีภูมิปัญญาด้านการปรุงอาหารจนทำให้รสชาติติดอันดับต้นๆของโลกและเป็นที่รู้จักแพร่หลาย แต่ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการว่าจะมีวิธีการนำเสนอและสร้างสรรค์สินค้าอย่างไรให้สามารถตอบสนองผู้บริโภคได้ ทางบริษัทจึงคิดค้นผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นมาเพราะไม่เพียงแต่จะสามารถลดปัญหาด้านแรงงานที่เกิดจากการลาออกหรือย้ายสถานที่ทำงานของนักปรุงที่ชำนาญการทำให้ต้องฝึกฝนนักปรุงใหม่ๆมาแทนที่ซึ่งจะทำให้รสชาติไม่คงเดิม ยังทำให้สามารถควบคุมมาตรฐานของรสชาติ ควบคุมต้นทุน รวมถึงคิดค้นสูตรใหม่และยังเกิดความสะดวกต่อผู้บริโภคอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารที่ใช้ผลิตภัณฑ์เพราะเพียงใช้ผลิตภัณฑ์นี้ก็จะทำให้รสชาติอาหารอร่อยถูกปาก ประกอบกับการให้ความสนใจเข้าครัวของกลุ่มเด็กเล็กจึงวางแผนการตลาดโดยเน้นกลุ่มเป้าหมายสู่เด็กอายุ 9-12 ปี ที่เริ่มมีทักษะในการทำอาหารโดยได้รับคำแนะนำจากผู้ปกครอง
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาสินค้าได้มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับกระบวนการผลิต และการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสารกับผู้บริโภคจึงได้ลงทุนเพิ่มในการพัฒนาซอฟท์แวร์และการจัดการองค์กรซึ่งดำเนินการควบคู่ไปกับแบบออฟไลน์ รวมถึงแผนการสร้างโรงงานผลิตและบรรจุสินค้าแห่งใหม่ในปี 2561 พื้นที่ 1,500 ตารางเมตร ซึ่งจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ไม่ต่ำกว่า 900 ตันต่อปี โดยใช้งบประมาณกว่า 20 ล้านบาท ส่วนการขยายตลาดสู่ต่างประเทศนั้นได้ร่วมกับตัวแทนจำหน่ายในประเทศต่างๆ ทั้งกลุ่มอาเซียน จีน ยุโรป โดยเน้นการพัฒนาสูตรสินค้าและบรรจุภัณฑ์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของแต่ละประเทศโดยจะเริ่มทำการส่งออกมากขึ้นในปีนี้เพื่อให้ได้สัดส่วนที่มากขึ้นจากเดิมที่มีเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น โดยตั้งเป้ายอดขายรวมทั้งในและต่างประเทศไว้ที่ 500 ล้านบาท ในปี 2020
ทั้งนี้ พ็อคเก็ตเชฟ สินค้าที่ได้รับรางวัล มีแนวคิดมาจาก 2 อย่างคือ พ็อคเก็ตที่เปรียบเสมือนกระเป๋าใบเล็กพกพาง่าย และเชฟซึ่งเป็นผู้สร้างสรรค์เมนูอาหาร ซึ่งหากรวมกันแล้วจะหมายถึงการมีเชฟอยู่ในกระเป๋าของคุณที่สามารถเนรมิตอาหารอร่อยได้อย่างง่ายดาย โดย มีด้วยกัน 8 สูตร อาทิ สูตรกระเทียม ข้าวผัดกุ้ง ต้มยำ แกงเขียวหวาน
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตจะพัฒนาสูตรเพื่อให้สามารถใช้เป็นวัตถุดิบในการปรุงของหวาน อาทิ วุ้น พุดดิ้ง หรือ เค้กรวมถึงแป้งประกอบอาหารอื่นๆ เพื่อให้ครอบคลุมพฤติกรรมการบริโภคในตลาดอีกด้วย
'Nithi Foods' Goes through Export Market, ฿20M Invested for a New Factory,Targets Total Sales ฿500M by 2020
Nithi Foods Company Limited is awarded the PRIME MINISTER’S EXPORT AWARD 2017 for the Best Thai Brand. Seeing that foreign market still is an opportunity for Thai food products because of its unique flavor and popularity, it is preparing to expand into overseas markets, from the market share of only 10% to total sales of 500 million baht by 2020, whilst the budget of 20 million baht is set aside to build a 1,500-square-meter factory to support the expansion and increase the production capacity of at least 900 tons per year. In addition, new formulas are devised as dessert ingredients, targeting at 9-12 year olds who start cooking activities.
Mr.Smith Taweelerdniti, Managing Director of Nithi Foods Company Limited, after receiving the PRIME MINISTER’S EXPORT AWARD 2017 for the Best Thai Brand of “Pocket Chef” seasoning, said that he is very proud of this award because it is a guarantee sign that our products are of a quality making the customers more confident in his products. At the same time, he sees that the overseas food market still has a huge growth opportunity for Thai products, as Thailand is a country with the wisdom of cooking and making it the world’s top-rated and well-known tastes. However, it depends on the way the product is presented and created by an entrepreneur how to satisfy a consumer. The company’s product innovation not only reduces the labor-induced problems of resignation or displacement of skilled cooks, resulting in unstable tastes by trainee cooks, but also makes it possible to control the standard of taste, costs, invent new formulas, and provide convenience to consumers. It can also reduce the cost to restaurant operators, because simply using this product, the food taste will become delicious. Looking on the kid’s cooking trend, the marketing plan focuses on target children aged 9-12 who are initially skilled in cooking with advice from their parents.
In addition, for product development, the technology has been adapted to the production process and communication through online channels to facilitate communication with consumers, thus investing in software development and organization management are conducted in parallel offline. This includes a plan to build a new manufacturing and packaging plant in 2018 with an area of 1,500 square meters, which will increase production capacity to at least 900 tons per year, with a budget of over 20 million baht. For overseas market expansion, it has partnered with dealers in various countries, including ASEAN, China, Europe, focusing on the development of product formulas and packaging to suit the behavior of each country. It will begin to export more this year to achieve a higher proportion, from the original just 10%. Domestic and foreign sales are set to reach 500 million in 2020.
The award-winning Pocket Chef has two concepts. The first concept is the “Pocket”, which is like a small and easy-to-carry bag, and the second one is the “Chef” who creates the menu. When combined, it means to have a chef in your pocket that can make delicious food easily with 8 recipes such as garlic, shrimp fried rice, spicy soup, green curry, and so on.
However, in the future, other formulas will be developed as raw materials for desserts such as jelly, pudding or cake, as well as other cooking flour, to cover consumption behaviors in the market.