- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 29 July 2017 14:24
- Hits: 2559
'สนธิรัตน์'หนุนอีสานเหนือ1 เชื่อม เอสเอ็มอี.ไทย-อาเซียน อุดรนำทัพอีสานเหนือ 1 สานศักยภาพดึงนักลงทุนข้ามชาติ
'สนธิรัตน์'แนะจับคู่ธุรกิจ เอสเอ็มอี.กับกลุ่มอนุภาคลุ่มน้ำโขง กงสุลจีนหนุนนักลงทุนเข้าไทย เมื่อ 24 ก.ค.กลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนบน 1 ซึ่งประกอบด้วยอุดรธานี หนองคาย เลย หนองบัวลำภูและบึงกาฬ ได้ร่วมกันจัดงาน “เปิดประตูอีสานตอนบน 1 โอกาสของการค้าการลงทุน มุ่งสู่ไทยแลนด์ 4.0”ขึ้นที่จังหวัดอุดรธานี
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้กล่าวในโอกาสที่เดินทางมาเป็นประธานเปิดงานว่า กลุ่มจังหวัดอีสานตอนบน 1 นี้นับเป็นกลุ่มจังหวัดที่มีศักยภาพสูง มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน มีเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน เหมาะกับการใช้เป็นฐานการลงทุนเพื่อผลิตและค้าขายกับกลุ่มประเทศในอนุภาคลุ่มน้ำโขง
“นี่เป็นโครงการแรกที่เป็นรูปธรรม สอดคล้องกับนโยบายของท่านายกรัฐมนตรีที่ต้องการเห็นเศรษฐกิจในภูมิภาคเข้มแข็ง เป็นโครงการนำร่องที่นำเอาศักยภาพของภูมิภาคมาเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทุกวันนี้ การพัฒนาของประเทศไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพเช่นในอดีต แต่ละภูมิภาคต้องร่วมกันพัฒนา ไม่จำเป็นต้องรอนโยบายจากส่วนกลางอีกต่อไป”รมช.พาณิชย์กล่าว
นายสนธิรัตน์ได้แนะนำว่า จากการที่กลุ่มอีสานเหนือ 1 อยูในทำเลที่ตั้งติดกับประเทศเพื่อนบ้าน สะดวกต่อการไปมาหาสู่ การค้าการลงทุนจึงควรร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เราควรที่จะจับมือเป็นพันธมิตรกับเพื่อนบ้านแบบโตไปด้วยกัน โดยเฉพาะในกลุ่ม เอสเอ็มอี.ของเราและเพื่อนบ้าน ไม่ควรที่จะมองว่า เราเป็นไทย เขาเป็นลาว เป็นเวียดนาม เป็นกัมพูชา แต่อยากให้มองว่า เราเป็นพันธมิตรร่วมกันค้าร่วมกันขายควรที่จะนำเอาศักยภาพของแต่ละประเทศมาผสมผสานกัน เพื่อเป็นแรงผลักดันให้เกิดการ พัฒนาทั้งในระดับอนุภูมภาคและระดับภาค เพราะเราเป็นอาเซียน
นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้กล่าวถึงความพร้อมของกลุ่มอีสาน เหนือ 1 ว่า ทุกจังหวัดมีความเข้มแข็ง อุดรธานีมีศักยภาพด้านการค้าการลงทุน มีเป้าหมายที่การพัฒนาเมืองในเชิงรุก เป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้า หนองคาย มีข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ เป็นประตูการค้าสู่กลุ่มอินโดจีน มีโครงขายคมนาคมเชื่อมโยง เลยก็มีศักยภาพด้านการค้าการลงทุน มีด่านถาวร และมีการพัฒนาให้เป็นจังหวัดต้นแบบโลจิสติกส์ ในขณะที่หรองบัวลำภูมีความพร้อมในแง่ของต้นทุนในการทำธุรกิจเพื่อรองรับการลงทุน มีผลิลผลทางการเกษตรที่เป็นต้นทุนการผลิตและแหล่งท่องเที่ยว ส่วนบึงกาฬาก็มีความเข้มแข็งในภาคเกษตรโดยเฉพาะพืชเศรษฐกิจอย่างยางพาราจนสามารถที่จะขับเคลื่อนไปเป็นศูนย์กลางยางภาคของภาคอีสานได้
“ทั้ง 5 จังหวัดในกลุ่มอีสานเหนือ 1 ต่างก็มีความเข้มแข็งอยู่ในตัว เรามีความพร้อมที่จะรองรับการค้าการลงทุนของนักลงทุนและนักธุรกิจ ทั้งไทยและต่างประเทศได้เป็นอย่างดี ยิ่งเมื่อเราผนึกกำลังเป็นกลุ่มจังหวัด เรายิ่งมีความเข้มแข็งมากขึ้น”นายชยาวุธกล่าว
ทางด้านนายหลี่ หมิง กัง กงสุลใหญ่ สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดขอนแก่นที่มาร่วมงานพร้อมด้วยนักธุรกิจชาวจีนกลุ่มหนึ่ง ได้กล่าวสนับสนุนการดำเนินของกลุ่มจังหวัดอีสานเหนือ 1 ว่า จากการที่ตนมาประจำอยู่ประเทศไทย และได้ศึกษาข้อมูลด้านการค้าการลงทุนในภาคอีสานทั้งหมดแล้ว ตนเห็นว่า การรวมกลุ่มของ 5 จังหวัดอีสานเหนือ 1 นี้มีความเข้มแข็งและมีความพร้อมสูง นอกจากนี้ นักธุรกิจและนักลงทุนชาวจีนที่เดินทางเข้ามาก็ให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะสินค้าหลายอย่างในภูมิภาคนี้เป็นที่สนใจของตลาดในประเทศจีน