- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 12 July 2017 14:59
- Hits: 2332
ก.พาณิชย์เผยเม็กซิโกเตรียมลดภาษีนำเข้า มองเป็นโอกาสของผู้ส่งออกไทยประเภทอาหาร เกษตรและสุขภาพ
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐบาลเม็กซิโกอยู่ระหว่างพิจารณาลดภาษีนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคที่นำเข้าจากประเทศที่ไม่มีข้อตกลง FTA กับเม็กซิโก เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคที่ประสบปัญหาสินค้าในประเทศราคาสูง โดยกรมฯ ได้สั่งการให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโก ติดตามและรายงานความคืบหน้าในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป
“สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโก รายงานว่า กรรมาธิการ Federal Economic Competition (COFECE) ของรัฐบาลเม็กซิโก ระบุว่า เม็กซิโกจำเป็นต้องลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันแก่ผู้ผลิตต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีและเปิดโอกาสให้ชาวเม็กซิกันมีทางเลือกในการบริโภคเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าพื้นฐานที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน การลดภาษีสินค้านำเข้าจะทำให้ต้นทุนลดลง ทำให้ราคาสินค้าต่ำลงตามไปด้วย”อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกล่าว
จากการวิจัยของ COFECE ระบุว่า ชาวเม็กซิกันมีภาระการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันสูง ดังนั้น รัฐบาลจึงควรปรับลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทที่นำเข้าจากประเทศที่ไม่มีข้อตกลงทางการค้าเสรี (FTA) กับเม็กซิโก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายลดการปกป้องสินค้าในประเทศ เพื่อช่วยให้สินค้าจากนานาประเทศมีโอกาสแข่งขัน ก่อให้เกิดประโยชน์กับผู้บริโภคเม็กซิโก
อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศยกตัวอย่างเพิ่มเติมว่า ในปี 2559 เม็กซิโกนำเข้าเสื้อผ้าที่ทำจากฝ้ายมูลค่าทั้งสิ้น 8.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ พบว่าร้อยละ 78.5 เป็นการนำเข้าจากบังคลาเทศ จีน อินเดีย ไทย กัมพูชา ไต้หวัน เวียดนาม ตุรกี และตูนิเซีย ซึ่งประเทศเหล่านี้ล้วนไม่มีข้อตกลงทางการค้ากับเม็กซิโก จึงต้องเสียภาษีนำเข้าอัตราร้อยละ 45 ในส่วนของสินค้ารองเท้าพบว่าร้อยละ 84 เม็กซิโกนำเข้าจากประเทศที่จ่ายภาษีสูงเช่นเดียวกัน ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม จีนอินเดีย กัมพูชา ไต้หวัน และพม่า ในขณะที่สัดส่วนการนำเข้าจากประเทศที่มีข้อตกลงทางการค้ากับเม็กซิโกซึ่งได้รับสิทธิพิเศษยกเว้นภาษีนำเข้า (ภาษีร้อยละ 0) ยังคงไม่สูงนัก ได้แก่ นำเข้าจากสหรัฐอเมริกาคิดเป็นร้อยละ 3 และการนำเข้าจากอิตาลี สเปน เยอรมนี และโปรตุเกส มีสัดส่วนรวมกันร้อยละ 11 ดังนั้น หากรัฐบาลเม็กซิโกประกาศใช้นโยบายปรับลดภาษีนำเข้าดังกล่าว จะถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะสามารถขยายตลาดเข้าสู่ตลาดเม็กซิโกได้มากขึ้น
นอกจากนี้ จากการหารือระหว่างสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโกกับหน่วยงานด้านการค้าต่างประเทศ การลงทุน และเทคโนโลยีของเม็กซิโก หรือ Mexican Business Council of Foreign Trade, Investment and Technology (COMCE) พบว่า รัฐบาลเม็กซิโกพยายามผลักดันภาคเอกชนให้เพิ่มการค้าการลงทุนกับประเทศในภูมิภาคเอเซียและแปซิฟิก เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่ปัจจุบันมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงและเพื่อลดการพึ่งพาสหรัฐฯ แม้ว่านักธุรกิจเม็กซิโกส่วนใหญ่จะรู้จักและคุ้นเคยในการทำการค้ากับประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี แต่ในขณะเดียวกันประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะไทยเป็นประเทศที่รัฐบาลเม็กซิโกให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง และยินดีให้ความร่วมมือกับฝ่ายไทยในการประชาสัมพันธ์ให้นักธุรกิจเม็กซิโกได้รับทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการสร้างความสัมพันธ์ด้านค้าการลงทุนกับไทย
ทั้งนี้ ไทยได้ดุลการค้ากับเม็กซิโกมาโดยตลอด โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2560 (มกราคม – พฤษภาคม) ไทยได้ดุลการค้ากับเม็กซิโก 959.28 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเม็กซิโกนำเข้าจากไทยมูลค่า 1,209.32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.59 สินค้านำเข้าจากไทยส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และชิ้นส่วน คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และชิ้นส่วน ด้านสินค้าที่ไทยยังมีโอกาสในการเพิ่มการส่งออก ได้แก่ อาหาร เกษตรและสุขภาพ สำหรับสาขาการลงทุนที่น่าสนใจในเม็กซิโก ได้แก่ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ยานยนต์ เครื่องจักรโลหะ อิเลคทรอนิกส์ ท่องเที่ยวและโลจิสติกส์
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย