- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 03 June 2017 07:17
- Hits: 13079
ก.พาณิชย์ จัดงาน Thailand Rice Convention 2017 ยกระดับความเชื่อมั่นให้กับข้าวไทย พร้อมชูนวัตกรรมข้าว...ก้าวต่อไปของข้าวไทย
กรมการค้าต่างประเทศ ก.พาณิชย์ จัดงาน Thailand Rice Convention 2017 ยกระดับความเชื่อมั่นให้กับข้าวไทย พร้อมชูนวัตกรรมข้าว...ก้าวต่อไปของข้าวไทย ระบุช่วยเกษตรกรชาวนาเข้าใจถึงทิศทางการค้าข้าวในตลาดโลกและนโยบายของรัฐ ด้านภาคเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศได้แลกเปลี่ยนความรู้
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การจัดงาน “Thailand Rice Convention 2017” ภายใต้แนวคิด 'RICE PLUS: ข้าวไทย ก้าวใหม่...ด้วยนวัตกรรม' ระหว่างวันที่ 28 - 30 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับและประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง“งาน TRC ในปีนี้ มีผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการค้าข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวจากทั่วโลกกว่า 40 ประเทศ เข้าร่วมงานกว่า 1,000 คน ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในประเทศและต่างประเทศ กลุ่มผู้นำเข้าข้าว ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมข้าว ผู้แทนการค้าจากหน่วยงานภาครัฐในประเทศผู้ซื้อ ผู้ผลิต ผู้ส่งออกที่สำคัญ รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ เกษตรกร และสื่อมวลชน”
พิธีเปิดงาน TRC 2017 เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2560 ได้รับเกียรติจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การค้าข้าวไทยและทิศทางในอนาคต” ซึ่งแขกผู้มีเกียรติได้รับทราบถึงทิศทางและนโยบายของรัฐบาลต่ออุตสาหกรรมข้าวไทยที่มุ่งให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาข้าวคงเหลือในสต็อกของรัฐเป็นลำดับแรกๆ เพื่อลดอุปทานข้าวที่กดทับตลาดและภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาข้าวในสต็อก โดยได้วางกรอบยุทธศาสตร์และแผนการระบายข้าวในสต็อกของรัฐอย่างรอบคอบ และตั้งเป้าหมายที่จะระบายข้าวที่เหลือให้หมดในช่วงของรัฐบาลนี้ เพื่อให้กลไกตลาดกลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
นายกรัฐมนตรีเน้นถึงแนวนโยบายที่จะมุ่งแก้ไขปัญหาข้าวทั้งระบบ ทั้งในด้านการผลิต การค้า และการส่งออก ซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาในบริหารจัดการและความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนผ่านกลไกประชารัฐ โดยในช่วงที่ผ่านมา ภาครัฐได้ร่วมกันจัดทำแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ปรับโครงสร้างการผลิตโดยใช้ตลาดนำ หรือ Demand Driven เพื่อแก้ปัญหาอุปทานส่วนเกิน ส่งเสริมการทำนาแปลงใหญ่เพื่อลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มผลผลิตต่อไร่ การสร้างความเข็มแข็งและอำนาจต่อรองราคาให้เกษตรกรชาวนา ตลอดจนส่งเสริมการจำหน่ายและการประชาสัมพันธ์ข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะข้าวที่มีศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่ม ได้แก่ ข้าวอินทรีย์ ข้าว GI และข้าวสีชนิดต่างๆ ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการตลาดระดับบนและตลาดเฉพาะกลุ่มได้ในราคาที่สูงขึ้น
รวมทั้งสนับสนุนให้มีการเชื่อมโยงวัฏจักรข้าวไทยกับการท่องเที่ยววิถีชุมชน เพื่อให้ผู้บริโภคได้พบปะชาวนาไทยโดยตรง ก่อให้เกิดการกระจายรายได้และพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นอีกทางหนึ่ง และจากสถานการณ์การค้าโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการปรับตัวและสร้างโอกาสทางการค้าให้กับสินค้าข้าวของไทยเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลก ซึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าว คือ “นวัตกรรม” โดยต้องนำเทคโนโลยีและแนวคิดใหม่มาใช้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ ข้าวไทย ท้ายที่สุด เมื่อมีการนำข้าวไปพัฒนาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ความต้องการใช้ข้าวเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่างๆ ก็จะเพิ่มขึ้น ชาวนาก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของรัฐบาลในการพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวคือการยกระดับความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของชาวนาไทยให้ดีขึ้น
ในส่วนของการประชุมสัมมนาวิชาการ มีผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนของไทยและต่างประเทศ ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และมุมมองต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการพัฒนาข้าวในหัวข้อต่างๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ หัวข้อ “แนวโน้มการค้าข้าวโลก” ได้กล่าวถึงปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวกำหนดแนวโน้มการค้าข้าวโลก ได้แก่ อุปสงค์และอุปทาน นโยบายการผลิตและการค้าข้าวของแต่ละประเทศ สภาพแวดล้อมในการเพาะปลูกโดยเฉพาะสภาวะอากาศ สภาพดิน และปริมาณน้ำ ซึ่งมีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หัวข้อ “ทิศทางตลาดข้าว และเกษตรปลอดภัยสู่โลกนวัตกรรม” ได้ชี้ให้เห็นว่าตลาดหลักที่มีการเติบโตของการค้าข้าว ได้แก่ ตลาดแอฟริกาและตะวันออกกลาง เนื่องจากมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นและมีกำลังซื้อมากขึ้น สำหรับในตลาดจีนและฮ่องกง ข้าวหอมมะลิไทยกำลังเป็นที่นิยมและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในขณะที่ประเทศผู้นำเข้าหลัก อาทิ อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ได้ดำเนินนโยบายพึ่งพาตนเองโดยการเพิ่มปริมาณผลผลิตข้าวภายในประเทศให้มากขึ้นเพื่อลดการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังได้มีการแสดงความคิดเห็นในเรื่องการยกระดับอุตสาหกรรมข้าวไทยว่า ทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมข้าวต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้นเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวให้มีความยั่งยืน
และภาครัฐต้องถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีให้แก่เกษตกร ส่งเสริมให้เกษตรกรมีการพัฒนาตนเอง สนับสนุนการสร้างนวัตกรรม และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคมีความตระหนักรู้ในคุณค่าที่หลากหลายของข้าวอย่างต่อเนื่อง และหัวข้อสุดท้าย คือ ‘นวัตกรรมข้าว...ก้าวต่อไปของข้าวไทย’ได้มีการนำเสนอเกี่ยวกับการพัฒนาข้าวไทยอย่างยั่งยืนด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม ทั้งในด้านการปรับปรุงพันธุ์ข้าว การพัฒนากระบวนการและเทคโนโลยีการผลิต การแปรรูปและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีมูลค่าเพิ่มทั้งที่เป็นอาหารและไม่ใช่อาหาร โดยผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวที่มีศักยภาพทางการตลาดในขณะนี้ อาทิ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากน้ำมันรำข้าว และผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
นอกเหนือจากการประชุมทางวิชาการ ยังมีการจัดนิทรรศการ “Rice Plus: ข้าวไทย ก้าวใหม่...ด้วยนวัตกรรม” ณ ลานอีเดน 3 บริเวณชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานอย่างล้นหลาม และนำไปสู่การเจรจาธุรกิจการค้าระหว่างผู้นำเข้าและผู้ส่งออกของไทยด้วย โดยผู้เข้าชมงานทั้งคนไทยและชาวต่างชาติได้สัมผัสมิติใหม่ของข้าวไทยอย่างใกล้ชิด และได้ตระหนักว่าทุกวันนี้ ข้าวไม่ได้เป็นเพียงแค่อาหารจานหลักที่ใช้บริโภคโดยตรงเท่านั้น แต่มีการพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวในรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลายด้วย ทั้งผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์อุปโภค อาทิ เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมความงามและสุขภาพ เวชภัณฑ์และวัสดุวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์
นอกเหนือจาก 2 กิจกรรมหลักดังกล่าวแล้ว กระทรวงพาณิชย์ยังใช้โอกาสนี้พบหารือและเจรจาการค้าระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และผู้บริหารระดับสูงกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าสาธารณรัฐอิรักพร้อมคณะผู้บริหารหน่วยงาน Grain Board ซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้าวของอิรัก เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกันและขยายโอกาสในการส่งออกข้าวไทยไปยังอิรักในอนาคต นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของเวียดนามยังได้เข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และผู้บริหารระดับสูง เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีและสร้างความร่วมมือทางการค้าระหว่างสองประเทศที่มีมายาวนานกว่าทศวรรษให้ยั่นยืนต่อไป
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวปิดท้ายว่า การจัดงาน TRC 2017 นอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นผู้นำด้านการผลิตและการส่งออกข้าวคุณภาพดีในเวทีโลกแล้ว ยังแสดง ให้เห็นถึงศักยภาพในการพลิกโฉมข้าวไทยด้วยงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาข้าวไทยอย่างยั่งยืน
“ผู้เข้าร่วมงานทั้งคนไทยและชาวต่างชาติต่างแสดงความชื่นชมว่าไทยจัดงานครั้งนี้ได้อย่างสมศักดิ์ศรีของผู้นำในวงการค้าข้าวโลก กิจกรรมในงานสะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการของข้าวไทยในด้านต่างๆ ทั้งในเรื่องของสายพันธุ์ข้าว กระบวนการผลิต และการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาพัฒนาต่อยอดให้สินค้าข้าวกลายเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวที่สามารถเพิ่มมูลค่าทางการตลาดได้อย่างมหาศาล ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของข้าวไทยที่จะก้าวต่อไปในอนาคต สำหรับกลุ่มของเกษตรกรชาวนาที่ได้เข้าร่วมงานก็ได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกัน โดยได้รับทราบและเข้าใจถึงทิศทางการค้าข้าวในตลาดโลกและนโยบายการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมข้าวไทยของรัฐบาล เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนากระบวนการผลิตและผลิตข้าวได้ตรงตามความต้องการของตลาดได้ดียิ่งขึ้น”