WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ก.พาณิชย์ เผยไทย-บาห์เรน เร่งขยายการค้าและการลงทุนฉลองครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์ ระบุ 5 ปีที่ผ่านมามีมูลค่าเฉลี่ยร่วมกันปีละ 448 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

      นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 - 26 เมษายน 2560 ได้เข้าร่วมคณะนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) เดินทางเยือนราชอาณาจักรบาห์เรนอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน (เจ้าชายคอลิฟะห์ บินซัลมาน อัลคอลิฟะห์) ในโอกาสครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ไทย-บาห์เรน เพื่อหารือแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ขยายมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและบาห์เรน และแก้ไขปัญหาอุปสรรคระหว่างกัน

      โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือโอกาสสานต่อการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันในทุกมิติที่มีมานานถึง 40 ปี และได้เข้าร่วมหารือทวิภาคีเต็มคณะระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน โดยด้านเศรษฐกิจทั้งสองฝ่ายเห็นว่าการค้าทวิภาคีที่ผ่านมายังคงมีระดับไม่สูงมากนัก แต่ทั้งสองประเทศมีศักยภาพในการขยายการค้าและการลงทุนกันได้อีกมาก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายสามารถใช้จุดแข็งในด้านโครงสร้างทางเศรษฐกิจและทรัพยากร รวมทั้งความได้เปรียบในเชิงที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของตนมาสนับสนุนซึ่งกันและกันได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีปัจจัยเกื้อหนุนคือ การที่บาห์เรนให้ความสำคัญกับไทยในฐานะมิตรประเทศที่สำคัญ

       จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ทั้งสองฝ่ายจะสามารถเป็นประตูการค้าและการลงทุนซึ่งกันและกัน โดยบาห์เรนสามารถเป็นประตูการค้าและการลงทุนให้ไทยไปตะวันออกกลาง โดยเฉพาะประเทศในคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council: GCC) ประกอบด้วยสมาชิก 6 ประเทศเรียงตามขนาดเศรษฐกิจ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ คูเวต โอมาน และบาห์เรน รวมถึงแอฟริกาตอนเหนือ เอเชียใต้ และเอเชียกลาง ขณะเดียวกัน ไทยสามารถเป็นประตูการค้าและการลงทุนให้กับบาห์เรนเพื่อเชื่อมโยงไปสู่ประเทศอื่นในอาเซียนในลักษณะ Thailand+1 และ Thailand+ASEAN

     นางอภิรดีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการต่างประเทศ หารือและประสานงานกับฝ่ายบาห์เรนอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศจะติดตามทบทวนและขยายผลความตกลงและMOU ด้านต่างๆ ที่ลงนามแล้ว 23 ฉบับ เช่น บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์กลางการค้าและการกระจายสินค้าในบาห์เรน บันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับบาห์เรนว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงด้านอาหาร การค้า และการลงทุนในผลิตภัณฑ์และโภคภัณฑ์การเกษตร โดยเฉพาะอาหารฮาลาล เป็นต้น เพื่อขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกันให้เป็นรูปธรรมต่อไป

     สำหรับ ด้านการลงทุน บาห์เรนจะสนับสนุนให้นักลงทุนบาห์เรนมาลงทุนในไทยพร้อมทั้งได้เชิญชวนให้นักลงทุนไทยไปลงทุนในบาห์เรน ซึ่งมีนโยบายเศรษฐกิจที่เสรีมากที่สุดประเทศหนึ่งใน GCC และมีความพร้อมด้านโลจิสติกส์ที่ทันสมัย ในการนี้ ไทยจะสนับสนุนให้นักลงทุนไทยขยายการลงทุนมาบาห์เรนมากขึ้น โดยแจ้งว่า ปัจจุบัน นักธุรกิจไทยแสดงความสนใจที่จะจัดตั้ง Thai Mart ซึ่งเป็นศูนย์ค้าปลีกและค้าส่งสำหรับสินค้าไทยในบาห์เรน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับฝ่ายบาห์เรน รวมทั้งหาผู้ร่วมลงทุนจากไทย โดยเฉพาะนักธุรกิจไทยที่สนใจจะไปเช่าพื้นที่ใน Thai Mart ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จ จะเป็นการเพิ่มช่องทางการขยายตลาดของไทย โดยเฉพาะสินค้าฮาลาล อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น

    การค้าระหว่างไทยกับบาห์เรนในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา (2555-2559) มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 448 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2559 บาห์เรนเป็นคู่ค้าอันดับที่ 63 ของไทยในตลาดโลก และอันดับที่ 9 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยการค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 26 จากปี 2558 และมีสัดส่วนการค้าคิดเป็นร้อยละ 0.07 ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทย และไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้า 79.5 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการส่งออกสินค้าของไทยไปยังบาห์เรน มีมูลค่า 190 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 12.74 ในขณะที่ไทยนำเข้าจากบาห์เรน 111 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 41.32

      สินค้าที่มีศักยภาพในการส่งออกและนำเข้า

       สินค้าส่งออกของไทย รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องคอมเพรสเซอร์ของเครื่องทำความเย็น ตู้เย็น ตู้แช่แข็ง เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่อง ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ผลิตภัณฑ์พลาสติกเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ  ทองแดงและของทำด้วยทองแดง และเครื่องซักผ้าและซักแห้ง เป็นต้น

      สินค้านำเข้าจากบาห์เรน น้ำมันสำเร็จรูป สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ ปุ๋ย และยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์เครื่องประดับอัญมณี สัตว์น้ำสดแช่เย็น แช่แข็ง แปรรูป เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ ผ้าผืน และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!