- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 01 May 2017 10:44
- Hits: 3623
พาณิชย์ นำทีมผู้ซื้อจากซาอุฯมาเจรจาการค้า-สั่งซื้อสินค้ากับผู้ประกอบการไทยต้นพ.ค.นี้หนุนมูลค่าการค้าเพิ่ม
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย รายงานความเคลื่อนไหวการดำเนินการตามนโยบายส่งเสริมการบุกเบิกตลาดใหม่ในภูมิภาคตะวันออกกลางว่า ระหว่างวันที่ 2 -3 พฤษภาคมนี้ สำนักงานฯ จะนำผู้ซื้อผู้นำเข้าจากซาอุดิอาระเบียจำนวน 22 บริษัทเดินทางมาไทยเพื่อเจรจาการค้าและสั่งซื้อสินค้ากับผู้ประกอบการไทย เพื่อนำไปจำหน่ายช่วงหลังจากเดือนรอมฎอนหรือเดือนแห่งการถือศีลอด และช่วงพิธีฮัจญ์
“นับเป็นโอกาสและช่องทางอันดีที่จะกระจายสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดซาอุดิอาระเบียและประเทศข้างเคียง ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยกว่า 100 ราย สามารถขยายธุรกิจสู่ซาอุดิอาระเบียได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยกิจกรรมนอกจากจะมีการจับคู่เจรจาการค้าในกลุ่มสินค้าอาหารแช่แข็ง อาหารกระป๋อง วัสดุอุปกรณ์สำหรับสร้างโรงเรือน ชิ้นส่วนยานยนต์ กระดาษ เครื่องเขียน น้ำหอมและไม้หอมแล้ว จะจัดกิจกรรมสำรวจตลาด เยี่ยมชมย่านการค้าสำคัญในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลด้วย"นางมาลี กล่าว
ทั้งนี้ เดือนรอมฎอนหรือเดือนแห่งการถือศีลอด และช่วงพิธีฮัจญ์ จะเริ่มช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2560 และเดือนสิงหาคม 2560 ตามลำดับ โดยหลังจากสิ้นสุดพิธีฯ ชาวอาหรับจะนิยมซื้อเครื่องแต่งกายและของใช้ใหม่เข้าบ้าน
นางมาลี กล่าวเพิ่มเติมว่า ซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง มีประชากร 30.8 ล้านคน เป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญอันดับ 2 ของไทยในภูมิภาคฯ และเป็นตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ที่สุดของไทย ซาอุดิอาระเบียเป็นศูนย์กลางของศาสนาอิสลาม มีศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมที่เมืองมักกะห์และเมืองมาดีนะ ในแต่ละปีมีผู้แสวงบุญชาวมุสลิมจากทั่วโลกเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ซาอุดิอาระเบียประมาณ 2 ล้านคนต่อปี จึงถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับสินค้าและบริการไทยที่จะขยายเข้าสู่ตลาดซาอุดิอาระเบีย
อนึ่ง มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับซาอุดิอาระเบียในไตรมาสแรกของปี 2560 (มกราคม-มีนาคม) ไทยส่งออกไปซาอุดิอาระเบียมูลค่า 372 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และนำเข้ามูลค่า 1,383 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่ภาพรวมการค้าระหว่างไทยกับภูมิภาคตะวันออกกลางในไตรมาสแรกปี 2560 ไทยส่งออกไปตะวันออกกลางมูลค่ากว่า 2,108 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ขณะที่ไทยนำเข้าจากตะวันออกกลางมูลค่า 4,465 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้านำเข้าสำคัญได้แก่ น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป ก๊าซธรรมชาติ เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์
ดันไทยฮับอัญมณีโลก Q1ส่งออกข้าวทรุด 5%
ไทยโพสต์ * พาณิชย์ตั้งเป้าดันไทยเป็นฮับอัญมณีและเครื่องประดับโลก ชูจุดแข็งเป็นแหล่งผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และส่งออกอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ขณะที่ยอดส่งออกข้าวไตรมาส 1 วูบทั้งปริมาณและมูลค่า
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งเป้าที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับโลก (Thailand as The World's Gems & Jewelry Trading Hub) และได้มีการเชิญภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องรวมกว่า 20 หน่วยงานมาหารือเพื่อวางมาตรการสนับสนุนการเป็นศูนย์กลางดังกล่าว
โดยจะชูจุดแข็งของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยด้านการเป็นแหล่งผลิตชั้นยอด ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วโลก เป็นการต่อยอดจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่อง Jewelry Hub เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2560 ที่ ครม.ได้เห็นชอบการยกเว้นอากรขาเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับสำเร็จรูปของกระทรวงการคลัง
ทั้งนี้ แผนงานสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางฯ ประกอบ ด้วย 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1.การ ปลดล็อกภาษีและกฎระเบียบ 2.การพัฒนาผู้ประกอบการ พัฒนาสินค้า การจัดหาวัตถุดิบ และการพัฒนาแรงงาน และ 3.การส่งเสริมอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในภาพรวม ทั้งด้านตลาดในประเทศและต่างประเทศ
ปี 2559 ไทยส่งออกสิน ค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) มูลค่า 6,970 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นสินค้าส่งออกอันดับ 5 คิดเป็นสัดส่วน 3.24% ของมูลค่าการส่งออกทั้ง หมดของไทย
ด้านสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย รายงานสถานการณ์การส่งออกข้าวในไตรมาสแรกของปี 2560 (ม.ค.-มี.ค.) มีปริมาณรวม 2,693,622 ตัน มูลค่า 40,260 ล้านบาท หรือ 1,146 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยปริมาณส่งออกลดลง 5.6% และมูลค่าส่งออกลดลง 8.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีการส่งออก 2,851,917 ตัน มูลค่า 44,049 ล้านบาท หรือ 1,233 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับ เดือน เม.ย.นี้ คาด ว่าปริมาณส่งออกข้าวจะอยู่ที่ประมาณ 800,000-900,000 ตัน เนื่องจากยังคงมีการส่งมอบข้าวขาว ทั้งข้าวใหม่และข้าวเก่าให้กับผู้ซื้ออย่างต่อเนื่อง.
อินโฟเควสท์