- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 26 April 2017 21:49
- Hits: 2644
พาณิชย์ เล็งผุดตลาดต้องชม 9 แห่ง-ตลาดสินค้าเฉพาะ 1 แห่งภายในปีนี้ รับศก.ภาคเหนือบูม
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจการค้าของภาคเหนือในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2560 ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์การก่อสร้าง ธุรกิจโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร รวมทั้งการค้าส่งค้าปลีกจำนวนมาก เพื่อต้อนรับทัพนักท่องเที่ยวหลั่งไหลไปเยือนภาคเหนือในทุกเทศกาล เฟ้นอัตลักษณ์ของแต่ละจังหวัดออกมาโฉมเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ให้แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนได้เพิ่มขึ้น สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในระดับฐานรากให้มั่นคง พาณิชย์ภาคและพาณิชย์จังหวัดภาคเหนือได้ร่วมกันผลักดันให้เกิดตลาดต้องชมในพื้นที่แล้วจำนวน 2 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดลำปางและลำพูน และจะเปิดเพิ่มเติมอีก 9 แห่ง ภายในปีนี้ โดยจะพัฒนายกระดับตลาดที่จำหน่ายสินค้าเกษตร หัตถกรรม สินค้าอุปโภคบริโภคของชุมชน กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ควบคู่ไปกับการรักษาศิลปะวัฒนธรรมท่ามกลางภูมิทัศน์ที่สวยงาม เป็นการส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยว สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ในพื้นที่ภาคเหนือยังอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อเตรียมเปิดตลาดสินค้าเฉพาะ (Magnet Market) จำนวน 1 แห่ง โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งสินค้าไฮไลท์ในตลาดที่จะดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายคือ 'ทุเรียน' และผลไม้ตามฤดูกาล
ด้านการผลิตและการค้าสินค้าเกษตรภาคเหนือมีการผลิตสินค้าที่สำคัญได้แก่ ข้าว ลำไย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กระเทียมและหอมแดง ขณะนี้สินค้าส่วนใหญ่ออกสู่ตลาดแล้ว โดยกระเทียมและหอมแดงมีราคาดี เป็นที่พึงพอใจของเกษตรกรเช่นเดียวกับลำไย ส่วนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์(ฤดูแล้ง) ได้เก็บเกี่ยวเสร็จสิ้นแล้ว สำหรับข้าวเปลือกนาปรังขณะนี้เป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้มีแผนรองรับให้เกษตรกร มีทางเลือกในการจำหน่ายทั้งโครงการตลาดนัดข้าวเปลือก โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประกอบการค้าข้าวเก็บข้าวไว้ในสต๊อก เป็นต้น
สำหรับ การค้าชายแดนในภูมิภาค ภาคเหนือ มีจังหวัดที่มีเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านทั้ง สปป.ลาว และเมียนมา พาณิชย์ภาคเหนือได้มีโครงการอบรมสัมมนาผู้ประกอบการเพื่อส่งเสริมและพัฒนาการค้าชายแดน รวมทั้งสร้างความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน คาดว่าจะมียอดซื้อขายระหว่างกันประมาณ 400 ล้านบาท
“ภาคเหนือเป็นประตูการค้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านไปยังประเทศคู่ค้ารายใหญ่ทั้งจีน และอินเดีย ซึ่งมีประชากรมากเป็นอันดับหนึ่งและอันดับสองของโลก ดังนั้นนักธุรกิจในภาคเหนือจึงมีโอกาสขยายการค้าและการท่องเที่ยวกับประเทศดังกล่าวเป็นลำดับแรก" นางอภิรดี กล่าว
นางอภิรดี กล่าวต่อว่า การสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ ได้สนับสนุนการทำงานของเครือข่ายธุรกิจ(BIZ Club) เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนในระดับพื้นที่และระดับภาค จัดกิจกรรมส่งเสริมและเชื่อมโยงตลาดให้กับการคัดสรรพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มโดยใช้นวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญา เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการมีช่องทางทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น เช่นจังหวัดลำพูนได้จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า 'หัตถศิลป์แผ่นดิน สู่สากล' ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 กรุงเทพ ระหว่างวันที่ 17-23 เมษายน 2560 เพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีโอกาสนำเสนอหัตถอุตสาหกรรม และสินค้าเด่นของจังหวัดให้กับผู้บริโภคในกรุงเทพมหานครรวมทั้งนักท่องเที่ยว โดยในงานมีสินค้าผ้าไหม ผ้าไหมยกดอก จำนวน 8 ราย เครื่องแต่งกาย 24 ราย เครื่องตกแต่ง 4 ราย อาหาร 4 ราย และมีกิจกรรมจับคู่ธุรกิจโดยได้เชิญผู้ซื้อจากประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV เข้ามาร่วมกิจกรรมจำนวน 6 ราย และผู้ซื้อในประเทศที่มีศักยภาพอีก 14 ราย ซึ่งคาดว่างานจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
อินโฟเควสท์