- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 26 April 2017 21:41
- Hits: 2548
พาณิชย์ เผย มี.ค.60 ยอดจดทะเบียนธุรกิจโตกว่าปีก่อน 10% เหตุ ศก.ขยายตัว
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในเดือน มี.ค.60 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศจำนวน 6,772 ราย เพิ่มขึ้น 1,021 ราย หรือ 18% จากเดือน ก.พ.60 และเพิ่มขึ้นจำนวน 596 ราย หรือ 10% จากเดือน มี.ค.59
ขณะเดียวกัน มีนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกกิจการจำนวน 1,167 ราย เพิ่มขึ้น 510 ราย หรือ 78% เมื่อเทียบเดือน ก.พ.60 แต่ลดลง 16 ราย หรือ 1% จากเดือน มี.ค.59
สำหรับ มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในเดือน มี.ค.60 มีจำนวนทั้งสิ้น 26,641 ล้านบาท ลดลงจำนวน 348 ล้านบาท หรือ 1% จากเดือน ก.พ.60 และมีมูลค่าลดลงจำนวน 666 ล้านบาท หรือ 2% เมื่อเทียบกับเดือน มี.ค.59
ประเภทธุรกิจใหม่สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 692 ราย รองลงมาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 363 ราย ธุรกิจร้านขายปลีกเครื่องประดับ จำนวน 336 ราย ธุรกิจภัตตาคาร /ร้านอาหาร จำนวน 175 ราย และธุรกิจขายส่งเครื่องจักร จำนวน 149 ราย
ทั้งนี้ ส่งผลให้การจดทะเบียนธุรกิจในช่วงไตรมาส 1/60 มีการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทจำนวน 18,802 ราย เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/59 จำนวน 3,501 ราย หรือ 23% และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/59 จำนวน 1,279 ราย หรือ 7% ขณะที่การจดทะเบียนเลิกในไตรมาส 1/60 มีจำนวน 2,981 ราย ลดลงจำนวน 6,122 ราย หรือ 67% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/59
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า นับถึงวันที่ 31 มี.ค.60 มีห้างหุ้นส่วนบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งทั้งสิ้นจำนวน 1,379,114 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 20.79 ล้านล้านบาท โดยมีห้างหุ้นส่วนบริษัทที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศจำนวน 659,766 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 16.07 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น บริษัทจำกัด 477,936 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,165 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 180,665 ราย
เนื่องจากเศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นจากการส่งออกสินค้าที่เริ่มฟื้นตัวชัดเจน ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังมีแนวโน้มฟื้นตัวและการใช้จ่ายของภาครัฐยังเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจ ส่วนการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังคงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจยังต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อีกทั้งผลของนโยบายเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ปัญหาเสถียรภาพการเงินจีน ปัญหาความมั่นคงในตะวันออกกลางและคาบสมุทรเกาหลี รวมถึงพัฒนาการทางการเมืองและปัญหาภาคการเงินในยุโรป อย่างไรก็ตาม กรมฯ ยังคาดว่าจะมีการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่เพิ่มมากขึ้นในปีนี้
อินโฟเควสท์