- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Friday, 14 April 2017 22:41
- Hits: 9991
พาณิชย์ เผยข่าวดีปีนี้ฟิลิปปินส์มีแผนนำเข้าข้าวไทยกว่าล้านตันเพื่อความมั่นคงทางอาหาร
นายกีรติ รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เพื่อหารือกับองค์การอาหารแห่งชาติของฟิลิปปินส์ (National Food Authority: NFA) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่นำเข้าข้าว และผู้นำเข้าข้าวภาคเอกชน ซึ่งผลจากการหารือกับประธาน NFA ทราบว่าในปีนี้ NFA มีแผนจะนำเข้าข้าวจากต่างประเทศในปี 60 เพิ่มขึ้นเป็น 1-1.3 ล้านตัน จากเดิม 4.5 แสนตัน ในปี 59 เพื่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศ
"ช่วงที่ผ่านมา NFA เปิดประมูลนำเข้าข้าวเป็นชนิดข้าวขาว 25% แต่ในปีนี้ จะพิจารณาเปิดประมูลเพื่อนำเข้าข้าวคุณภาพดีขึ้น เช่น ข้าวขาว 5% 10% และ 15% ในปริมาณที่มากขึ้น ซึ่งการที่ NFA นำเข้าข้าวคุณภาพดีเพิ่มมากขึ้น จะส่งผลดีต่อการส่งออกข้าวของไทยทั้งในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (G to G) หรือเอกชนต่อเอกชน เพราะจะทำให้มีตลาดขนาดใหญ่มารองรับผลผลิตข้าวฤดูกาลผลิตใหม่ และเป็นสัญญาณเชิงบวกกระตุ้นราคาข้าวไทยทั้งระบบและส่งผลถึงราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรจะได้รับด้วย รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าว
ล่าสุด ทาง NFA กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเปิดประมูลนำเข้าข้าว เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงที่ข้าวฤดูใหม่ของฟิลิปปินส์กำลังออกสู่ตลาด
นายกีรติ กล่าวว่า ในการเดินทางเยือนฟิลิปปินส์ครั้งนี้ กรมฯ ได้นำผู้แทนสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยหารือกับผู้นำเข้าข้าวภาคเอกชนของฟิลิปปินส์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และเจรจาธุรกิจการค้า แลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการเพิ่มมูลค่าการค้าข้าวระหว่างกัน รวมทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์มาตรฐานข้าวไทยฉบับใหม่ของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งผู้นำเข้าข้าวฟิลิปปินส์แจ้งว่าข้าวไทยได้รับการยอมรับในตลาดฟิลิปปินส์และต้องการนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้น ประกอบกับตั้งแต่เดือนมิ.ย.60 เป็นต้นไป ฟิลิปปินส์จะยกเลิกมาตรการจำกัดปริมาณการนำเข้าข้าว (โควตา) ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ส่งออกข้าวไทยที่จะสามารถส่งออกข้าวไปฟิลิปปินส์ได้มากขึ้น หากข้าวไทยสามารถแข่งขันด้านราคากับประเทศคู่แข่งได้
นอกจากนี้ ฝ่ายไทยยังได้เสนอแนะให้ผู้นำเข้าข้าวของฟิลิปปินส์จัดตั้งสมาคมเพื่อจะเป็นหน่วยงานประสานความร่วมมือในการจัดทำแผนตลาดร่วมกันกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เพื่อขยายตลาดข้าวไทยในฟิลิปปินส์ต่อไปด้วย
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์เป็นตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญของไทยเฉลี่ยปีละ 4 แสนตัน โดยในช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2560 ไทยส่งออกข้าวไปฟิลิปปินส์ปริมาณ 1.93 แสนตัน เพิ่มขึ้น 89.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีปริมาณ 1.02 แสนตัน
พาณิชย์ แนะผู้ส่งออกเร่งทำตลาดข้าวในเปรูหลังแนวโน้มนำเข้าเพิ่มต่อเนื่อง
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงซันติอาโก ประเทศชิลี ว่า เปรูเป็นประเทศที่บริโภคข้าวสูงที่สุดในภูมิภาคลาตินอเมริกา โดยกระทรวงเกษตรของเปรูระบุตัวเลขการบริโภคข้าวภายในประเทศประจำปี 2559 ว่า มีปริมาณการบริโภคที่ 1.8 ล้านตัน ซึ่งเป็นการบริโภคผลผลิตภายในประเทศ 88% และนำเข้าจากต่างประเทศ 12% ทั้งนี้เป็นการนำเข้าข้าวจากอุรุกวัยมากที่สุดที่สัดส่วน 65% รองลงมาคือ บราซิล 22% และไทย 9%
"จากสถิติการนำเข้าข้าวของเปรูในระยะ 5 ปีที่ผ่านมาพบว่า เปรูมีการนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 2 ปีล่าสุด ไทยได้ขยับจากประเทศที่เปรูนำเข้าข้าวสำคัญเป็นลำดับที่ 4 ขึ้นเป็นลำดับที่ 3 ซึ่งมีมูลค่าการนำเข้าในปี 2559 อยู่ที่ 15.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 72.57%" นางอภิรดี กล่าว
สำหรับ แนวโน้มการนำเข้าข้าวของเปรู คาดว่า จะมีการนำเข้าข้าวในปีนี้เพิ่มสูงขึ้นกว่าทุกปี เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกสินค้าเกษตรและข้าวได้รับความเสียหาย ส่งผลให้ผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ นับเป็นโอกาสของผู้ส่งออกไทยที่จะขยายตลาดส่งออกข้าวสู่เปรูได้มากขึ้น
ด้านนางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมฯ จะเร่งจัดโครงการส่งเสริมการตลาดข้าวไทย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มมากขึ้น และได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกาพิจารณาเสนอโครงการที่เหมาะสมและเร่งประชาสัมพันธ์ข้าวไทยให้แก่ผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญต่อไป
โดยมูลค่าการนำเข้าข้าวไทยของเปรูมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ยกเว้นในปี 2556 ที่เปรูมีการนำเข้าข้าวจากทุกประเทศลดลง เนื่องจากผลผลิตข้าวในประเทศประจำปีสูงถึง 3.1 ล้านตัน ทำให้ความต้องการนำเข้าข้าวลดลง โดยในปี 2555 เปรูนำเข้าข้าวไทยมูลค่า 4.85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปี 2556 นำเข้ามูลค่า 2.62 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปี 2557 นำเข้ามูลค่า 5.63 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปี 2558 นำเข้ามูลค่า 8.87 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และปี 2559 นำเข้ามูลค่า 15.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า เปรูนำเข้าสินค้าข้าวจากทั่วโลกเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นการนำเข้าข้าวขาวที่ผ่านการขัดสำเร็จหรือกึ่งสำเร็จมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 99.98% ของการนำเข้าข้าวทั้งหมด นอกจากนี้ตัวเลขจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเปรูระบุว่า ตัวเลขการบริโภคข้าวต่อหัวของประเทศประจำปี 2559 อยู่ที่ 55 กิโลกรัม ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในภูมิภาค โดยผู้บริโภคชาวเปรูส่วนมากนิยมหุงข้าวโดยใส่ผลเครื่องเทศหรือผักชนิดต่างๆ ลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ ทั้งนี้ ขนาดบรรจุที่เป็นที่นิยมในการเลือกซื้อมากที่สุดของผู้บริโภคชาวเปรูคือ ขนาดถุงละ 1 กิโลกรัม ซึ่งจะวางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อทั่วไป
อินโฟเควสท์
พาณิชย์-กลุ่มโรงสีจี้แบงก์รัฐ-เอกชนช่วยปล่อยสินเชื่อเสริมสภาพคล่อง
แนวหน้า: มีรายงานจาก กระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า กระทรวงฯเตรียมเชิญ สมาคมโรงสีข้าวไทย และธนาคารทั้งของรัฐ และเอกชน มาหารือในสัปดาห์นี้ เพื่อหาทางสนับสนุน สินเชื่อให้กับโรงสี เนื่องจากที่ผ่านมาโรงสีบางแห่งประสบปัญหาสภาพคล่องจากราคาข้าวผันผวน
นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมา แม้ว่า ทางธนาคารกรุงไทย ได้สนับสนุนสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท แต่กลุ่มธุรกิจ โรงสีไม่ได้ประโยชน์ เพราะเป็นการอนุมัติ ให้กับกลุ่มผู้ส่งออกเป็นหลัก นอกจากนี้ พบว่า ธนาคารคงเข้มงวดกับการปล่อย สินเชื่อให้โรงสี
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในการหารือร่วมกันระหว่างสมาคมโรงสีข้าวไทยและธนาคารของรัฐและเอกชน เนื่องจากกลุ่มโรงสีได้ทำเรื่องขอให้กระทรวงพาณิชย์ประสานธนาคารเพื่อขอให้ปล่อยสินเชื่อให้กับโรงสี เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการซื้อข้าวชาวนา
สำหรับ การดูแลราคาข้าวเปลือกนาปรังฤดูกาลผลิตปี 2560 ที่จะเริ่มมีผลผลิตออกสู่ตลาดปลายเดือนมีนาคมนี้ โดยในแง่ของความต้องการ คาดว่าจะมีประมาณ 4 ล้านตันข้าวเปลือกเท่านั้น โดยกระทรวงพาณิชย์เร่งทำตลาด สั่งการให้ทูตพาณิชย์ หาตลาดนำเข้าใหม่ๆ เช่น ตลาดหลักอย่างแอฟริกา ที่นิยมบริโภคข้าวขาว รวมทั้งฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อิหร่าน อิรัก พร้อมกับได้จัดเตรียมแผนรับมือผลผลิตข้าวนาปี 2560/61 ที่จะทยอยออกปลายปีนี้ ซึ่งคณะกรรมการข้าวครบวงจร จะหารือเพื่อจัดทำแผนรับมือให้สอดคล้องกันของผลผลิตกับความต้องการ เชื่อมโยงตลาดค้าข้าว จัดหาตลาดส่งออกใหม่ๆ ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มมูลค่าข้าว เบื้องต้น คาดทั้งปีจะมีผลผลิตราว 27-29 ล้านตันข้าวเปลือก
จีนซื้อข้าวจีทูจีอีก 100,000 ตันพาณิชย์ย้ำได้ราคาพอใจลุยเพิ่มแชร์ตลาดฮ่องกง
ไทยโพสต์ : นนทบุรี * พาณิชย์เผย จีนตกลงซื้อข้าวจีทูจีอีก 1 แสนตัน ภายใต้สัญญารวม 1 ล้านตัน 'อภิรดี'ระบุ ได้ราคาเป็นที่น่าพอใจ เชื่อมั่นส่งผลดีต่อเกษตรกรชาวนา กางแผนจัดคณะเจรจาขายข้าวยาวเป็นหางว่าว รุกหนักฮ่องกง ลุยชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม หลังครองเกิน 60% แล้ว
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐวิสาหกิจผู้นำเข้าข้าวของจีน (คอฟโก) ได้ตกลงราคาซื้อข้าวอีก 1 แสนตัน ซึ่งเป็นงวดที่ 2 ภายใต้สัญญาที่กรมการค้าต่างประเทศได้ทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับจีนปริมาณ 1 ล้านตัน เมื่อเดือน ธ.ค.2558 แล้ว
โดยเป็นข้าวขาว 5% ฤดูกาลใหม่ ขนาดบรรจุ 25 กิโลกรัม (กก.) ราคา 386 เหรียญ สหรัฐต่อตัน และขนาดบรรจุ 50 กก. ราคา 391 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในเทอม FOB CY (Container Yard) และกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมการส่งมอบภายในเดือน ก.พ.-มี.ค.2560
"ราคาข้าวที่กรมการค้าต่างประเทศเจรจาจนสามารถตกลงขายได้ ถือว่าเป็นราคาที่น่าพอใจ เมื่อเทียบกับราคาข้าวจากประเทศคู่แข่งสำคัญอย่างเวียดนาม ซึ่งจะส่งผลผลดีต่อตลาดข้าวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อชาวนาไทย เนื่องจากคำสั่งซื้อในปริมาณมากเช่นนี้ จะสามารถรองรับผลผลิตข้าวนาปรังที่กำลังจะออกสู่ตลาดได้เป็นอย่างดี" รมว.พาณิชย์ระบุ
ส่วนข้าวตามสัญญาที่เหลืออีก 8 แสนตัน จะมีการเจรจาตกลงราคาและส่งมอบภายในปี 2560 และยังจะมีการเจรจาให้มีการทำสัญญาซื้อขายข้าวกับจีนอีก 1 ล้านตัน ภายใต้เอ็มโอยูว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตรไทย-จีน ที่มีการลงนามไว้เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2557 ต่อไป หากตกลงกันได้ จะมีคำสั่งซื้อรองรับผลผลิตข้าวในฤดูกาลต่อไปอีกทางหนึ่ง
นางอภิรดี กล่าวว่า กระทรวงฯ จะดำเนินนโยบายเชิงรุกในการขยายตลาดข้าวไทย เพื่อผลักดันการส่งออกข้าว โดย มีแผนที่จะจัดคณะผู้แทนการค้าเดินทางไปกระชับความสัม พันธ์กับประเทศคู่ค้าและผู้ซื้อรายสำคัญๆ เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา บังกลาเทศ เป็นต้น และร่วมมือกับภาคเอกชนในการขยายการส่งออกข้าวไปยังตลาดที่มีศักยภาพสูง เช่น ตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ อเมริกากลาง แอฟริกา รวมทั้งการผลักดันการส่งออกข้าวที่ใช้นวัตกรรมในการผลิตออกสู่ตลาดโลก เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่และตอบสนองต่อความต้อง การที่หลากหลายของผู้บริโภค
สำหรับ ตลาดฮ่องกง ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของข้าวหอมมะลิไทย กระทรวงฯ มีแผนจะผลักดันให้ส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในฮ่องกงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ ฮ่องกง เชิญคณะผู้แทนจากศุลกากรและห้องปฏิบัติการตรวจสอบข้าวจากฮ่องกงเยือนไทย เพื่อให้ทราบถึงขั้นตอนและวิธีการในการตรวจสอบคุณภาพข้าวของไทยก่อนส่งออก ซึ่งจะทำ ให้ฮ่องกงมีความมั่นใจในคุณภาพ ข้าวของไทย และมีการนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไทยสามารถดึงส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในตลาดฮ่องกงกลับคืนมาได้ จากเมื่อต้นปี 2557 ที่ไทย มีสัดส่วนการส่งออกข้าวไปฮ่องกงเหลือเพียง 46% แต่หลัง จากที่กระทรวงฯ และภาคเอกชนได้ร่วมมือกันดึงผู้นำเข้ารายเดิมและรายใหม่ให้กลับมาซื้อข้าวไทย รวมถึงการแก้ไขปัญหาข้าวปลอมปน ข้าวผสม และจัดกิจกรรมเชิงรุกต่อเนื่อง ส่งผลให้สิ้นปี 2557 ไทยมีส่วนแบ่งเพิ่มเป็น 54% และปี 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 60% และปี 2559 เพิ่มเป็น 64.2%.