- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 22 January 2017 17:50
- Hits: 3907
พณ.ประสานพันธมิตรภาคเอกชน กำหนดมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ครอบคลุมทั้ง ปชช.-ผู้ประกอบธุรกิจ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประสานหน่วยงานพันธมิตรภาคเอกชนเพื่อกำหนดและหามาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ให้ครอบคลุมทั้งภาคประชาชน และภาคธุรกิจ พร้อมทั้งให้ร่วมมือกับสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทยช่วยเหลือผู้ประกอบการโชวห่วยในพื้นที่ทั้งรายเล็กรายใหญ่อย่างเต็มที่ เนื่องจากร้านโชวห่วยมีความใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่มากที่สุด เป็นแหล่งกระจายสินค้าสู่ชุมชน และมีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็ง"
“ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ประชุมหารือเพื่อกำหนดมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ร่วมกับ สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ผู้บริหารธุรกิจค้าส่งค้าปลีกที่ประสบปัญหาอุทกภัย บริษัทผู้ผลิต/ผู้แทนจำหน่าย อาทิ บริษัท ซี.พี.คอนซูเมอร์โปรดักส์ จำกัด บริษัท เบอร์ลี่ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด รวมทั้ง สถาบันการเงิน อาทิ SMEs Bank ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ ธนาคารทหารไทย โดยที่ประชุมได้สรุปมาตรการการช่วยเหลือเยียวยา ทั้งในส่วนของภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และธุรกิจโชวห่วย ดังนี้
- มาตรการการช่วยเหลือภาคประชาชน กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ ผู้ผลิต/ผู้แทนจำหน่าย ส่งสินค้าราคาพิเศษสู่มือประชาชนที่ได้รับผลกระทบฯ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ผ่านร้านค้าส่งค้าปลีกที่กระทรวงพาณิชย์ให้การส่งเสริมในพื้นที่ภาคใต้
- มาตรการการช่วยเหลือภาคธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ สถาบันการเงิน เน้นความช่วยเหลือด้านการเพิ่มสภาพคล่องทางธุรกิจผ่านมาตรการของธนาคารพันธมิตร ได้แก่
- ธนาคารกรุงเทพ ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระเงิน ปรับลดอัตราดอกเบี้ย และอนุมัติวงเงิน 10,000 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
- ธนาคารกสิกรไทย พักชำระเงินต้น 12 เดือน ลดยอดและขยายเวลาผ่อนชำระ
- ธนาคารทหารไทย พักชำระดอกเบี้ย 6 เดือน หรือพักชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย 3 เดือน
- SMEs Bank อนุมัติวงเงินสูงสุด 500,000 บาทต่อราย ดอกเบี้ยไม่เกิน MLR ระยะเวลาชำระ 5 ปี เพื่อใช้ในการปรับปรุง ฟื้นฟู และหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
- มาตรการการช่วยเหลือธุรกิจโชวห่วย
- กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะจัดทีมงานลงพื้นที่ช่วยเหลือในการจัดร้านค้าและปรับภาพลักษณ์ร้านโชวห่วยที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยภาคใต้ โดยมีเป้าหมาย 200 ร้านค้า
- กระทรวงพาณิชย์ เจรจาให้ซัพพลายเออร์ เช่น บริษัท ซี.พี.คอนซูเมอร์โพรดักส์ จำกัด บริษัท เบอร์ลี่ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด ขยายเวลาชำระหนี้ค่าสินค้าจากปกติ 30-45 วัน เป็น 75-90 วัน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางธุรกิจ และรับเก็บคืนสินค้าที่เสียหายจากน้ำท่วม
นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ออกมาตรการบรรเทาความเดือนร้อนผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยใน 14 จังหวัดภาคใต้ รวมทั้ง จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดังนี้ ผ่อนผันการแจ้งบัญชีและเอกสารประกอบการลงบัญชีสูญหายหรือเสียหาย ซึ่งตามพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 กำหนดให้แจ้งภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ทราบหรือควรทราบถึงการสูญหายหรือเสียหาย ให้สามารถยื่นล่าช้าและสามารถใช้เป็นหลักฐานกรณีถูกเรียกตรวจบัญชีได้ ทั้งนี้ ธุรกิจสามารถแจ้งบัญชีและเอกสารที่ใช้ประกอบการลงบัญชีสูญหายหรือเสียหาย ผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Permit) ได้ทางเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th
ผ่อนผันการยื่นงบการเงินประจำปีของธุรกิจที่มีหน้าที่ต้องยื่นในช่วงที่เกิดอุทกภัยระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2559 - 28 กุมภาพันธ์ 2560 ให้สามารถยื่นล่าช้ากว่าที่กฎหมายกำหนดได้
, ผ่อนผันการยื่นจดทะเบียนของนิติบุคคลที่ต้องยื่นจดทะเบียนภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดในช่วงระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2559 – 28 กุมภาพันธ์ 2560 ให้สามารถยื่นล่าช้ากว่าที่กฎหมายกำหนดได้ รวมทั้งจัดตั้งศูนย์บริการรับจดทะเบียนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนิติบุคคลที่มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ใน 14 จังหวัดภาคใต้ รวมทั้งจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ณ ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลาง ชั้น 4 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ
อินโฟเควสท์
ดึงผู้ผลิตสินค้าขายราคาถูกป้อน 2 หมื่นร้านธงฟ้าประชารัฐ-ลดค่าครองชีพผู้บริโภค
ไทยโพสต์ : นนทบุรี * พาณิชย์ถกผู้ผลิตสินค้าคอนซูเมอร์ ป้อนขายในร้านธงฟ้าประชารัฐที่มีกว่า 2 หมื่นแห่ง เน้นหมวดจำเป็นต่อการบริโภค สบู่ ยาสีฟัน แชมพู ผงซักฟอก ช่วยลดค่าครองชีพ ใช้แบรนด์เดิม แต่ลดต้นทุนการตลาดลง เพื่อให้ขายได้ถูก เตรียมส่งคาราวานธงฟ้าเคลื่อนที่ช่วยใต้ เริ่ม ก.พ.นี้
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับผู้ประกอบการค้าส่ง- ค้าปลีกต้นแบบ ที่ได้รับการพัฒนา จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อร่วมมือกันในการผลักดันนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้มีร้านธงฟ้าประชารัฐในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งร้านค้าส่งที่มีอยู่ 114 ร้านค้า 545 สาขาใน 65 จังหวัด พร้อมที่จะร่วมมือในการกระจายสินค้าไปยังร้านค้าปลีกที่มีอยู่กว่า 2 หมื่นร้านค้า เพื่อกระจายสินค้าให้ทั่ว ถึงและช่วยลดภาระด้านค่าครอง ชีพให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย
ทั้งนี้ กระทรวงฯ จะมีการหารือกับผู้ผลิตสินค้าคอนซูเมอร์รายใหญ่ในสัปดาห์หน้าทุกค่าย ว่าสามารถที่จะผลิตสินค้ารายการใดบ้าง เพื่อส่งให้กับเครือข่ายร้านค้าส่ง-ค้าปลีกที่กระทรวงฯ ดูแลอยู่ โดยมีเงื่อนไขต้องเป็นแบรนด์เดียว กันกับที่ผู้ผลิตรายนั้นๆ ผลิตจำหน่าย แต่อาจจะลดต้นทุนด้านอื่นๆ ลงมา เพื่อให้จำหน่ายได้ถูกกว่าที่จำหน่ายในห้างทั่วไป และจะเน้นเฉพาะสินค้าที่จำเป็น ต่อการใช้จริงๆ เช่น สบู่ ยาสีฟัน แชมพู ผงซักฟอก เป็นต้น
"สินค้าที่จะนำไปขายใน ร้านธงฟ้าประชารัฐ จะไม่ใช้แบรนด์ใหม่ เพราะประสบความ สำเร็จได้ยาก ในอดีตก็เคยเห็นมาแล้ว แต่จะใช้แบรนด์เดิมของผู้ผลิต แล้วลดต้นทุนด้านการตลาดอื่นๆ ลงมา เพื่อให้จำหน่ายได้ถูก และยังได้สินค้าที่มีคุณภาพดี คุณภาพตรงตาม ที่ผู้ผลิตรายนั้นๆ ทำขาย เพราะถ้าสินค้าไม่ดี ก็กระทบกับชื่อเสียงของผู้ผลิตเอง ขณะที่ผู้บริโภค จะได้ประโยชน์ในแง่การซื้อสินค้าที่ถูกลง และมีค่าครองชีพ ลดลง" นายสนธิรัตน์กล่าว
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า กระทรวงฯ จะจัดคาราวานธงฟ้าเพื่อนำสินค้าจำเป็นไปจำหน่ายให้กับประชาชนในจังหวัด ภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ไล่ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไป เริ่มตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ.นี้ เพื่อช่วยลดภาระด้าน ค่าครองชีพให้กับประชาชน และยังมีแผนที่จะนำผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรในจังหวัดต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม นำไปช่วยจำหน่ายด้วย
ส่วนการจัดตั้งตลาด ทั้งตลาดทั่วไป ตลาดเฉพาะสินค้า และตลาดชุมชนประชารัฐ ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศทำการสำรวจว่าในแต่ละจังหวัดมีตลาดลักษณะใดบ้าง โดยให้สรุปรายชื่อมาภายใน 1-2 สัปดาห์ พร้อมแผนงานสนับสนุนว่าต้องดำเนินการอะไรบ้าง
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า กรมได้หารือกับห้างค้าปลีกชั้นนำ เช่น บริษัท เซ็นทรัล ฟู๊ดรีเทล จำกัด เพื่อร่วมมือในการจัดหาพื้นที่จำหน่ายผลผลิตสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งทางห้างพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ
เบื้องต้นจะนำส้มโอทับทิมสยามปากพนังไปจำหน่ายในท็อปซูเปอร์มาร์เก็ต ส่วนสินค้า GI อื่นๆ เช่น ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง กล้วยเล็บมือนาง จ.ชุมพร หอยนางรมสุราษฎร์ธานี จะมีการตรวจสอบความเสียหายและสอบถามเกษตรกรว่าต้องการให้ความช่วยเหลืออย่างไร ก่อนจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือ.
พาณิชย์ เผยเครือข่ายร้านค้าปลีก-ส่งกว่า 2 หมื่นแห่ง พร้อมร่วมร้านธงฟ้าประชารัฐ ช่วยลดค่าครองชีพ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการร่วมมือกันผลักดันร้านค้าธงฟ้าประชารัฐในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศตามนโยบายรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับผู้ประกอบการค้าส่งค้าปลีกต้นแบบที่ได้รับการพัฒนาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งร้านค้าส่งที่มีอยู่ 114 ร้านค้า 545 สาขาใน 65 จังหวัด พร้อมจะให้ความร่วมมือในการกระจายสินค้าที่ขายในร้านธงฟ้าประชารัฐไปยังร้านค้าปลีกที่เป็นเครือข่ายราว 22,400 ร้านค้า เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย ขณะเดียวกันยังจะมีร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม (ร้านโชห่วย) ในแต่ละชุมชน แต่ละหมู่บ้านทั่วประเทศ เข้าร่วมเป็นร้านธงฟ้าประชารัฐด้วย
"concept ของร้านธงฟ้าประชารัฐนั้น กระทรวงฯ จะใช้ช่องทางของร้านค้าส่ง ค้าปลีก ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ความช่วยเหลือเป็นทั้งร้านธงฟ้าประชารัฐจัดมุมเพื่อขายสินค้าราคาถูก แต่เป็นสินค้าคุณภาพและเป็นแบรนด์ที่ขายอยู่แล้วในท้องตลาดทั่วไป และเป็นช่องทางกระจายสินค้าไปยังร้านธงฟ้าประชารัฐ ที่เป็นร้านค้าปลีกในเครือข่ายของร้านค้าส่งเหล่านี้ รวมถึงร้านค้าปลีกอื่นๆ ที่เข้าร่วมโครงการด้วย" รมช.พาณิชย์ กล่าว
พร้อมระบุว่า ในสัปดาห์หน้า กระทรวงพาณิชย์จะหารือกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ทุกค่ายว่ารายใดสนใจจะผลิตสินค้าใดให้กับร้านธงฟ้าประชารัฐ โดยมีเงื่อนไขต้องเป็นยี่ห้อเดียวกับที่ผู้ผลิตรายนั้นๆ ผลิต และจำหน่ายในท้องตลาดอยู่แล้ว แต่อาจจะลดต้นทุนด้านอื่นๆ เช่น บรรจุภัณฑ์ หรือปรับลดส่วนผสมบางอย่าง เพื่อทำให้ต้นทุนลดลง แต่ยังเป็นสินค้าที่ได้มาตรฐานเหมือนเดิม เพื่อให้สามารถจำหน่ายได้ในราคาถูกกว่าในท้องตลาด โดยจะเน้นเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อการใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น สบู่ ยาสีฟัน แชมพู ผงซักฟอก รวมถึงข้าวสาร น้ำตาลทราย และน้ำมันพืชด้วย
ส่วนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้นั้น นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ในเดือนก.พ.นี้ กระทรวงฯ จะจัดคาราวานธงฟ้านำสินค้าจำเป็นไปจำหน่าย เริ่มตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ลงไป เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน และยังสั่งการให้สำนักงานพาณิชจังหวัดในพื้นที่ติดต่อกับเกษตรกรนำผลผลิตทางการเกษตรเข้าร่วมคาราวานด้วย
ด้านนายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า กรมฯ ได้หารือกับห้างค้าปลีกชั้นนำ เช่น บริษัท เซ็นทรัล ฟู๊ดรีเทล จำกัด เพื่อร่วมกันจัดหาพื้นที่จำหน่ายผลผลิตสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ โดยเบื้องต้นจะนำส้มโอทับทิมสยามปากพนังไปจำหน่ายในท็อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต ส่วนสินค้า GI อื่นๆ เช่น ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง กล้วยเล็บมือนาง จ.ชุมพร หอยนางรมสุราษฎร์ธานี จะตรวจสอบความเสียหายและสอบถามเกษตรกรว่าต้องการให้ความช่วยเหลืออย่างไร ก่อนที่จะเข้าไปให้การช่วยเหลือต่อไป
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาอุทกภัยจนทำให้ไม่สามารถยื่นคำร้อง คำขอต่ออายุ ชำระค่าธรรมเนียม หรือดำเนินการอื่นใดภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยได้ออกประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอขยายระยะเวลาดำเนินการ และหลักฐานที่แสดงว่าได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมต่อเจ้าหน้าที่กรมฯ หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว ภายใน 15 วันนับแต่สถานการณ์อุทกภัยได้สิ้นสุดลง
อินโฟเควสท์