WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ผู้ผลิตเหล็กแฉแผนล้ม เซฟการ์ด-อากรทุ่มตาดยันพณ.คุมเข้มหมดสิทธิโก่งราคา

    แนวหน้า : ผู้ผลิตเหล็กแฉแผนล้มเซฟการ์ด-อากรทุ่มตาดยันพณ.คุมเข้มหมดสิทธิโก่งราคา จับตาเบี่ยงประเด็นหลบเลี่ยงภาษี

    จากกรณีที่มีกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์  และบริษัทก่อสร้างบ้านบางราย ออกมาแถลงข่าวว่า จะร้องเรียนต่อ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าได้รับความเดือดร้อนจากราคาสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนที่ปรับตัวสูงขึ้น พร้อมขู่ว่าในอนาคตอาจใช้วิธีลดต้นทุนโดยการลดสเปกเหล็ก มีผลต่อความปลอดภัยของผู้อาศัยนั้น พร้อมทั้งพาดพิงถึงผู้ผลิตในประเทศ ว่าได้รับประโยชน์จากราคาเหล็กที่เพิ่มขึ้นและมีการขึ้นราคาอย่างไม่เป็นธรรมนั้น ล่าสุดผู้ผลิตในประเทศได้รวมตัวกันแถลงข่าวชี้แจงเรื่องดังกล่าว

   มร.ริวโซ โอกิโน กรรมการบริหาร บริษัท จี สตีล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนมีการแข่งขันด้านราคากันตามกลไกตลาดจากทั้งสินค้านำเข้า และระหว่างผู้ผลิตภายในประเทศด้วยกันเอง ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความต้องการใช้เหล็กแผ่นรีดร้อนโดยรวมแล้วปีหนึ่ง 7 ล้านตัน โดยเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศปีละประมาณ 3 ล้านตัน และผลิตภายในประเทศประมาณ 4 ล้านตัน ทั้งที่ผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนภายในประเทศ 5 รายมีกำลังการผลิตรวมกันมากกว่านั้นนับเท่าตัว โดยยังคงเหลือกำลังการผลิตรวมเหลืออีกกว่า 50% ดังนั้นการกล่าวอ้างว่าผู้ผลิตในประเทศไม่สามารถผลิตสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนได้เพียงพอกับความต้องการ และปรับขึ้นราคาอย่างผิดปกตินั้น จึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

   ด้านนายนาวา จันทนสุรคน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าเหล็กแผ่นรีดร้อนถูกกำหนดเป็นรายการสินค้าที่ควบคุมโดยคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) และกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นราคาอย่างไม่เป็นธรรม สำหรับมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) และมาตรการปกป้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น(เซฟการ์ด) เป็นมาตรการที่องค์กรการค้าโลก (WTO) ให้ประเทศสมาชิกสามารถใช้เป็นเครื่องมือป้องกันตนเองในยามจำเป็นได้ และประเทศที่เน้นการค้าเสรี ได้ แก่ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ต่างก็ใช้มาตรการดังกล่าวเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กภายในประเทศ ประเทศในอาเซียนหลายประเทศ เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ต่างก็ใช้มาตรการเซฟการ์ดมากและเร็วกว่าประเทศไทยด้วยซ้ำไป

    ด้านนายไพโรจน์ มีทวี รักษาการผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมการก่อสร้างบ้านพักอาศัยในประเทศไทยส่วนใหญ่กว่า 90 % นิยมก่อสร้างด้วยระบบโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งแบบหล่อในที่ และแบบหล่อสำเร็จมาจากโรงงาน เหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างโครงสร้างประเภทนี้ เป็นเหล็กเส้นประเภทเหล็กข้ออ้อยเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผลิตมาจากเหล็กขั้นกลางที่เรียกว่า billet โดยมีผู้ผลิตอยู่หลายราย อาคารบ้านพักอาศัยบางส่วน ได้มีการเริ่มที่จะนำเหล็กประเภท H beam หรือ I beam ซึ่งเป็นเหล็กรูปพรรณรีดร้อน เข้ามาใช้อยู่บ้าง แต่ต้นทุนการก่อสร้างสูงกว่าบ้านที่ทำจากโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ทั้งนี้ เหล็กรูปพรรณรีดร้อน เป็นเหล็กที่ผลิตจากเหล็กขั้นกลางที่เรียกว่า bloom ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า billet สำหรับเหล็กขั้นกลางประเภท slab ซึ่งเป็นเหล็กทรงแบน ที่มี application ขั้นถัดไป เป็นเหล็กม้วนรีดร้อน ก็มีปริมาณการใช้ในอุตสาหกรรมการก่อสร้างบ้านอยู่บ้าง แต่ก็ในสัดส่วน (น้ำหนัก) ที่ไม่สูงมาก

   แหล่งข่าวจากวงการเหล็กรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็ก และธุรกิจก่อสร้างบ้าน การออกมาแถลงข่าวโจมตี เรื่องมาตรการเอดีและเซฟการ์ดเหล็กแผ่นรีดร้อน อาจเป็น สงครามตัวแทนเพื่อเบี่ยงประเด็นเลี่ยงอากร ซึ่งกรมศุลกากร ก.พาณิชย์ กำลังสืบสวนและปราบปรามการเลี่ยงอากรเซฟการ์ดและอากรเอดี อย่างเข้มข้นอยู่ในขณะนี้ และเชื่อว่าทางคสช. กระทรวงพาณิชย์ และกรมศุลกากร รู้เท่าทันเกมส์นี้และไม่หลงกลแน่นอน

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!