- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 21 November 2016 19:00
- Hits: 4031
กระทรวงพาณิชย์ จัดนิทรรศการ ‘อัจฉริยราชา ทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อพสกนิกรไทย’ การเผยแพร่พระราชกรณียกิจ ‘พ่อหลวง’ ด้านเศรษฐกิจการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา
กระทรวงพาณิชย์สนองรับนโยบายรัฐบาล น้อมนำ ‘ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน’จัดนิทรรศการเผยแพร่พระราชกรณียกิจ ‘พ่อหลวง’ด้านเศรษฐกิจการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญาในชื่อ‘อัจฉริยราชา ทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อพสกนิกรไทย’เชิญชวนชาวไทยชมนิทรรศการ 21–30 พฤศจิกายนนี้ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชูพระราชกรณียกิจมุ่งพัฒนา ทรงนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาดนำความรู้นอกตำรา ส่งเสริมการพัฒนาอย่างมีศักยภาพ
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์กำหนดจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้านเศรษฐกิจการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา’อัจฉริยราชา ทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อพสกนิกรไทย’ ระหว่างวันที่ 21 - 30 พฤศจิกายน 2559 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ เพื่อเผยแพร่พระอัจฉริยภาพในศาสตร์หลายแขนง ทั้งการแพทย์สาธารณสุข การเกษตร การชลประทาน การพัฒนาที่ดิน การศึกษา การสังคมวัฒนธรรม การคมนาคม ตลอดจนเศรษฐกิจการพาณิชย์ แม้ในยามประเทศไทยประสบภาวะเศรษฐกิจ ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา ได้พระราชทานแนวทางดำรงชีพแบบ ‘เศรษฐกิจพอเพียง’และ ‘ทฤษฎีใหม่’ ให้ราษฎรได้พึ่งตนเอง ใช้ผืนแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดประกอบอาชีพอยู่กินตามอัตภาพ ซึ่งราษฎรได้ยึดถือปฏิบัติเป็นผลดีอยู่ในปัจจุบัน
“กระทรวงพาณิชย์ จึงขอเชิญชวนปวงชนชาวไทยร่วมชมงานนิทรรศการดังกล่าว ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ เพื่อร่วมแสดงความไว้อาลัยและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระอัจฉริยภาพด้านเศรษฐกิจการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญาในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชให้สาธารณชนได้ประจักษ์ในพระปรีชาสามารถ และพระอัจฉริยภาพการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อการสร้างประโยชน์แก่สังคมให้สาธารณชนตระหนักรู้ถึงการดำรงตน และน้อมนำแนวพระราชดำริมาปรับใช้ในการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข และยั่งยืน”
นางสาวผ่องพรรณ กล่าวว่า จากพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุข แห่งมหาชนชาวสยาม” ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 5 พฤษภาคม 2493 ด้วยพระราชปณิธานอันแน่วแน่ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ การเสด็จพระราชดำเนินไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้ทอดพระเนตรเห็นสภาพชีวิตประชาชนที่อยู่กันอย่างแร้นแค้น ขาดแคลนปัจจัยหลายด้านในการประกอบอาชีพ พระราชกรณียกิจในช่วงแรก คือ การมุ่งมั่นแสวงหาการพัฒนาสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนให้กินดีอยู่ดี
“เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนให้แก่ประชาชน สามารถดำรงชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความพอเพียงได้อย่างมั่นคง ให้ประเทศมีความเจริญก้าวหน้า ดังนั้น พระอัจฉริยภาพด้านความรู้ทางวิทยาศาสตร์ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ เพื่อการพัฒนาประเทศให้สัมฤทธิ์ผลและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น คือ การสร้างสรรค์งานช่าง สิ่งประดิษฐ์ ซึ่งทรงสนพระราชหฤทัยศึกษาค้นคว้าและทดลองด้วยพระองค์เองมาตลอดตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ รวมถึงทรงเป็นแบบอย่างของการนำความรู้เชิงช่างและวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับสภาพพื้นที่นั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทว่าเรียบง่าย ทุกฝ่ายสามารถนำไปใช้ได้ไม่ยุ่งยาก”
อาทิ พลังงานทดแทน ไม่ว่าจะเป็นแก๊สโซฮอล์ ดีโซฮอล์ และน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรภายใต้ชื่อที่แสดงถึงการประดิษฐ์ งการใช้น้ำมันปาล์มกลั่นบริสุทธิ์ เป็นน้ำมันเชื้อเพลงเครื่องยนต์ดีเซลง อันเป็นผลจากการทดลองใช้น้ำมันปาล์มกลั่นดังกล่าวกับเครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้ในการเกษตร เครื่องยนต์รถกระบะและรถตู้ และทดลองเปรียบเทียบกับการใช้น้ำมันดีเซลธรรมดา รวมทั้งการใช้น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 100% ในงานปกติ พบว่าในระยะทาง 10,000 กม. น้ำมันปาล์มกลั่นบริสุทธิ์ช่วยลดเขม่าและสารพิษในไอเสียของเครื่องยนต์ดีเซลได้ถึง 8 เท่า จึงถือเป็นทางเลือกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมช่วยเหลือเกษตรกร เมื่อราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ และทดแทนการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง
นอกจากนี้ ยังคิดค้นเป็นการนำน้ำมันปาล์มกลั่นบริสุทธิ์ ชนิด 100% มาใช้เป็นน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ 2 จังหวะทุกขนาดซีซี แทนน้ำมันหล่อลื่นทั่วไปที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ผลจากการทดลองใช้กับจักรยานยนต์ที่ถ่ายน้ำมันเครื่องออกแล้วเติมน้ำมันปาล์มดังกล่าวลงไป พบว่าเครื่องยนต์สามารถใช้งานได้ดี ไม่ติดขัด ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญประหยัดกว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมจากต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ ได้ทูลเกล้าฯ ถวายอนุสิทธิบัตร ภายใต้ชื่อ “การใช้น้ำมันปาล์มกลั่นบริสุทธิ์เป็นน้ำมันหล่อลื่นสำหรับเครื่องยนต์ 2 จังหวะ” อีกด้วย
ทั้งนี้ พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างในการนำสิ่งที่ทรงสนพระราชหฤทัยมาค้นคว้า ทดลอง ประดิษฐ์เป็น นวัตกรรมใหม่ ที่สามารถนำไปใช้แก้ปัญหาและบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชนได้ยอดเยี่ยม อันเป็นผลมาจาก การที่พระองค์มีพระวิริยอุตสาหะในการศึกษาหาความรู้และทรงนำความรู้ที่ได้มีประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างสร้างสรรค์ พระองค์ทรงเน้นย้ำให้ทุกคน ทุกฝ่าย เห็นความสำคัญของการใฝ่เรียนรู้ ฝึกความคิดและปฏิบัติตน ไปในทางที่สร้างสรรค์ในหลายๆ โอกาส
‘พระองค์ทรงตระหนักว่า การจะพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้นั้น นอกจากจะต้องพัฒนาคนให้อุดมไปด้วยความรู้ ความสามารถในทางสร้างสรรค์ เพื่อการประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ แล้ว ควรมีการประยุกต์ ใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด รวมถึงต้องใช้จินตนาการด้วย ไม่ใช่มีในตำราอย่างเดียว เพื่อสนับสนุนการพัฒนาให้เป็นไปอย่างรวดเร็วมีศักยภาพและทันสมัย’ นางสาวผ่องพรรณ กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย