- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 17 November 2016 12:14
- Hits: 5888
ก.พาณิชย์ปลื้มต่างชาติสั่งซื้อข้าว-มันมูลค่ากว่า 6.5 หมื่นลบ. ทะลุเป้าเอ็มโอยูหลายฉบับ คาดสามารถยกระดับราคาข้าวไทย
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลสำเร็จกิจกรรมจับคู่ธุรกิจข้าวและมันสำปะหลังระหว่างผู้ซื้อผู้นำเข้าต่างประเทศและผู้ประกอบการไทย วันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ว่า ก่อให้เกิดมูลค่าซื้อขายรวมถึง 65,250 ล้านบาท แบ่งเป็นคำสั่งซื้อข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวมูลค่า 32,210 ล้านบาท และคำสั่งซื้อมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มูลค่า 33,040 บาท สินค้าที่ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อต่างประเทศ 5 อันดับแรก ได้แก่ มันสำปะหลังเส้น ข้าวขาว ข้าวออร์แกนิก ข้าวหอมมะลิ และแป้งมันสำปะหลัง
“การจัดงานเจรจาธุรกิจข้าวและมันสำปะหลังในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ แสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อผู้นำเข้าทั่วโลกมั่นใจในคุณภาพมาตรฐานและศักยภาพในการผลิตของประเทศไทย โดยในวันงานมีการลงนาม MOU ทั้งหมดถึง 9 ฉบับ ประกอบด้วย MOU สั่งซื้อข้าว 4 ฉบับของผู้นำเข้าฮ่องกงปริมาณรวม 11,100 ตัน และ MOU สั่งซื้อมันสำปะหลังเส้น 5 ฉบับจากผู้นำเข้าจากเมืองชิงต่าวและนครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ปริมาณรวม 1.7 ล้านตัน รวมมูลค่าการสั่งซื้อจากการลงนาม MOU ทั้ง 9 ฉบับ 6,770 ล้านบาท” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว
การลงนามทั้ง 9 ฉบับ แบ่งเป็นการลงนามในช่วงพิธีเปิดงาน 5 ฉบับ ซึ่งเป็นการสั่งซื้อข้าวของผู้นำเข้าฮ่องกงรวม 11,100 ตัน และสั่งซื้อมันสำปะหลังเส้นของผู้นำเข้าจีนจำนวน 800,000 ตัน ต่อจากนั้นได้มีการลงนาม MOU เพิ่มเติมอีก 4 ฉบับ ระหว่างผู้นำเข้ามันสำปะหลังจากจีนกับผู้ประกอบการไทย ประกอบด้วย การลงนามระหว่างบริษัท ชานตง ต้าเฟิง จำกัด (Shandong Dafeng Trading Co., Ltd.) กับบริษัท อิสเทริ์น ที พี เค แค็ปปิตอล จำกัด ในการสั่งซื้อมันสำปะหลังเส้นจำนวน 100,000 ตัน ฉบับที่สองเป็นการลงนามระหว่างบริษัท รี่จ้าว คุนดะ อิมพอร์ต แอนด์ เอ็กซปอร์ต จำกัด (Rizhao Kunda Import and Export Co., Ltd.) กับบริษัท แสงฟ้าอะกริโปรดักส์ จำกัด สั่งซื้อมันสำปะหลังเส้นจำนวน 200,000 ตัน ฉบับที่สามเป็นการลงนามระหว่าง บริษัท รี่จ้าว คุนดะ อิมพอร์ต แอนด์ เอ็กซปอร์ต จำกัด กับบริษัท อิสเทริ์น ที พี เค แค็ปปิตอล จำกัด สั่งซื้อมันสำปะหลังเส้นจำนวน 200,000 ตัน และฉบับที่สี่เป็นการลงนามระหว่างบริษัท สูโจว ฮัวติง เทรดดิ้ง จำกัด (Xuzhou Huating Trading Co., Ltd.) กับบริษัท อิสเทริ์น ที พี เค แค็ปปิตอล จำกัด สั่งซื้อมันสำปะหลังเส้นจำนวน 400,000 ตัน
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการพูดคุยกับผู้นำเข้าต่างประเทศพบว่า ผู้นำเข้ามีความมั่นใจในคุณภาพของข้าวและมันสำปะหลังของประเทศไทย โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทยที่ได้รับการยอมรับและถูกจัดให้เป็นสินค้าระดับบน ซึ่งผู้นำเข้าอาทิ บริษัท โอเรียนทัล เมอร์แชนทส์ จากออสเตรเลีย ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวหอมมะลิไทยให้ผู้บริโภครับทราบถึงคุณภาพ เอกลักษณ์ และคุณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ข้าวหอมมะลิไทยมีมูลค่าเพิ่มและเกิดการสั่งซื้อเข้าสู่ตลาดออสเตรเลียมากขึ้น
การสั่งซื้อข้าวไทยในครั้งนี้ นอกจากข้าวหอมมะลิแล้ว ผู้นำเข้าต่างประเทศยังให้ความสนใจสั่งซื้อ ข้าวกาบา ข้าวไรซ์เบอรรี่ ข้าวออร์แกนิก และข้าวเพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับแนวโน้มการบริโภคข้าวของกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ เห็นได้จากผู้นำเข้าฮ่องกงที่ได้ลงนามสั่งซื้อข้าวกาบาและข้าวไรซ์เบอรรี่ปริมาณกว่า 1,100 ตัน ซึ่งการจับคู่ทางธุรกิจเหล่านี้เป็นผลจากการดำเนินการตามนโยบายเชิงรุกของกระทรวงพาณิชย์ในการขยายตลาดสินค้าเกษตรรายการใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
กิจกรรมจับคู่ธุรกิจสินค้าข้าวหอมมะลิ ผลิตภัณฑ์จากข้าว และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังนี้ มีผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากทั่วโลกเดินทางมาเจรจาการค้ากับผู้ผลิต/ผู้ส่งออกไทยรวม 280 ราย โดยแบ่งเป็นจากภูมิภาคอเมริกา 20 ราย จีนและฮ่องกง 103 ราย เอเชียตะวันออก 28 ราย โอเชียเนีย 3 ราย เอเชียใต้ 19 ราย อาเซียน 26 ราย ตะวันออกกลาง 40 ราย ยุโรป 31 ราย และแอฟริกา 10 ราย มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 112 บริษัท สินค้าอื่นๆ ที่น่าสนใจและมีแนวโน้มดี ได้แก่ ข้าวไรซ์เบอรรี่ ข้าวทอดกรอบ ข้าวกระป๋องพร้อมรับประทาน เส้นสปาเก็ตตี้ เส้นก๋วยเตี๋ยว เครื่องดื่มจากข้าว ขนมขบเคี้ยว ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ทำจากข้าว และผลิตภัณฑ์สปา เป็นต้น
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
ก.พาณิชย์จัดตลาดนัดข้าวเปลือก ปีการผลิต 59/60 เพิ่มช่องทางการขาย ดันราคาและรายได้ให้เกษตรกร
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน จัด’ตลาดนัดข้าวเปลือก ปีการผลิต 2559/60’เพิ่มช่องทางการขายข้าวเปลือกให้เกษตรกร สามารถจำหน่ายได้ในราคาที่เป็นธรรม คุ้มกับต้นทุนการผลิต เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญในการสร้างความเป็นธรรมและช่วยเหลือยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่เกษตรกร ดังนั้น ในช่วงที่ผลผลิตข้าวเปลือกออกสู่ตลาดมาก หรือแนวโน้มราคาข้าวเปลือกมีการปรับตัวลดลง ซึ่งอาจทำให้การจำหน่ายข้าวเปลือกของเกษตรกรในตลาดปกติไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งในเรื่องราคา การชั่งน้ำหนัก วัดความชื้น และหักสิ่งเจือปน และถูกเอารัดเอาเปรียบ บางพื้นที่แหล่งผลิตผู้ประกอบการรับซื้อข้าวเปลือกมีจำนวนน้อย ทำให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ในราคาที่ไม่เป็นธรรม รวมทั้งเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้ขายข้าวได้ราคาสูงกว่าราคาตลาด
ดังนั้น นอกจากการเข้าตรวจสอบเครื่องชั่งและการคำนวณหักค่าความชื้นและสิ่งเจือปนที่เป็นธรรมแล้ว กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในยังได้กำหนดมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก’โครงการจัดตลาดนัดข้าวเปลือก ปีการผลิต 2559/60’ โดยการจัดหาผู้ประกอบการรับซื้อข้าวเปลือกเข้าไปรับซื้อ เพื่อให้เกิดการแข่งขันและมีการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนการรับซื้อ ช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้รับความเป็นธรรมในด้านการตลาดและการจำหน่ายข้าวเปลือกดูแลให้มีความถูกต้องเที่ยงตรงทั้งการชั่งน้ำหนักวัดความชื้นและหักสิ่งเจือปน รวมทั้งเป็นการส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรให้มีความเข้าใจลักษณะตลาดและคุณภาพข้าวซึ่งจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการผลิตข้าวให้มีประสิทธิภาพตรงตามความต้องการของตลาดโดยกำหนดแผนการจัดตลาดนัดข้าวเปลือก ในแหล่งผลิตพื้นที่เป้าหมาย 52 จังหวัด 127 ครั้ง โดยในเดือนพฤศจิกายน 2559 มีการจัดตลาดข้าวเปลือกใน 38 จังหวัด 77 ครั้ง ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พิจิตร กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ เป็นต้น
ซึ่งในขณะนี้มีหลายจังหวัดได้ดำเนินการจัดตลาดนัดข้าวเปลือกแล้ว และได้รับการตอบรับที่ดีจากเกษตรกร เช่น จังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินการแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2559 ณ สหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง จำกัด (ป่าจี้) จำหน่ายข้าวเปลือกปริมาณรวม 36.515 ตัน ราคาตันละ 7,300 - 7,450 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 270,055 บาท ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2559 ณ ท่าข้าว ศ.ชินพงศ์ จำหน่ายข้าวเปลือกปริมาณ 82.685 ตัน ราคาตันละ 7,200 – 7,500 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 609,595.25 บาท จังหวัดกำแพงเพชร เมื่อวันที่ 11 -13 พฤศจิกายน 2559 ณ ตลาดกลางข้าวและพืชไร่ หจก.เพชรสุพรรณธัญญากิจ จำหน่ายข้าวเปลือกปริมาณรวม 490.145 ตัน ราคาตันละ 5,200 - 6,300 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 2,760,612.48 บาท เป็นต้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์เชื่อมั่นว่าการดำเนินการในครั้งนี้ จะช่วยให้เกษตรกรสามารถขายข้าวเปลือกได้ในราคาที่สูงขึ้นและมีรายได้มากขึ้น จึงขอเชิญชวนเกษตรกรนำข้าวเปลือกมาจำหน่ายใน “ตลาดนัดข้าวเปลือกนาปรัง ปีการผลิต 2559/60” โดยสามารถสอบถามรายละเอียดการจัดตลาดนัดข้าวเปลือกของแต่ละจังหวัดได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ ทั้งนี้ หากเกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือถูกเอารัดเอาเปรียบ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย