- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 12 November 2016 12:35
- Hits: 15706
พาณิชย์แจงแผนทำตลาดข้าวทั้งในและตปท.ครบวงจร เน้นเชื่อมโยงตั้งแต่ขั้นผู้ผลิต-ผู้บริโภค
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมแผนด้านการตลาดข้าวครบวงจรที่จะดำเนินการทั้งในส่วนของในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศประกอบด้วย 5 แผนงานสำคัญ คือ 1. กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ปลูกข้าวหอมมะลิ จัดโครงการประชารัฐร่วมใจส่งเสริมการผลิตการตลาดข้าวหอมมะลิครบวงจร ตั้งแต่ 15 พ.ย.59-31 ธ.ค.60 และสามารถขยายเวลาจนกว่าโครงการจะบรรลุผล ซึ่งโครงการนี้เป็นสิ่งที่ชาวนาต้องการ และกระทรวงพาณิชย์ ทำให้เป็นจริงโดยมีมืออาชีพร่วมด้วย คือสมาคม/ภาคเอกชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรไม่ให้ราคาตกต่ำ แก้ปัญหาสินค้าเกษตรสำคัญแบบยั่งยืน
รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก (Local Economy)โดยคัดเลือกกลุ่มเกษตรกรหรือวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ จังหวัดละ 1 แห่ง สนับสนุนการผลิต แปรรูปและจำหน่ายข้าวสารคุณภาพดีครบวงจร เพื่อจำหน่ายให้กับผู้บริโภคภายในประเทศ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าข้าวหอมมะลิ ลดต้นทุนการจำหน่ายและเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกร
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์/สมาคม ได้จัดอบรมความรู้ด้านการผลผลิต การแปรรูป การตลาดแบบครบวงจร สนับสนุนเครื่องมือ/อุปกรณ์ ในการผลิต การแปรรูป บรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ส่งเสริมสนับสนุนหาช่องทางการขายและการตลาดในรูปแบบต่างๆ ทั้งระบบการขายปกติและระบบออนไลน์ เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ข้าวของกลุ่มเกษตรกรให้ประสบผลในเชิงธุรกิจ
2. สมาคมผู้ส่งออกข้าวเริ่มซื้อข้าวหอมมะลิจากตลาด โดยมีแผนซื้อเก็บเป็นข้าวสารปริมาณเบื้องต้น 200,000 ตัน และเก็บสต็อกเป็นระยะเวลา 3 เดือน นับแต่ ธ.ค.59-มี.ค.60 ซึ่งหลังจากที่ได้มีการเข้าหารือกับ รมว.พาณิชย์ เมื่อปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้ดำเนินการแจ้งข่าวสารขอความร่วมมือไปยังสมาชิกทุกราย โดยอยู่ระหว่างการขอเป้าหมายตัวเลขยอดการซื้อจากสมาชิกแต่ละราย คาดว่าจะรวบรวมยอดปริมาณการซื้อจากสมาชิกครบทุกรายได้ในวันที่ 8 พ.ย.นี้
3. จัดตลาดนัดข้าวเปลือกและข้าวสารผ่านช่องทางปกติ และ online เพื่อกำหนดกลไก และแผนการจัดตลาดนัดข้าวเปลือกแล้วจำนวน 42 จังหวัด 102 ครั้ง
4. สร้างค่านิยมการบริโภคข้าว รณรงค์กระตุ้นการบริโภคข้าวภายในประเทศ เช่น ร่วมกับสมาคมข้าวถุงจัดส่งข้าวในราคาเดียวกันให้กับห้างค้าปลีกทั่วประเทศนำไปเป็นของแถม, สมาคมประกันวินาศภัยไทยทำ CSR ซื้อข้าว 25,000 ตันให้ลูกค้า, ร่วมกับ ปตท. 1,464 สถานี ทั่วประเทศ เปิดพื้นที่ขายข้าว, รณรงค์การบริโภคข้าวขาว ข้าวหอมมะลิไทยและข้าวเหนียว เพื่อลดการบริโภคอาหารต่างชาติ ประชาสัมพันธ์คุณค่าทางโภชนาการของข้าวคุณภาพ เช่น ข้าวอินทรีย์, ข้าว GI, ข้าวสี โดยรณรงค์ให้ภาคเอกชนและประชาชน ซื้อข้าวเป็นของขวัญเพื่อส่งมอบให้กันในช่วงวันปีใหม่
5. โครงการ Thai Smart Farmers Promotion คัดจากกลุ่มสหกรณ์และเครือข่ายชาวนา 23 จังหวัด ที่มีความพร้อมขายข้าว โดยจะมีการจัดประชุม อบรมเทคนิคการขาย การสร้างเรื่องราว การจัดทำเว็ปไซต์ เพื่อพัฒนาศักยภาพและหาช่องทางการกระจายสินค้าใหม่ๆ ทาง E-commerce , Outlet, ตลาดต้องชม เครือข่าย ททท. และ ธนาคาร ฯลฯ
ส่วนแผนงานสำหรับต่างประเทศนั้น จะจัดทำแผน Roadshow ถึงไตรมาส 2/60 รวม 20 คณะ เพื่อเร่งรัดหาตลาดส่งออกข้าวใหม่ๆ พบปะกับลูกค้าเดิม Show ที่จะบุกตลาดข้าวทั้งในลักษณะ G2G, B2B และ B2C ดังนี้ โดยในส่วนของรัฐต่อรัฐ (G2G) มีแผนจะเดินทางไปมาเลเซีย 1-2 พ.ย.59 อินโดนีเซีย 3-4 พ.ย.59 และฟิลิปปินส์ ในช่วงเดือนพ.ย.59 จากนั้นจะเดินทางไปจีน อิหร่าน อิรัก และแอฟริกาในเดือน ธ.ค.59 และ ก.พ.-เม.ย.60
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการส่งมอบข้าวในสต็อกภายใต้ G2G กับบริษัท COFCO สาธารณรัฐประชาชนจีนที่ลงนามในสมัยรัฐบาลที่แล้วปริมาณที่เหลืออีก 900,000 ตันจนแล้วเสร็จ และสามารถทำสัญญา G2G เพิ่มเติมกับรัฐบาลต่างประเทศอีก 2,555,000 ตัน ได้แก่ บริษัท COFCO ของจีน 1,000,000 ตัน, หน่วยงาน NFA ของฟิลิปปินส์ 500,000 ตัน, หน่วยงาน BULOG ของอินโดนีเซีย ปริมาณ 655,000 ตัน, อิหร่าน อยู่ระหว่างการประสานงาน และบังกลาเทศกำลังประสานการจัดทำ MOU ซื้อข้าวไทยเพื่อประกันความมั่นคงทางอาหาร
ขณะที่การขายข้าวในรูปแบบเอกชนต่อเอกชน (B2B) วันที่ 14 พ.ย.จะมีคณะผู้แทนการค้าจากจีน ฮ่องกง อาเซียน สหรัฐ คานาดา และยุโรป เดินทางมาเจรจาการค้าในประเทศไทยรวมกว่า 200 บริษัท เช่น จากจีน 73 ราย ตะวันออกกลาง 34 ราย ยุโรป 32 ราย สหรัฐ 20 ราย เป็นต้น รวมทั้งคณะผู้แทนการค้าของไทยจะเดินทางไปขายข้าวที่จีนและฮ่องกงในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ม.ค.60 และช่วงเดือน ก.ค.60 มีแผนจัดคณะไปยุโรป, ตะวันออกกลาง และสหรัฐอเมริกา, แคนาดาช่วงเดือน กุ.พ. มี.ค. มิ.ย. ก.ค.60 มีแผนไปญี่ปุ่นช่วง 7-10 มีงค. 60 และไปย้ำตลาดอาเซียน คือ ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ในช่วงกลางปีหน้า
ส่วนเอกชนกับผู้บริโภค (B2C) จะร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ จัดกิจกรรมร่วมกับ Thai Select รายภูมิภาค เพื่อรณรงค์บริโภคข้าวไทยไร้ Gluten โดยจะทำพร้อมๆ กันเป็นรายภูมิภาค นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับห้าง Tesco ในประเทศอังกฤษ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยเน้น Theme ข้าวไทย ซึ่งปัจจุบัน TESCO มีการลงทุนใน 12 ประเทศทั่วโลก และมีสาขากว่า 6,900 สาขา รวมทั้งทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกับห้าง High-end อื่นๆ ในต่างประเทศ
อินโฟเควสท์