- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 07 September 2016 23:49
- Hits: 6236
ก.พาณิชย์ รับนโยบายประเทศไทย 4.0 ขับเคลื่อน 5 กลุ่มอุตสาหกรรม สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ภายใน 3-5 ปี
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ มอบนโยบายและบรรยายพิเศษแก่ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศหรือทูตพาณิชย์จากทั่วโลกในหัวข้อ 'Thailand 4.0 & Creative Thailand' ในโอกาสที่ทูตพาณิชย์เดินทางมาประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์และร่วมกำหนดแผนผลักดันการค้าระหว่างประเทศในช่วงงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับครั้งที่ 58
“ประเทศไทยกำลังก้าวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ด้านความมั่นคง ด้านการต่างประเทศ และด้านการบริหารงานภาครัฐ โดยภารกิจสำคัญขณะนี้คือ การเดินหน้าประเทศไปสู่ 'ประเทศไทย 4.0' เพื่อนำพาประเทศไปสู่ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ให้เป็นประเทศที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี'รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว
โดยนโยบาย 'ประเทศไทย 4.0' คือการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ ไปสู่'Value–Based Economy' หรือ 'เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม' โดยขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใน 3 มิติสำคัญ มิติแรกคือ เปลี่ยนจากการผลิตสินค้า'โภคภัณฑ์' ไปสู่สินค้าเชิง 'นวัตกรรม'โดยเปลี่ยนจากเกษตรดั้งเดิมสู่เกษตรสมัยใหม่ที่เน้นการบริหารจัดการและเทคโนโลยี และเป็นเกษตรกรแบบผู้ประกอบการ มิติที่สองคือ เปลี่ยนจากการขับเคลื่อนประเทศด้วยภาคอุตสาหกรรมไปสู่การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม โดยเปลี่ยนจาก SMEs ที่รัฐให้การสนับสนุนเป็น SMEs ที่มีศักยภาพสูง (Smart Enterprises และ Startups) รวมทั้งเปลี่ยนจากแรงงานที่ทักษะต่ำไปสู่แรงงานที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และทักษะสูง และมิติที่สามคือ เปลี่ยนจากการเน้นภาคการผลิตสินค้าไปสู่การเน้นภาคบริการมากขึ้น เปลี่ยนจาก Traditional Services ซึ่งมีการสร้างมูลค่าค่อนข้างต่ำ ไปสู่ High Value Services
สำหรับ การปรับเปลี่ยนในมิติต่างๆ ข้างต้นจะนำไปสู่การพัฒนา '5 กลุ่มเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมเป้าหมาย' ซึ่งประกอบด้วย 1) กลุ่มอาหาร เกษตร พัฒนาไปสู่เทคโนโลยีชีวภาพ (Bio-Tech) 2) กลุ่มสาธารณสุข สุขภาพ พัฒนาไปสู่เทคโนโลยีทางการแพทย์ (Bio-Med) 3) กลุ่มเครื่องมืออุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ พัฒนาไปสู่ระบบเครื่องกลที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุม (Mechatronics) 4) กลุ่มดิจิทัล เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่อและบังคับอุปกรณ์ต่างๆ พัฒนาไปสู่เทคโนโลยีสมองกลฝังตัว (Embedded Technology) และกลุ่มที่ 5) กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative) วัฒนธรรม พัฒนาไปสู่บริการที่มีมูลค่าสูง (High Value Services)
และเมื่อ 5 กลุ่มเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมเป้าหมายมีความแข็งแรงแล้ว ผู้ประกอบการที่เป็น SMEs จะเริ่มนำนวัตกรรมเข้ามาขับเคลื่อนหรือที่เรียกว่า Innovation Driven Enterprise ซึ่งเมื่อผนวกกับองค์ความรู้และความคิดสร้างสรรค์ SMEs รายเล็กจะขยายเป็น SMEs ที่มีศักยภาพหรือเป็น Startup นำไปสู่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านต่างๆ เช่น เทคโนโลยีการเกษตร เทคโนโลยีอาหาร เทคโนโลยีสุขภาพ เทคโนโลยีหุ่นยนต์ เทคโนโลยีการท่องเที่ยว และเทคโนโลยีการออกแบบ เป็นต้น
ด้านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้มอบนโยบายว่า หน้าที่ของทูตพาณิชย์ต่อจากการพัฒนาทั้ง 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายข้างต้น คือ การเชื่อมต่อสู่ประชาคมโลก (Connect to the World) ซึ่งการเชื่อมโยงประกอบด้วยเศรษฐกิจ 3 ระดับ คือ เศรษฐกิจภายในประเทศ เศรษฐกิจภูมิภาค และเศรษฐกิจโลก โดยเมื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจฐานรากผ่านการค้าและการลงทุนในท้องถิ่นแล้ว ทูตพาณิชย์โดยเฉพาะทูตพาณิชย์ในอาเซียนจะทำหน้าที่เชื่อมต่อเศรษฐกิจในประเทศสู่ระดับภูมิภาค ซึ่งจะเป็นอาเซียนในภาพใหญ่และ CLMVT ในภาพเล็ก ให้สอดรับกับแนวคิด CLMVT as Our Home Market ที่รัฐบาลกำลังผลักดันผ่านการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดทั้งในระดับรัฐบาลกับรัฐบาล ธุรกิจกับธุรกิจ และประชาชนกับประชาชน สุดท้ายเป็นการเชื่อมโยงสู่เศรษฐกิจโลก โดยขยายความเชื่อมโยงจากระดับภูมิภาคและเรียงร้อยอาเซียนเข้าด้วยกัน เพื่อเป็นพลังต่อรองกับภูมิภาคอื่นๆ ของประชาคมโลก ผ่านบทบาทในมิติทางภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ของภูมิภาคแห่งนี้
“เป้าหมายของการดำเนินงานตามนโยบายประเทศไทย 4.0 คือการขับเคลื่อน 5 กลุ่มเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมเป้าหมายให้เกิดผลสัมฤทธิ์ภายในระยะเวลา 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นการเปลี่ยนปัญหาและความท้าทายให้เป็นศักยภาพและโอกาส เมื่อประเทศไปสู่ประเทศไทย 4.0 เต็มรูปแบบ รูปธรรมที่จะเห็นได้อย่างเด่นชัด คือ รายได้ต่อหัวของประชากรจะเพิ่มขึ้น ความเหลื่อมล้ำต่างๆ จะลดลง ประเทศจะมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย