- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 21 August 2016 10:50
- Hits: 6585
เปิดประมูลข้าวล็อตใหม่อีก 1 ล้านตัน ไทยเตรียมร่วมประมูลขายข้าวให้ฟิลิปปินส์ 2.5 แสนตัน แม้บาทแข็งทำราคาสูงกว่าคู่แข่ง
บ้านเมือง : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ประกอบการค้าข้าวและผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมยังคงให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังคำชี้แจงเงื่อนไขการประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐ ซึ่งเปิดประมูลปริมาณรวม 1 ล้านตัน แบ่งเป็นการประมูลทั่วไปครั้งที่ 5 ปี 59 หรือข้าวคุณภาพเพื่อการบริโภค 753,000 ตัน เป็นข้าวขาว 5% ทั้งหมดใน 28 คลัง ส่วนอีก 255,000 ตัน ประมูลเป็นการทั่วไป และเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมครั้งที่ 2 ของปี 59 เป็นข้าวผิดไปจากมาตรฐาน และข้าวผิดชนิด 4 ชนิด ประกอบด้วย ข้าวท่อนปทุมธานี ปลายข้าวเอวัน ปลายข้าวเอวันเลิศ และปลายข้าวปทุมธานีใน 22 คลัง ซึ่งจะได้เปิดให้ผู้สนใจเข้าดูสภาพข้าวในคลังได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 24 ส.ค.59 ทั้งนี้การประมูลข้าวทั้ง 2 แบบจะเปิดให้ยื่นซองตรวจสอบคุณสมบัติวันที่ 25 ส.ค.นี้ แต่การประมูลข้าวเพื่อการบริโภคจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติวันที่ 29 ส.ค. และสามารถยื่นซองเสนอราคาได้ทันที ส่วนการประมูลทั่วไปและเข้าสู่อุตสาหกรรมจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติวันที่ 30 ส.ค. และสามารถยื่นซองเสนอราคาได้ทันที
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า รายละเอียดคุณสมบัติและเงื่อนไขการประมูลของประกาศทั้ง 2 ฉบับ ยังคงหลักการเดิม แต่ปริมาณที่เปิดประมูลน้อยลงมากจากครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากข้าวนาปีฤดูกาลผลิตใหม่ใกล้ออกสู่ตลาดแล้ว แต่ภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศยังมีความต้องการปลายข้าว เพื่อทดแทนการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ จึงเป็นจังหวะที่เหมาะสมสำหรับการนำข้าวขาวและปลายข้าวในสต๊อกของรัฐออกมาเปิดประมูล ส่วนจะสามารถระบายได้ปริมาณมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับราคาเสนอซื้อจะต้องผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ หรือ floor price เท่านั้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อตลาดข้าวในประเทศ
ขณะที่การพิจารณาเปิดประมูลครั้งต่อไปนั้น จะต้องดูสถานการณ์ตลาดเป็นหลัก ซึ่งอาจจะสามารถเปิดระบายในช่วงที่ผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่ เริ่มทยอยออกสู่ตลาดได้โดยที่ไม่กระทบกับราคา เนื่องจากผลผลิตข้าวของโลกที่ยังไม่แน่นอน และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา โดยเฉพาะปัญหาจากภัยธรรมชาติและความต้องการของตลาดที่ยังมีอยู่มาก แต่ได้มีการติดตามสถานการณ์เป็นรายวัน เพื่อบริหารจัดการข้าวในสต๊อกให้หมดตามแผน แต่ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่จะไม่สามารถระบายข้าวในสต๊อกที่เหลือ 9.1 ล้านตันให้หมดภายในปี 2560 หากปริมาณข้าวฤดูกาลใหม่ออกมามาก รวมทั้งความผันผวนของความต้องการข้าวโลกที่ยังไม่ชัดเจน ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนที่เงินบาทแข็งค่าขณะนี้ยอมรับว่า เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกข้าวไทย เพราะการแข็งค่าทุก 1 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จะกระทบต่อราคาข้าวไทยให้สูงขึ้นตันละ 10 เหรียญสหรัฐ ทำให้ไทยแข่งขันยากขึ้น จนประเทศผู้นำเข้าอาจจะชะลอหรือลดปริมาณการซื้อข้าว
พาณิชย์ลังเลประมูลข้าวหลัง'ค่าเงิน-สภาพอากาศ'ทำราคาป่วน
แนวหน้า: กรมการค้าต่างประเทศ เกาะติดสถานการณ์ ข้าวเป็นรายวัน เหตุข้าวมีการเปลี่ยนแปลงเร็ว พร้อมใช้เป็นเหตุผลก่อนตัดสินใจเปิดประมูลข้าว ในรอบถัดไป ขณะที่ รมว.พาณิชย์ ถกฝ่ายกฎหมายก่อนลงนามรียกค่าเสียหายข้าว "จีทูจี"
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรม การค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ข้าวในปัจจุบันยอมรับว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากความ ไม่แน่นอนของราคาข้าว สภาพอากาศ และค่าเงินที่ผันผวน โดยเฉพาะราคาข้าวส่งออกมีปัจจัยเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่า ส่งผลให้ราคาข้าวสูงขึ้นบ้าง ทั้งนี้ทางกรม จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด พิจารณาสถานการณ์ข้าวเป็นรายวัน ก่อนจะตัดสินใจว่าจะมีการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐบาลต่อหรือไม่ ในช่วงที่ข้าวฤดูกาลใหม่ หรือข้าวนาปี ที่จะเริ่มออกสู่ตลาดในช่วงปลายเดือนก.ย.นี้ เพื่อไม่ให้เป็นการกดดันราคาข้าวในตลาดเพิ่ม
ส่วนการเปิดประมูลข้าวรวม 1 ล้านตัน ซึ่งในวันที่ 29 ส.ค. 2559 จะเปิดให้เอกชนยื่นซองเสนอราคาประมูลข้าวในสต๊อก ของรัฐบาลเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 5/2559 ซึ่งเป็นข้าวเพื่อการบริโภค ที่เป็นข้าวขาว 5% ทั้งหมด ปริมาณ 753,000 ตัน ใน 28 คลัง และในวันที่ 30 ส.ค. จะเปิดประมูลข้าวในสต๊อก ของรัฐเป็นการทั่วไปและเข้าสู่อุตสาหกรรม ครั้งที่ 2/2559 ซึ่งเป็นข้าวที่ผิดจากมาตรฐาน และข้าวผิดชนิด สำหรับเอกชนที่สนใจสามารถเข้าชมข้าวในคลังข้าวได้ตั้งแต่วันที่ 18-24 ส.ค. และยื่นซองตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อประมูลข้าว ได้ในวันที่ 25 ส.ค. โดยเงื่อนไขการประมูลข้าวครั้งนี้ยังใช้หลักเกณฑ์เดิมเหมือนกับการประมูลครั้งก่อนหน้า
"การระบายครั้งนี้ก็คาดหวังว่าจะระบายได้ทั้งหมด และหวังว่าผู้ประกอบการจะให้ราคาที่ดี หากราคาที่เสนอมาไม่เหมาะสม ก็คงไม่พิจารณาขาย หรือระบายออกไป แม้หลายฝ่ายจะมองว่าราคาข้าวไม่ดี เพื่อไม่ให้กระทบต่อตลาดข้าวในประเทศ ส่วนราคาข้าวตอนนี้ ข้าวขาว 5% อยู่ที่ 12,900-13,000 บาทต่อตันข้าวสาร ปลายข้าว ราคาประมาณ 11,900-12,000 บาทต่อตันข้าวสาร"
นางดวงพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 31 ส.ค. 2559 นี้ ทางฟิลิปปินส์ จะเปิดประมูลซื้อข้าวขาว 25% แบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) ปริมาณ 250,000 ตัน จาก 3 ประเทศ คือ ไทย เวียดนาม และกัมพูชา โดยครั้งนี้ฟิลิปปินส์เปิดซื้อข้าวน้อยกว่า ทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งจะเปิดซื้อ ประมาณ 5-6 แสนตัน อย่างไรก็ตาม ราคาข้าวไทยถือว่ายังคงสูงเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง เพราะข้าวขาว 25% ราคาส่งออก(FOB) ของไทยอยู่ที่ 388 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะที่ข้าวเวียดนามราคา 335 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่วนข้าวกัมพูชา ไม่มีกำหนดไว้เนื่องจากปริมาณน้อย แต่ไทยก็จะยื่นประมูล และเชื่อว่าไทยยังแข่งขันได้
ส่วนการลงนามในหนังสือบังคับทางปกครอง เพื่อเรียกค่าชดใช้ 20,000 ล้านบาท กรณีการขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ขณะนี้ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ อยู่ระหว่าง การปรึกษาหารือในข้อกฎหมายกับนักกฎหมาย เพื่อความรอบคอบ ก่อนที่จะมีการลงนามและส่งหนังสือไปให้ผู้ที่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 6 ราย ซึ่งอาจต้องใช้ระเวลาในการดำเนินการ
ไทยสู้ราคาขายข้าวฟิลิปปินส์ 2.5 แสนตัน
ไทยโพสต์ : นนทบุรี * พาณิชย์พร้อมสู้ราคากับเวียดนาม กัมพูชา เสนอขายข้าวให้ฟิลิปปินส์ 2.5 แสนตัน รับแข่งยาก เหตุราคาข้าวไทยแพงกว่า แถมยังเจอปัญหาบาทแข็งอีก
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดี กรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า หน่วยงานจัดซื้อข้าวรัฐบาลฟิลิปปินส์ (NFA) ได้ประกาศเปิดประมูลซื้อข้าวจากรัฐบาลต่างประเทศ ปริมาณ 2.5 แสนตัน เป็นการนำเข้าข้าวขาว 25% โดยจะเปิดให้รัฐบาล 3 ประเทศเข้าเสนอแข่งขัน ได้แก่ ไทย เวียดนาม และกัมพูชา ในวันที่ 31 ส.ค.นี้
โดยกรมจะเข้าร่วมเสนอราคาขายข้าวให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ในครั้งนี้ด้วย หากได้ออเดอร์มา จะให้สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยไปจัดสรรให้กับสมาชิก และจัดหาข้าวฤดูกาลใหม่ไปส่งมอบให้รัฐ บาลฟิลิปปินส์ต่อไป
"การแข่งขันเสนอราคาขายข้าวให้กับรัฐบาลฟิลิปปินส์ครั้งนี้ ยอมรับว่าแข่งขันได้ยาก เพราะราคาข้าวไทยแพงกว่าคู่แข่งมาก โดยราคาส่งออก (เอฟโอบี) ข้าว 25% ของไทยอยู่ที่ 388 เหรียญสหรัฐต่อตัน ของเวียดนามอยู่ที่ 335 เหรียญสหรัฐต่อตัน ของกัมพูชาไม่มีการเก็บบันทึกไว้ ซึ่งในการเสนอราคา จะต้องบวกค่าใช้จ่าย ทั้งค่าประกันภัย ค่าขนส่งท่าเรือจนไปถึงส่งมอบหน้าโกดังของฟิลิป ปินส์ อีกทั้งค่าเงินบาทไทยแข็งค่าขึ้นมา ทำให้ราคาข้าวไทยห่างจากคู่แข่งเพิ่มขึ้น" นางดวงพรกล่าว
อย่างไรก็ตาม กรมจะหารือกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยว่าจะมีกลยุทธ์หรือมาตรการสนับสนุนใดบ้างในการไปเสนอราคาขายข้าวให้กับฟิลิปปินส์ เพราะหากได้ออเดอร์มา จะเป็นผลดีต่อราคาข้าวฤดูกาลใหม่ของไทย ที่จะมีตลาดรองรับเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยดูแลราคา ข้าวไทยได้อีกทาง
สำหรับ การเปิดชี้แจงทีโออาร์ประมูลข้าวสารสต็อกรัฐบาลปริมาณ 1 ล้านตัน หลักเกณฑ์ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จะเปิดให้ผู้สนใจดูสภาพข้าวได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป และเปิดให้ยื่นซองคุณสมบัติวันที่ 25 ส.ค. จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านเกณฑ์และให้ยื่นซองเสนอราคาในวันเดียวกันสำหรับการประมูลข้าวทั่วไปวันที่ 29 ส.ค. ส่วนการประ มูลข้าวเพื่อเข้าอุตสาหกรรม จะประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติและให้ยื่นซองเสนอราคาวันที่ 30 ส.ค.
ไทยเตรียมร่วมประมูลขายข้าวให้ฟิลิปปินส์ แม้บาทแข็งทำราคาสูงกว่าคู่แข่ง
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศจะเข้าร่วมเสนอราคาในการประมูลข้าวที่หน่วยงานจัดซื้อข้าวของรัฐบาลฟิลิปปินส์ (NFA) ได้ประกาศเปิดประมูลซื้อข้าวจากรัฐบาลต่างประเทศ 250,000 ตัน ซึ่งเป็นการนำเข้าข้าวขาว 25% โดยเปิดให้รัฐบาล 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม และกัมพูชา เสนอราคาในวันที่ 31 ส.ค.59
ทั้งนี้ ยอมรับว่าข้าวไทยอาจจะแข่งขันได้ยาก เพราะมีราคาสูงกว่าประเทศคู่แข่ง เนื่องจากเงินบาทแข็งค่า แต่อย่างไรก็ดี หากชนะการประมูล กรมฯ จะให้สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยจัดสรรให้กับสมาชิก เพื่อหาข้าวฤดูกาลใหม่มาส่งมอบให้ฟิลิปปินส์ต่อไป ซึ่งจะส่งผลให้ราคาข้าวใหม่ปรับขึ้นได้
"การเสนอราคาประมูลครั้งนี้ ยอมรับว่ายาก เพราะราคาข้าวไทยแพงกว่าคู่แข่งมาก โดยราคาส่งออก (FOB) ข้าว 25% ของไทยตันละ 388 เหรียญสหรัฐ เวียดนามตันละ 335 เหรียญฯ ประกอบกับเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาก โดยการแข็งค่าขึ้น 1 บาท ราคาข้าวไทยจะแพงขึ้นถึง 10 เหรียญฯ อีกทั้งการเสนอราคาครั้งนี้ต้องส่งถึงโกดังผู้ซื้อ จึงต้องบวกเพิ่มค่าระวางเรือ ค่าประกันภัยสินค้า และค่าขนส่งไปจนถึงโกดังผู้ซื้อด้วย ซึ่งอาจทำให้ข้าวไทยแข่งขันยาก แต่กรมฯ จะพยายามให้ดีที่สุด" อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศระบุ
สำหรับ การเปิดชี้แจงหลักเกณฑ์ และเงื่อนไข (TOR)การประมูลข้าวสารสต็อกรัฐบาลปริมาณ 1 ล้านตัน แบ่งเป็น การประมูลทั่วไป 753,000 ตัน และการประมูลทั่วไปรวมทั้งเข้าอุตสาหกรรม 255,000 ตันนั้น หลักเกณฑ์ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก TOR เดิม โดยจะเปิดให้ผู้สนใจดูสภาพข้าวได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป และเปิดให้ผู้สนใจยื่นซองคุณสมบัติวันที่ 25 ส.ค.นี้ ประกาศรายชื่อผู้ผ่านเกณฑ์และให้ยื่นซองเสนอราคาในวันเดียวกันสำหรับการประมูลข้าวทั่วไปวันที่ 29 ส.ค. ส่วนการประมูลข้าวทั่วไปและเข้าอุตสาหกรรมจะประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติและให้ยื่นซองเสนอราคาวันที่ 30 ส.ค. โดยยืนยันว่าถ้าเอกชนเสนอราคาต่ำกว่าเกณฑ์ราคาขั้นต่ำ จะไม่ขายให้แน่นอน
"การพิจารณาเปิดประมูลครั้งต่อไปนั้น จะต้องดูสถานการณ์ตลาดเป็นหลัก อาจจะเปิดระบายได้ในส่วนของข้าวเข้าอุตสาหกรรม เพราะเป็นคนละตลาดกับข้าวปกติ ซึ่งสต็อกข้าวรัฐบาลปัจจุบันมีเหลืออยู่ 9.1 ล้านตัน เป็นข้าวเข้าอุตสาหกรรมสัดส่วน 40% และยังคงยืนยันที่จะระบายข้าวจนหมดสต็อกให้ได้ตามแผนในปี 60 นี้" นางดวงพร กล่าว
อินโฟเควสท์