- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 04 June 2016 23:53
- Hits: 3774
ก.พาณิชย์ เผยไทย-กัมพูชา ดันเป้าการค้าพุ่งขึ้น 3 เท่าในอีก 5 ปีข้างหน้า พร้อมชู CLMVT Forum 2016 ผลักดันการค้า ลงทุน ท่องเที่ยวให้เข้มแข็ง
ก.พาณิชย์ เผย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา (H.E. Mr. Pan Sorasak) เข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางอภิรดี ตันตราภรณ์) เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2559 ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เนื่องในโอกาสที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาและคณะเดินทางเยือนไทย เพื่อเข้าร่วมและกล่าวสุนทรพจน์ในงาน “Thailand-Cambodia Networking Gala Dinner” ร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ซึ่งงานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการสร้างเครือข่ายระดับผู้นำภาครัฐและเอกชนไทย-กัมพูชา”จัดขึ้นโดยกระทรวงพาณิชย์ ระหว่างวันที่ 26-28 พฤษภาคม 2559
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้แสดงความยินดีต่อการเข้ารับตำแหน่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา และได้หารือประเด็นทางการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศ เพื่อผลักดันการค้าระหว่างกันให้เป็นไปตามเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าไทย-กัมพูชา เป็น 3 เท่า ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ตามที่ทั้งสองฝ่ายได้กำหนดร่วมกันไว้ในการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (JCR) ไทย - กัมพูชา ครั้งที่ 2 เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำถึงความเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกัน และเห็นพ้องในการให้ความสำคัญเรื่องการอำนวยความสะดวกสินค้าข้ามแดนและผ่านแดน รวมทั้งการเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างกัน สำหรับในด้านการลงทุน ไทยมีนโยบายส่งเสริมให้นักลงทุนไทยไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ในขณะที่กัมพูชาสนับสนุนให้ต่างชาติเข้าไปลงทุนและอนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นได้ 100% และสามารถนำผลกำไรกลับประเทศได้ทั้งหมด
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงการจัดงาน CLMVT Forum ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 16-18 มิถุนายน 2559 ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ซึ่งฝ่ายกัมพูชามีความตื่นตัวและให้ความสนใจกับงานนี้มาก โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาได้ตอบรับเข้าร่วมงานแล้ว และยังมีรัฐมนตรีกัมพูชาอีก 3 ท่านตอบรับเข้าร่วมงานนี้ ได้แก่ รัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและหัตถกรรม (H.E. Mr. Cham Prasidh) รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (H.E. Mr. Sok Chenda Sophea) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว (H.E. Dr. Thong Khon) ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาได้แสดงความสนใจที่จะเป็นเจ้าภาพจัดงาน CLMVT Forum ในปี 2560 โดยจะนำกลับไปหารือกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
ปัจจุบันกัมพูชาเป็นคู่ค้าอันดับ 21 ของไทย และเป็นคู่ค้าอันดับ 8 ของไทยในกลุ่มอาเซียน ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา (2554-2558) การค้าระหว่างไทยกับกัมพูชามีมูลค่าเฉลี่ยประมาณปีละ 4,444 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 18.2 ต่อปี โดยในปี 2558 การค้าไทย-กัมพูชา มีมูลค่าการค้า 5,597.73 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 9.43 ทั้งนี้ ในช่วง 3 เดือนแรก (ม.ค.-มี.ค.) ของปี 2559 การค้ารวมไทย-กัมพูชา มีมูลค่า 1,387.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2.1 โดยไทยส่งออกสินค้าไปกัมพูชามีมูลค่า 1,097.1 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าสินค้าจากกัมพูชามีมูลค่า 290.1 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องดื่ม ปูนซีเมนต์ น้ำตาลทราย เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก เคมีภัณฑ์ ยานพาหนะอื่นๆ และส่วนประกอบ เป็นต้น
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
พาณิชย์ เร่งกระชับความร่วมมือ -แก้ไขปัญหาในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชื่อมโยงเพื่อนบ้านกระตุ้นการค้าชายแดน
กระทรวงพาณิชย์ มอบหมายพาณิชย์จังหวัด ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษรวมทั้งสิ้น 10 พื้นที่ ประกอบด้วยเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษระยะแรก 6 พื้นที่ ได้แก่ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตาก สระแก้ว มุกดาหาร หนองคาย สงขลา และตราด และให้ระยะที่สอง 4 พื้นที่ ได้แก่ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัด นราธิวาส เชียงราย นครพนม และกาญจนบุรี เน้นใช้ประโยชน์จากการเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน และใช้โอกาสจากการที่ไทยเป็นศูนย์กลางในการขนส่งสินค้าในอาเซียนอย่างเต็มที่
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ กระทรวงฯ ได้มอบนโยบายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษระยะแรก เน้นการบูรณาการความร่วมมือร่วมกับ หอการค้าไทย และหน่วยงานทางด้านการค้าและอุตสาหกรรม ในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อหาแนวทางความร่วมมือในการขยายการค้า การลงทุนและ การขนส่งระหว่างกันเพื่อนำไปสู่ความร่วมมือและลดอุปสรรคทางการค้าการลงทุนระหว่างกัน ส่วนของพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษระยะที่ 2 เน้นการให้ความรู้ โดยดำเนินการจัดการสัมมนาเกี่ยวกับการขยายการค้าชายแดนและการลงทุนไทยผ่านเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งมุ่งหวังให้ผู้ประกอบการได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการค้าชายแดน และการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชัดเจนยิ่งขึ้น
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศจะเปิดให้บริการประชาชนแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว หรือ ที่เรียกว่า MOC Single Point ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและผู้ประกอบการได้มากยิ่งขึ้น โดยบริการต่างๆ ประกอบด้วย การให้คำปรึกษา การรับเรื่องร้องเรียนและรับคำขอจดทะเบียน จดแจ้งและขออนุญาตของหน่วยงานต่าง ๆ ขณะนี้ ได้เปิดบริการนำร่อง ณ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นแห่งแรก และจะขยายไปยังสำนักงานพาณิชย์จังหวัดให้ครบทั่วประเทศภายในเดือนกันยายน ศกนี้ โดยการให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียวในช่วงแรก เริ่มจากบริการที่เกี่ยวข้องกับใบอนุญาตและหนังสือรับรองต่างๆ ที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงพาณิชย์ ได้แก่ การขอรับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ขอหนังสือรับรองประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว หนังสืออนุญาตขนย้ายสินค้า ขออนุญาตประกอบการค้าข้าว ขอคืนหลักประกันสัญญาซื้อขายสินค้าเกษตร ขอมีบัตรประจำตัวผู้ส่งออก และนำเข้าสินค้า รวมถึงการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า และจะขยายสู่การบริการด้านอื่น ๆ ในช่วงระยะเวลาต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กระทรวงฯ ได้ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดมหกรรมการค้าชายแดน โดยเริ่มที่จังหวัดนครพนมไปแล้วระหว่างวันที่ 12-13 พฤษภาคม 2559 ณ โรงแรมไอโฮเต็ล และครั้งต่อไปจะจัดมหกรรมค้าชายแดน ณ จังหวัดจันทบุรี และเชียงราย สำหรับการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคทางการค้าที่ผ่านมา ได้มีการจัดคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ไปเจรจาและส่งเสริมการค้า ณ ประเทศเพื่อนบ้านในเดือนพฤษภาคม ศกนี้ อาทิ การจัดคณะไปเยือนแขวงคำม่วนเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ศกนี้ เพื่อติดตามการดำเนินงานความร่วมมือทางการค้าระหว่างกัน ตาม MOU
ซึ่งมีการลงนามร่วมกันแล้วเมื่อกันยายน 2557 อาทิ ข้อเสนอการให้เปิดด่านผ่านแดนถาวร ระหว่างไทย กับ สปป. ลาว ณ ด่านนครพนม ตลอด 24 ชั่วโมง การตั้งจุดผ่านแดนร่วมกันที่ด่านสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 นอกจากนั้น สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสระแก้วมีกำหนดจัดคณะไปหารือแนวทางแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา บริเวณด่านจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับจังหวัดบันเตียเมียนเจย และพระตะบอง และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดหนองคายมีกำหนดจัดคณะไปหารือร่วมกับนครเวียงจันทร์ เพื่อความร่วมมือการสร้างเครือข่ายธุรกิจ การจัดงานแสดงสินค้า การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงข้อมูลทางเศรษฐกิจ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย