WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

MOCอภรด ตนตราภรณ copyพณ.แจงปมนำเข้าอาหารสหรัฐ หนุน SMEs ใช้เว็บไซต์ขยายช่องทางการตลาด

      บ้านเมือง : นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงวอชิงตัน และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศในสหรัฐอเมริกา ได้รายงานความคืบหน้าและทำความเข้าใจกับผู้นำเข้าสินค้าอาหารรายสำคัญเกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐบาลไทย ในการแก้ไขปัญหาแรงงานบังคับในอุตสาหกรรมประมงให้ผู้นำเข้าได้รับทราบ

    "รัฐบาลไทยมิได้นิ่งนอนใจและได้แก้ไขปัญหามาโดยตลอด ซึ่งมีความคืบหน้าเป็นลำดับ อาทิ การดำเนินการอย่างเข้มงวดในการจับกุมผู้ที่มีส่วนร่วมในการกระทำที่ผิดกฎหมาย การออกกฎหมายด้านประมงฉบับใหม่เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์และแรงงานบังคับ การจัดทำบัญชีการลงทะเบียนแรงงานต่างชาติ การให้ความช่วยเหลือแก่แรงงานที่เคราะห์ร้าย รวมทั้งทำงานและประสานงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับองค์การแรงงานสากลและกลุ่มเอกชนอื่นๆ เป็นต้น" นางอภิรดี กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อัครราชทูต (ฝ่ายการพาณิชย์)  ณ กรุงวอชิงตัน และผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ เมืองชิคาโก ได้เดินทางเข้าพบ Ms. Martha Cutright Sarra ตำแหน่ง Vice President & Chief Ethics and Compliance Officer บริษัท The Kroger ณ สำนักงานใหญ่เมือง Cincinnati รัฐโอไฮโอ เพื่อรายงานความคืบหน้าการดำเนินการของรัฐบาลไทยในประเด็นดังกล่าวให้บริษัท The Kroger ได้รับทราบ และเพื่อเป็นการตอกย้ำให้คู่ค้ารายใหญ่มีความมั่นใจว่าตลอดห่วงโซ่อุปทานอาหารทะเลของประเทศไทยปราศจากการค้ามนุษย์และแรงงานบังคับ

       ทั้งนี้ ได้รับรายงานจาก สคต. ณ เมืองชิคาโก ว่า Mr. Jeffrey L.Darling ตำแหน่ง Corporate Brand Global Sourcing Manager บริษัท The Kroger จะเดินทางเยือนงาน THAIFEX-World of Food Asia 2016 ในวันที่ 25-29 พ.ค. 2559 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในฐานะแขกพิเศษ และได้ให้เกียรติเป็นผู้บรรยายพิเศษให้กับผู้ประกอบการและผู้ส่งออกไทยในงาน และในเดือนกรกฎาคม 2559 ฝ่าย Ethics and Compliance และฝ่าย Global Sourcing ของบริษัทฯ จะเดินทางเยือนประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง

    สำหรับ ห้าง Kroger เป็นซูเปอร์มาร์เกตอันดับ 1 ของสหรัฐ มียอดจำหน่าย 108 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีสาขาในเครือทั้งหมดจำนวน 2,778 แห่ง และนำเข้าสินค้าจากทั่วโลกกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยนำเข้าจากไทยประมาณ 80 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าที่นำเข้าได้แก่ อาหารทะเลแช่แข็ง ปลาทูน่ากระป๋อง สับปะรดกระป๋อง ข้าวหอมมะลิ และของใช้ในครัวเรือน

    นางอภิรดี กล่าวว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ดำเนินการส่งเสริมและให้ความสำคัญกับธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) เนื่องจากเป็นธุรกิจที่อยู่ในความนิยมของผู้บริโภคและวงการการค้าโลก โดยมีอัตราการขยายตัวและการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งผลสำรวจของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ในปี 2558 พบว่า ประเทศไทยมีร้านค้าออนไลน์อยู่ 502,676 ราย สร้างมูลค่าทางการตลาดกว่า 2.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ถึง 3.7%

     "กระทรวงฯ ได้กำหนดนโยบายนำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นการค้าแบบไร้พรมแดนเข้ามาช่วยในการเพิ่มศักยภาพด้านการตลาดและส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ชุมชนของไทย เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่สินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนไทยให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการทำการตลาดผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ ซึ่งเป็นรูปแบบการค้าที่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ/สังคม และพฤติกรรมการบริโภคของผู้คนในยุคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว สามารถเข้าถึงสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลา" นางอภิรดี กล่าว

    ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้สร้างเว็บไซต์ ThaiCommerceStore.com เพื่อเป็นตลาดกลางผลิตภัณฑ์ชุมชนออนไลน์มาตั้งแต่ปี 2557 โดยได้รวบรวมผู้ประกอบธุรกิจผลิตภัณฑ์ชุมชนของไทย ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์จากศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ สินค้า OTOP, Organic, Halal, GI (สินค้าที่เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) และ Fairtrade (การค้าที่ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย) ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าออนไลน์ที่เข้าร่วมแล้วจำนวน 1,324 ร้านค้า ผู้บริโภคโดยสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนได้อย่างสะดวกสบายหลากหลายช่องทางตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคดิจิตอล ได้แก่ เว็บไซต์ www.thaicommercestore.com และ Application: Thai Commerce Store สามารถเข้าระบบได้ทั้งคอมพิวเตอร์ และ Smart Phone

      อย่างไรก็ตาม การสร้างตลาดกลางผลิตภัณฑ์ชุมชนออนไลน์ ThaiCommerceStore.com ไม่เพียงแต่สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) ของรัฐบาล ที่ต้องการให้ผู้ประกอบธุรกิจหรือธุรกิจ SMEsได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่ไปใช้ในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ยังรวมถึงการนำ e-Commerce ไปใช้เพื่อขยายโอกาสทางการตลาด เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผลิตภัณฑ์ชุมชนของไทยในระยะยาว โดยในที่สุดมูลค่าทางการค้าก็คือ รายได้ที่กลับคืนสู่ชุมชนส่งผลต่อความอยู่ดีกินดี อันจะ เป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ท้องถิ่นและเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!