- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 08 May 2016 13:41
- Hits: 2918
พณ.เล็งใช้'เกาหลีโมเดล'อัพเกรดธุรกิจด้านความงาม
แนวหน้า : นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมอยู่ระหว่างการเร่งผลักดันการสร้างรายได้จากภาคบริการ โดยเฉพาะธุรกิจบริการด้านสุขภาพและความงาม เช่น สปา โรงพยาบาล ศัลยกรรมความงาม และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งไทยมีศักยภาพ ความสามารถเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งกรมอยู่ระหว่างผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางของธุรกิจบริการสุขภาพและความงามในภูมิภาค โดยการผลักดัน ให้มีการต่อยอดการให้บริการ ทำให้มีความหลากหลาย ครบวงจร เพราะมองว่าจะขายสินค้าหรือบริการเพียงอย่างเดียว ไม่ได้แล้ว ต้องขายทั้ง 2 อย่างไปพร้อมๆ กัน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบาย
"เกาหลี มีการแตกไลน์สินค้าและบริการในธุรกิจสุขภาพและความงาม ให้มีความหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการทุกรูปแบบ ทำให้เกาหลีประสบความสำเร็จอย่างเห็นได้ชัด เช่น การศัลยกรรม จะไม่ทำแค่การเสริมสวย เสริมหล่ออย่างเดียว แต่มีสินค้าออกมาขายด้วย ขณะที่เครื่องสำอางที่ใช้สำหรับผู้ใหญ่ ก็ออกไลน์ที่ใช้สำหรับเด็ก สำหรับลูก เพื่อให้ทั้งครอบครัวได้ใช้ หรือมีการทำครีมชะลอความแก่ เพราะทุกวันนี้ หลายๆ ประเทศกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และก็เชื่อว่าไทยสามารถทำได้อย่างเกาหลีทุกอย่าง แต่ต้องปรับและทำในภาพรวมให้ได้"
นางลลิดา จิวะนันทประวัติ ผู้อำนวยการสำนักธุรกิจบริการและโลจิสติกส์การค้า กล่าวว่า กรมมีแผนจะเชิญ นักธุรกิจในอาเซียน เข้ามาดูงานด้านธุรกิจความงาน สุขภาพ สปาในไทย เพื่อให้เพื่อนบ้านได้เห็นถึงศักยภาพและพัฒนาของไทย รวมถึงสร้างความจดจำในสินค้าและบริการของให้เพื่อนบ้านด้วย ซึ่งหากประเทศไหนมีโอกาส ก็น่าจะดันธุรกิจไทยออกไปค้าขาย หรือไปลงทุนได้ นอกจากนี้กรมจะผลักดันให้ผู้ผลิตมีการสร้างเรื่องราวให้กับสินค้า สร้างการรับรู้และจดจำให้กับผู้บริโภค ซึ่งสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพและความงามของไทย สามารถสร้างเรื่องราวได้ เพราะมีทั้งภูมิปัญญา มีนวัตกรรม ที่สั่งสมมาช้านาน ต้องดึงจุดแข็งออกมาให้ได้ เหมือนกับแบรนด์ดังๆ ระดับโลก ต่างก็มีเรื่องราวของตัวสินค้า
"เกาหลี ได้เชิญประเทศอาเซียนไปดูงานด้านเครื่องสำอาง เพื่อแสดงศักยภาพให้เห็นว่าปัจจุบันมีการพัฒนาไปถึงไหนแล้ว ซึ่งเกาหลีได้ให้คำแนะนำว่าไทยสามารถเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพและความงามในอาเซียนได้ เพราะทุกวันนี้ ไทยเป็นผู้นำด้านการผลิตเครื่องสำอาง สปา อยู่แล้ว แต่ต้องรีบทำ เพื่อชิงความได้เปรียบประเทศอาเซียนอื่นที่ขณะนี้หลายๆ ประเทศเริ่มให้ความสำคัญในการส่งเสริมธุรกิจด้านนี้"
พาณิชย์ปั้นฮับสุขภาพ-ความงามแนะอิงกิมจิโมเดลแตกไลน์สินค้า
ไทยโพสต์ : นนทบุรี * พาณิชย์กระตุ้นผู้ประกอบการ เร่งเสริมแกร่งฮับบริการสุขภาพและความงาม แนะยึดเกาหลีโมเดล แตก ไลน์สินค้าครอบคลุมความต้อง การลูกค้าทุกกลุ่ม มั่นใจสร้างรายได้ให้ไทยเพิ่มขึ้นแน่
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้เร่งผลักดัน การสร้างรายได้จากภาคบริการ โดยเฉพาะธุรกิจบริการด้านสุขภาพและความงาม ที่ไทยมีขีดความสามารถและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งสปา โรงพยาบาล ศัลยกรรมความงาม และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องโดยอยู่ระหว่างผลักดันให้การเป็นศูนย์กลางของธุรกิจบริการสุขภาพและความงามในภูมิภาคของไทยมีความเข้มแข็ง เพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ กรมกำลังผลักดันให้ธุรกิจบริการสุขภาพและความงามมีการต่อยอดการให้บริการ เพื่อสร้างความเข้มแข็ง ให้กับธุรกิจ เพราะจะขายสินค้าหรือบริการเพียงอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องขายทั้ง 2 อย่างไปพร้อมๆ กัน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบาย และใช้บริการที่เดียวได้ทุกอย่าง หรือหาซื้อสินค้าที่เดียว แต่ได้ครบทุกอย่างที่ต้องการ
"อย่างเกาหลีที่ประสบความสำเร็จในด้านสินค้าและบริการเพื่อสุขภาพและความงาม เขามีการแตกไลน์เพื่อตอบ สนองความต้องการทุกรูปแบบ อย่างศัลยกรรม เขาไม่ใช่แค่ทำ เสริมสวย เสริมหล่อเพียงอย่างเดียว แต่มีสินค้าออกมาขายด้วย หรือเครื่องสำอางที่ใช้สำหรับผู้ใหญ่ ก็ออกไลน์ที่ใช้สำ หรับเด็ก สำหรับลูก เพื่อให้ทั้งครอบครัวได้ใช้ หรือการทำครีมชะลอความแก่ เพราะทุกวันนี้ หลายๆ ประเทศกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งทุกอย่างนี้ไทยก็ทำได้ แต่ต้องปรับและทำในภาพรวมให้ได้" นางจันทิรากล่าว
นางลลิดา จิวะนันทประวัติ ผู้อำนวยการสำนักธุรกิจบริการและโลจิสติกส์การค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไทย กล่าวว่า เกาหลีใต้ได้เชิญประเทศอา เซียนไปดูงานด้านเครื่องสำอาง เพื่อแสดงศักยภาพให้เห็นว่าปัจจุบันมีการพัฒนาไปถึงไหน ซึ่งเกาหลีได้ให้คำแนะนำว่า ไทยสามารถเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพและความงามในอาเซียนได้ เพราะไทยเป็นผู้ นำด้านการผลิตเครื่องสำอาง สปาอยู่แล้ว แต่ต้องรีบทำ เพื่อชิงความได้เปรียบประเทศอาเซียนอื่นๆ ที่เริ่มให้ความสำคัญในการส่งเสริมธุรกิจด้านนี้
นอกจากนี้ กรมจะผลักดันให้ผู้ผลิตมีการสร้างเรื่องราวให้กับสินค้า เพราะการขาย สินค้าทุกวันนี้ต้องสร้างความโดดเด่น สร้างที่มาที่ไปให้กับสินค้า เพื่อสร้างการจดจำให้กับผู้บริโภค.