- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 05 May 2016 13:32
- Hits: 2549
พาณิชย์ เล็งคุมเข้มต่างชาตินำเข้าผัก-ผลไม้มาขายในไทย
แนวหน้า : น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าภายใน ได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลด้านการนำเข้าสินค้าผักและผลไม้ ทั้งกรมวิชาการเกษตร องค์การอาหารและยา(อย.) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมศุลกากร หลังพบว่าขณะนี้มีคนต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจีน ได้เข้ามาทำธุรกิจค้าขายผักและ ผลไม้ในตลาดค้าส่งผักและผลไม้ในไทย เช่น ตลาดไท ตลาดไอยรา และยังได้นำสินค้าผักมาขายที่ตลาด 4 มุมเมือง และตลาดศรีเมือง ขณะเดียวกันยังพบว่ามีการนำเข้าสินค้าผักและผลไม้ทั้งแอปเปิ้ล สาลี่ องุ่น และผักต่างๆมาจากจีน และเวียดนาม ผ่านมาทางด่านเชียงของ จ.เชียงราย เส้นทาง R 3 A ผ่าน.จ.นครพนม จ.หนองคาย และจ.มุกดาหาร ด้วย
ทั้งนี้ จากการหารือพบว่า การนำเข้าผักผลไม้จากจีน ที่เข้ามาได้จำนวนมากนั้น ส่วนหนึ่งมาจากข้อตกลงเอฟทีเอ ไทย-จีน ที่กำหนดให้สินค้านำเข้าเหล่านี้ไม่มีภาษี นำเข้า แต่เมื่อเข้ามาที่ด่าน จะต้องผ่านการตรวจสอบจาก 3 หน่วยงานหลัก คือ กรมศุลกากร กรมวิชาการเกษตร ซึ่งจะตรวจสอบเรื่องมาตรฐานสุขอนามัย ผ่านการสุ่มตัวอย่าง และหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข คือ องค์การอาหารและยา (อย.) จะเข้ามาตรวจสอบเรื่องสารตกค้าง ด้าน ความปลอดภัยอาหาร โดยทั้ง 3 หน่วยงาน ระบุว่าขั้นตอนการนำเข้าสินค้ามีการทำงานร่วมกันในลักษณะการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ national single window ที่มีการประสานการทำงาน และมีการ ตรวจเข้มตามด่านต่างๆ อยู่แล้ว
"จากการหารือกับตลาดไท พบว่ามีชาวต่างชาติถึง 60%ส่วนใหญ่เป็นจีนและเวียดนาม ที่เข้ามาเช่าพื้นที่จอดรถ ขายสินค้าดังกล่าว โดยตลาดไทคิดค่าเช่าวันละ 1,000 บาท เนื่องจากรถที่ใช้ขนผลไม้และผักเข้ามาจะเป็นรถคอนเทนเนอร์ห้องเย็นขนาดใหญ่ วิ่งมาจากจีน และมาเปลี่ยนเป็นรถไทยเพื่อนำสินค้าเข้ามาขายในไทย จากนั้นจะมีพ่อค้าคนไทยเอารถมารับซื้อไปขายตามตลาดต่างๆ อีกทอด และหากขายไม่หมด ก็จะเก็บไว้ในห้องเย็นที่อยู่ในบริเวณตลาดไท"น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูลภายในเดือนพฤษภาคม 2559 และเตรียมกำหนดแนวทางบริหารจัดการ เพื่อให้มีการทำธุรกิจอย่างถูกกฎหมาย และเท่าเทียมกันระหว่างผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ ที่จะต้องมีการเสียภาษีการทำธุรกิจเช่นเดียวกับคนไทย ซึ่งปัจจุบันสินค้านำเข้าที่มาตรการบริหารจัดการนั้น มีเพียงหอมแดง และส้มเท่านั้น ที่ผู้นำเข้าจะต้องมีการมาขึ้นทะเบียน และจะต้องแจ้งรายละเอียดว่าสินค้านำเข้ามา ส่งไปขายให้ใคร
โดยแนวทางเบื้องต้น กระทรวงพาณิชย์จะลงไปดูว่านักธุรกิจต่างชาติที่เข้ามา ได้เข้ามาแบบถูกกฎหมายหรือไม่ หากเข้ามาทำธุรกิจไซโลหรือห้องเย็น ก็จะต้องมาขออนุญาตจากกรมการค้าภายใน และจะต้องมีการขอวีซ่าเข้ามาแบบถูกต้อง รวมถึงเมื่อมีรายได้ จะต้องเสียภาษีด้วย และผู้นำเข้าสินค้าต่างชาติต้องมีการขึ้นทะเบียนและแจ้งรายละเอียดว่าการขายสินค้าให้ใคร เพื่อจะได้ทราบว่าผู้นำเข้าเหล่านี้เป็นผู้นำเข้าที่มีตัวตนจริง เนื่องจากเท่าที่ทราบ คนจีนเหล่านี้จะใช้วิธีว่าจ้างคนไทย มาเป็นตัวแทนในการทำเรื่องขออนุญาตนำเข้าสินค้าเข้ามาขายในไทย เช่น การจ้างชิปปิ้งให้มีการนำเข้าสินค้าให้